'ชวลิต'เชื่อรัฐบาลไม่กล้าอยู่ยาว เหตุพิษอัยการศึกทำเศรษฐกิจวูบ
วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 17.30 น.
Tag :
26 ต.ค. 57 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณที่ สปช.บางกลุ่มวิ่งวุ่นชิงโควต้า กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่มีความเห็นในประเด็นนี้ เวลานี้เป็นเวลาให้โอกาส คสช.และรัฐบาลในการทำงานตามโรดแมปที่วางไว้ แม้จะมีผู้ที่มีความคิดสุดโต่งและมีส่วนได้เสียในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ผ่านมาได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็น สปช.จำนวนหนึ่ง และพยายามเสนอตัวเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ แต่จำนวนผู้ที่มีความคิดสุดโต่งดังกล่าวมีจำนวนน้อยกว่า สปช.สายความมั่นคงมาก จึงไม่น่าจะมีน้ำหนักในการเขียนกติกา เพื่อทำลายล้างกันทางการเมือง ผมคิดว่าบทเรียนการเขียนรัฐธรรมนูญปี 2550 คงทำให้ คสช.และรัฐบาลนำมาเป็นข้อคิดข้อเตือนใจในอันที่จะไม่กระทำซ้ำ เพราะจะยิ่งสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่รู้จักจบสิ้น
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไร หาก คสช.และรัฐบาล ไม่อาจทำตามโรดแมปที่วางไว้ และเลื่อนเวลาการคืนอำนาจให้กับประชาชนออกไปเรื่อยๆ นายชวลิต กล่าวว่า ตนมีความเห็นตรงข้าม โดยกลับเห็นว่า คสช.และรัฐบาลจะทำตามโรดแมปที่วางไว้ และรีบคืนอำนาจให้ประชาชน เหตุผลก็คือ นอกจากทำตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชนและชาวโลกแล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังฝืดเคือง อัตราการเจริญเติบโตต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าคณะรัฐมนตรีไม่มีความสามารถ แต่ปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะโลกประชาธิปไตยมี กฎ ระเบียบ การทำธุรกรรม การค้า การลงทุน ตลอดจนการเมืองระหว่างประเทศ ฯลฯ ที่เป็นข้อจำกัด ไม่เอื้อต่อการทำธุรกรรมดังกล่าวกับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ยกตัวอย่าง รายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศในขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะบริษัทประกันภัยหลายบริษัทมี กฎ ระเบียบ ที่กรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศที่ประกาศกฎอัยการศึก ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงจำนวนมาก และรายได้จากการท่องเที่ยวกระทบกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร รถรับจ้าง สายการบิน ร้านขายของที่ระลึก เกษตรกร ฯลฯ
ดังนั้น ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นเผือกร้อนที่ คสช.และรัฐบาลไม่อาจถือไว้นาน เพราะไม่มีใครอยากทำร้ายประเทศชาติและประชาชนด้วยมือของตนเอง ขณะนี้ทุกภาคส่วนจึงให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานตามวัตถุประสงค์ คือ การสร้างความปรองดองและการปฏิรูปประเทศ ขอ คสช.และรัฐบาลอย่ากังวลคลื่นใต้น้ำ ตราบใดที่ คสช.และรัฐบาลแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนตามที่สัญญาไว้