24 ต.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ออกไปก่อน ว่า ต้องเข้าใจว่าการอนุมัติสัมปทานเป็นเรื่องของกระทรวงพลังงาน ที่มีหน้าที่ต้องจัดหาแหล่งพลังงาน เพื่อให้มีการใช้งานอย่างเพียงพอภายในประเทศ ซึ่งต้องฟังข้อมูลจากส่วนราชการด้วย ถ้าฟังข้างนอกอย่างเดียวคงไม่ได้ ตนฟังทั้งสองทาง เวลามีปัญหาจากทางไหนตนก็ให้เขาตอบ
ประเด็นสำคัญวันนี้คือต่างก็ไม่ฟังกัน ซึ่งความจริงต้องฟังว่าผิดถูกอย่างไร หากพูดคนละประเด็นอย่างนี้จะไปไม่ได้ ประเด็นเปิดสัมปทานปิโตรเลียม 29 แปลงจริงๆ แล้วเป็นสัมปทานเดิมที่กำลังจะหมดอายุและต้องต่ออายุ และที่ต้องต่อสัมปทานในตอนนี้ เพราะถ้าจะต่อให้เขาทำ เขาต้องใช้เวลาในการลงทุนเพิ่ม โดยเราต้องให้เวลาเขาถ้าจะให้เขามาลงทุนโดยใช้เวลาเพียงปีเดียวจะไม่ทัน ขณะนี้เป็นขั้นตอนการอนุมัติให้ไปสำรวจ อาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้ ที่ผ่านมาการเจอน้ำมันมีน้อยมาก และแปลงพวกนี้เป็นแปลงที่เคยสำรวจแล้วไม่เจอ แต่เขาต้องทำต่อ และเขาเองต้องรับความเสี่ยงด้วย ขณะเดียวกัน ถ้าเราจะทำเองก็เจาะไม่ได้ จึงต้องเปิดสัมปทาน
ทั้งนี้ เราต้องไปดูเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ให้รัฐว่าเพียงพอคุ้มค่าหรือไม่ แต่จากการฟังข้อมูลที่ได้รับจากส่วนราชการทราบว่า มีน้ำมันปริมาณไม่มาก แต่จำเป็นต้องมีไว้ เพราะแก๊สบ่อเดิมที่เราใช้อยู่จะหมดเกลี้ยงในปี 2561 หากไม่เจาะใหม่เพิ่มเติมไว้ ในปี 2561ต้องซื้อเข้ามาทั้งหมด แต่เรื่องการปรับผลประโยชน์กันอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และวันนี้เราต้องปรับราคาพลังงานตามราคาน้ำมันที่ซื้อเข้ามาผลิต ช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันลดลงได้เพราะราคาข้างนอกลดลง ปัญหามี 2 ตัว คือ ดีเซล และแอลพีจี โดยแอลพีจีราคาต่างมากจากราคาต้นทุนการผลิต ซึ่งต้องไปดูเรื่องของโครงสร้าง ตรงนี้จะปฏิรูปอย่างไรเดี๋ยวไปว่ากันมา
เมื่อถามว่า แต่ทางกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงานก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการเรื่องเปิดสัมปทาน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ต้องไปอธิบายท่าน ท่านไปปฏิรูปของท่านมา ตนพูดไปแล้วว่าถ้าท่านบอกว่าน้ำมันเรามี แต่มีจริงหรือไม่ ในประเทศมีมากเพียงพอหรือไม่ และน้ำมันที่มีกลั่นใช้เฉพาะในประเทศได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ต้องตกลง ไปปรับกันตรงนั้น โรงกลั่นทั้งหมดไม่ต้องไปซื้อน้ำมันต่างประเทศ เอาน้ำมันในประเทศมากลั่นให้คนในประเทศใช้ แต่ระหว่างนั้นตรงนี้มันต้องเดิน เพราะเงินมันขึ้นทุกวัน เราใช้น้ำมันวันหนึ่งมหาศาล
เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าผลประโยชน์ของรัฐจะไม่มีเปลี่ยน นายกฯ กล่าวว่า โอ้ย ไม่มีเปลี่ยน เพราะสัมปทานไม่ใช่ว่าเขาขุดแล้วเจอ ที่ผ่านมาเขาขุดแล้วเจอไม่ถึง 1% แค่ 0.5% นี่คือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ฉะนั้น ถ้าพูดมาไม่มีหลักฐานยืนยันก็ไม่ได้ ต้องเอาหลักฐานมายันกัน เมื่อขุดเจอน้อยก็เอามาใช้ในประเทศได้น้อย เพราะสัมปทานเป็นของเขา เมื่อไม่พอก็ต้องไปบวกซื้อเพิ่มนำเข้าเข้ามา และซื้อตามราคาตลาด ต้องแยกประเด็นออกจากกัน และที่จะเปิดสัมปทานใหม่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับไปทั้งหมดหรือไม่ เพราะเขาเสี่ยง แต่ที่เราได้จากเขาคือ 1.ค่าสัมปทาน 2.จากที่เขาขุดมา 50% นำรายได้เข้ารัฐ แล้วยังมีเรื่องภาษีอะไรอีกเยอะแยะ ซึ่งในสัญญามีไว้อยู่แล้ว และสามารถปรับแก้ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี