‘บิ๊กตู่’ห่วงปีหน้าศก.ขาลง
ชักเสียวคะแนนนิยมวูบ
กระชากเรตติ้งแจกที่ดิน
ยกเครื่องศูนย์ร้องทุกข์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ถึง
ผลสำรวจ(โพลล์) คะแนนของรัฐบาลและคสช.ที่ลดลง ว่า เป็นการสำรวจจากคนจำนวนจำกัด จะมีขึ้นบ้างลงบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าขึ้นก็มีกำลังใจเพิ่มแต่หากลงกำลังใจก็ลดลงแต่ไม่เป็นไรกระนั้นก็ตามโดยส่วนตัวคิดเพียงว่าตนเองแก้ไขปัญหาได้มากหรือยัง และเพียงพอหรือไม่ ทั้งเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าซึ่งมีจำนวนมาก และเป็นปัญหาที่ทำให้เราเดินหน้าต่อไปไม่ได้ก็เป็นปัญหาเก่าที่หมักหมม ขณะเดียวกันการเดินหน้าพัฒนาประเทศก็ต้องดำเนินต่อไปซึ่งตนเชื่อว่าเราจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
พอใจผลงาน5เดือนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพึงพอใจหรือไม่ในการทำงานที่ผ่านมา 5 เดือนทั้งในนาม คสช.และรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความพอใจ แต่อยากให้ทุกคนพอใจด้วยทั้งหมดว่าสิ่งที่รัฐบาลทำงานมานั้นทำในทุกมิติ ด้านเศรษฐกิจทุกวันนี้ก็พยายามอธิบายให้เห็นว่าตัวเลขต่างๆที่ประเมินมานั้นก็ต้องดูไว้เพื่อเป็นบรรทัดฐาน สิ่งสำคัญคือเราจะรวมพลังกันอย่างไรในการที่จะต่อสู้กับภัยทางด้านเศรษฐกิจและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เช่นอยู่อย่างพอเพียง การสร้างภูมิคุ้มกัน
“วันนี้รัฐบาลพยายามอัดฉีดเม็ดเงินลงไป แต่ก็ต้องไปดูปัญหาเรื่องการทุจริตอีก ซึ่งในการปฏิบัติจะต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้เมื่อรัฐบาลดูแลกันขนาดนี้แล้ว ก็ยังปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก อีกหน่อยคนคงไม่กล้าทำอะไร รัฐบาลเองก็ไม่กล้าปล่อยเงินลงไปชาวบ้านก็จะไม่มีเงิน เศรษฐกิจก็เดินต่อไปไม่ได้ ทั้งนี้ฝ่ายเศรษฐกิจเองก็ได้รายงานมาโดยตลอด”พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
รับปีหน้าเป็นห่วงศก.ตกต่ำ
เมื่อถามว่าเศรษฐกิจในปีหน้ามีความน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า เป็นห่วง เพราะเศรษฐกิจโลกก็ตกลง กำลังซื้อจากต่างชาติก็ลดลง หลายๆประเทศก็เจอปัญหาเช่นกัน การดูแลรัฐสวัสดิการที่มากเกินไปซึ่งทั้งโลกมีเหมือนกันหมด แต่รัฐบาลก็ได้เตรียมแผนในการรับมือไว้แล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าทำ 2-3 วัน หรือปีเดียวจะสำเร็จ เช่นการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคส่งออกของไทยที่ผ่านมาไม่มีการทำและสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเศรษฐกิจไทย ซึ่งตนไม่ได้โทษใคร
ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆพร้อมรับฟัง
“ก็ขอให้ใจเย็นๆ และอดทน และผมไม่ได้บอกให้ทุกคนคิดเหมือนกับผม คิดต่างได้แต่อย่างสร้างความขัดแย้ง อยู่ร่วมกันให้ได้มีอะไรก็ขอให้เสนอเข้ามา ผมยินดีรับฟังทั้งหมดไม่ว่าจะเขียนหรือเสนอแนะอะไรเข้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ทั้งนี้ในในตอนท้ายการให้สัมภาษณ์พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “โอเคมั้ย เวลาเขียนอย่าเขียนให้เกิดความขัดแย้งนะ”
คลังเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลังกล่าวว่า สำหรับการที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ประมาณเดือน ธ.ค. 2557 ซึ่งจะมีทั้งมาตรการกระตุ้นให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้มากๆ และมาตรการที่แก้ปัญหาความทุกข์และเพิ่มความสุขให้กับประชาชน เช่น การให้เอกชนจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ปล่อยกู้ให้กับรายย่อยที่มีรายได้น้อย โดยมาตรการระยะที่ 2 ต้องดูผลของการมาตรการกระตุ้นระยะแรก ที่เป็นมาตรการใหญ่ทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 งบประมาณเหลื่อมปี และงบที่เหลือจากโครงการต่างๆ ที่ยังไม่ได้ ให้มีการเบิกจ่าย รวมถึงมาตรการจ่ายเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ หรือไม่เกิน 15,000บาทต่อครอบครัว ว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากแค่ไหน
30ตค.ปรับตัวเลขศก.
รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ สศค.เตรียมพิจารณาปรับตัวเลขจีดีพี และตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งหมด โดยจะนำข้อมูลจากทุกด้านมาวิเคราะห์ ทั้งการใช้จ่ายภายในประเทศ การลงทุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะมีการปรับลดจีดีพีไม่ถึง 2% แต่มากกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดไว้ที่ 1.5% จากเดิมที่ สศค.คาดว่าจะขยายตัวได้ 2% ในช่วงคาดการณ์ 1.5-2.5% ต่อปี
ปรับแผนรับเรื่องราวร้องทุกข์
เช้าวันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 101 สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษา รมจ.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) พร้อมด้วยนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.อรนุช ศรีนนท์ ผอ.ศูนย์บริการประชาชน ประชุมกับตัวแทน 20 กระทรวง เกี่ยวกับนโยบายการทำงานของศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน
ส่ง20กระทรงนั่งประจำศูนย์
การประชุมหนนี้ได้ข้อสรุปว่า จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่แต่ละกระทรวงมาประจำอยู่ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์คอลเซ็นเตอร์ 1111 ของรัฐบาลที่ฝั่งก.พ. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ลดขั้นตอนในแบบ one stop services
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมหารือเสร็จสิ้นคณะของนายกมล นำผู้แทนกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง เดินทางไปดูคอลเซ็นเตอร์ 1111 ที่สำหรับรับโทรศัพท์เรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน และได้เดินทางไปที่ศูนย์บริการฯ ชั่วคราว สำนักงาน ก.พ. ตรงข้ามทำเนียบ โดยบริเวณศูนย์บริการฯ มีการจัดเตรียมที่นั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 20 กระทรวง ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน
อีก1เดือนประเมินความพอใจ
ต่อมาเวลา 15.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมมอบนโยบายแก่ผู้แทนกระทรวง 20 กระทรวงที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมรับปัญหาที่ศูนย์บริการประชาชนของรัฐบาล ฝั่งสำนักงาน ก.พ.
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ปัญหาที่ถูกร้องเรียนผ่านศูนย์บริการฯ แบ่งเป็นเรื่องหลักๆ ได้แก่ 1.ปัญหาที่แก้ไขได้ในช่วงเวลาสั้นคือปัญหาทั่วไปที่มีกฎระเบียบรองรับอ้างอิงได้ 2.ปัญหาที่มีความยุ่งยากซับซ้อนทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศซึ่งต้องให้ความสำคัญกับศูนย์ดำรงธรรมในการเชื่อมโยงข้อมูลในการแก้ไขปัญหา 3.ปัญหาที่มีความสลับซ้ำซ้อนซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนหลักเกณฑ์ในการประเมินผลจะใช้เวลา 1 เดือนในการประเมิน โดยมีการชี้วัดในรูปแบบการวัดความพึงพอใจ
“บิ๊กตู่”ย้ำต้องแก้ปัญหาให้รวดเร็ว
ด้านพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการบูรณาการให้การทำงานมีความรวดเร็วและประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่สปน.อาจไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาโดยตรง ดังนั้นการให้เจ้าหน้าที่แต่ละกระทรวงมาประจำนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพื่อลดขั้นตอนในการทำงาน และง่ายต่อการติดตามงาน
คนจนเฮ!แจกที่ทำกิน15ไร่
ในขณะที่นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมที่ดิน แถลงว่ากรมที่ดินเร่งดำเนินโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจนแก้ปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรโดยให้ทางจังหวัด/อำเภอ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ไปตรวจสอบคัดเลือกแปลงที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยจัดทำประชาคม และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ออกหนังสืออนุญาต เพื่อให้ประชาชนที่ยากจน ไม่มีที่ดินทำกินสามารถอยู่ในที่ดินของรัฐได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ โดยให้เช่าราคาถูก มีกำหนดระยะเวลาคราวละ 5 ปี ในลักษณะไม่โอนกรรมสิทธิ์
ของขวัญปีใหม่จาก”บิ๊กตู่”
ทั้งนี้ที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าว จะเป็นที่ดินอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย เช่น ทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะ ป่าช้าสาธารณะ ที่หมดสภาพการใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้วและมีราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์ ทำกินและอยู่อาศัยแล้ว และต้องไม่อยู่ในเขตป่าไม้ ส.ป.ก. หรือที่ราชพัสดุ โดยในปี 2558 มีเป้าหมายจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรจำนวน 5,000 แปลง ในพื้นที่ 22 จังหวัด จะเริ่มแจกในพื้นที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุรินทร์ 874 ครัวเรือน 1,042แปลง จำนวน 6,000 ไร่ ภายในเดือนธันวาคม 2557 ให้เป็นของขวัญปีใหม่ และคืนความสุขให้ประชาชนตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะเร่งรัดดำเนินการในพื้นที่อื่นๆต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี