“ชาวนา”เครียดจัดถูกกดราคา
ผูกคอดับ!
บุรีรัมย์รอเงินไม่ไหวแห่จำนำ
นายกฯตามบี้“อคส.-อตก.”
เคลียร์สต็อก“รับจำนำข้าว”
ปปช.แจ้งข้อหาครบ19ราย
เปรยใกล้ข้อสรุปโกง“จีทูจี”
วันที่ 27 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีกระทรวงการคลังออกมายอมรับถึงปัญหาปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเสร็จไม่ทันตามกำหนดเนื่องจากมีปัญหาข้อมูลข้าวในส่วนขององค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ส่งรายงานตัวเลขข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกไม่ครบว่า หน่วยงานที่กำกับดูแลคงไปไล่กันเอง ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการเคลียร์บัญชีก่อนที่ตนจะเข้ามาทำหน้าที่ ข้อมูลอาจไม่ตรงกันอยู่ เพราะมีสัญญาซื้อขายอยู่ตามคลังต่างๆหลายแห่ง รัฐบาลนี้รับยอดมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557
บิ๊กตู่ฮึ่มสั่งเคลียร์สต็อกข้าว
“ตอนที่เราเข้ามาตัดยอดไว้ที่ 18 ล้านตัน โดยกำลังตรวจจำนวนดังกล่าวอยู่ หากไม่ตรงกันภายในของเขาเองต้องไปเคลียร์กันว่าทำไมจึงไม่ตรง เพราะต้องหาคนรับผิดชอบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า การตรวจสอบตัวเลขความสูญเสียต่างๆนั้น จะดูว่าได้มาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์กี่เปอร์เซ็นต์ กี่ตัน ต้องเป็นข้าวสีอะไร ตรวจสอบดีเอ็นเอและจำนวนตรงกับคุณภาพหรือไม่ ถ้าไม่ได้คุณภาพหรือคุณภาพต่ำลงมา ต้องไปหาทางปรับปรุงเพื่อให้มีราคาสูงขึ้น หากเป็นข้าวเสื่อมราคา รับประทานไม่ได้ อาจต้องขายเพื่อแปรรูปทำอย่างอื่น เช่น ผลิตเอทานอล และดูจำนวนขาดหายและยอดไม่ตรงบัญชีเท่าใด ทั้งนี้อาจต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่า การที่จะเอาข้าวจำนวนนี้ไปขายจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ถ้าไม่ขายจะมีปัญหา เพราะต้องเสียค่าดูแลคลังและค่าต่างๆเดือนละ 2 พันล้านบาท อีกทั้ง ในอนาคตต้องมีแผนระบายข้าวด้วย แต่ไม่ใช่ขณะนี้ เพราะต้องเตรียมรองรับข้าวออกใหม่ที่จะออกในเดือนพฤศจิกายนนี้ก่อน
โวปีหน้าทวงแชมป์ส่งออก
ผู้สื่อข่าวถามถึงแผนของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ซึ่งนายกฯกล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะปี 2558 ประมาณการไว้น่าจะส่งออกข้าวได้ 11 ล้านตัน ซึ่งไทยเคยส่งออกได้ 9 ล้านตัน เรายังคงผลิตข้าวได้ตามที่ประเมิน อาจลดลงบ้างในส่วนนาปรังเพราะน้ำน้อย แต่เราส่งเสริมข้าวนาปีคุณภาพดี ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวซึ่งมีราคาสูง ที่ไทยเสียแชมป์ไปเพราะมีการแข่งขันด้านราคา มีประเทศที่ต้นทุนการผลิตต่ำ จึงต้องแก้ไขต้นทุนการผลิตของเราว่าจะทำอย่างไรให้นาเล็กนาน้อยเป็นแปลงใหญ่ คิดว่าน่าจะทำให้อยู่ได้ เพราะเมื่อมีนาย่อยจะเสียเงินมาก
คลังจี้พอคส.-อตก.ส่งข้อมูล
ด้าน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวออกมาเปิดเผยว่า ได้รายงานปัญหาการปิดบัญชีจำนำข้าวที่ทำให้ไม่สามารถปิดบัญชีได้ทันตามกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบแล้วว่า มีปัญหาจากอคส.และอ.ต.ก.ส่งรายงานตัวเลขข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกไม่ครบ อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯยืนยันกับที่ประชุม นบข.ว่าจะปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ ได้ประสานกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลอคส.และอ.ต.ก.ให้ทั้งสองหน่วยงาน เร่งส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชี
เล็งออกพันธบัตรแก้เจ๊งจำนำ
ด้าน นายสมหมาย ภาษี รมว.คลังกล่าวว่า ในฐานะรมว.คลังเป็นประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวที่มีจำนวนหลายแสนล้านบาท ซึ่งจะออกพันธบัตรมาแก้ไขหนี้ที่เกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ชาวนาผู้มีรายได้น้อยปีการผลิต 2557/2558 ไร่ละ 1,000 บาทนั้น วันเดียวกัน ธ.ก.ส.เปิดเผยว่า ได้จ่ายเงินให้ชาวนาไปแล้ว 43,406 ราย พื้นที่ 541,432.75 ไร่ คิดเป็นเงิน 541,432,750 บาท
กษ.จับมือTDRIแก้หนี้เกษตรกร
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรไทยว่า รัฐบาลสำรวจปัญหาของเกษตรกรไทยพบว่าเรื่องใหญ่ขณะนี้คือ เรื่องหนี้สิน ซึ่งม.ร.ว.ปีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายเร่งด่วนให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาหนี้ภาคเกษตรกรทุกกลุ่ม โดยให้ตรวจสอบจำนวนหนี้สินของเกษตรกรที่มีการกู้ยืมในสถาบันการเงินของรัฐและธนาคารพาณิยช์ รวมทั้งกองทุนต่างๆ 13 กองทุนของกระทรวงเกษตร เพื่อสรุปตัวเลขหนี้ เพื่อหาทางแก้ปัญหาด่วน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า หนี้สินที่เกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส.วงเงิน 1.1 ล้านๆบาท ในจำนวนนี้เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) 3.9-4% ขณะที่หนี้จากสถาบันเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรอื่นวงเงิน 1.18 แสนล้านบาท เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 22% หนี้จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรวงเงิน 7.9 หมื่นล้านบาท ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 3.5% หนี้จากกองทุนต่างๆของกระทรวงเกษตรฯวงเงิน 9 พันล้านบาท ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 42% และหนี้จากธนาคารพาณิชย์ 1.2 แสนล้านบาท เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 4% จึงสั่งการให้สำนักเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)ไปหารูปแบบการช่วยเหลือด้านหนี้สินเกษตรกร ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) วางแผนลดปัญหาหนี้ภาคเกษตร ซึ่งอาจใช้รูปแบบโดยรัฐหาเงินมาช่วยชำระหนี้บางส่วนให้เกษตรกร หรือหาทางยืดหนี้ให้โอกาสเกษตรกรไปลงทุนใหม่ ทำให้เกษตรกรมีกำลังใจปรับเปลี่ยนอาชีพ และมีความเข้มแข็งสามารถกลับมาใช้หนี้คืนรัฐได้ในอนาคต
รอไร่ละพันไม่ไหวแห่เข้าโรงตึ๊ง
มีความเคลื่อนไหวของชาวนาที่จ.บุรีรัมย์ ที่พากันนำทรัพย์สินมีค่า เช่น ทองคำรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจำนำที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์อย่างคึกคัก เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และซื้อปุ๋ยใส่นาข้าวรอบสุดท้าย และบางส่วนเตรียมไว้เป็นค่าจ้างเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทจากรัฐบาล อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อและรับรองจากคณะกรรมการฯ ขณะที่ทางสถาธนานุบาลฯสำรองเงินสดไว้ให้บริการลูกค้ากว่า 100 ล้านบาท
นายประเสริฐ สันคำ ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนำเฉลี่ยวันละ 300-400 ราย ต้องใช้เงินให้บริการวันละ 5– 6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติเท่าตัว คาดว่าจะมีประชาชนและชาวนานำทรัพย์สินมาจำนำคึกคักไปจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว
ชาวนาน้อยใจโชคชะตาผูกคอดับ
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ ร.ต.อ.กฤติพงษ์ หงษ์สูง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่151บ้านประทุนม.4 ต.แตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนาย เมา เกษรแก้ว อายุ 61 ปี สอบสวนคนในครอบครัวทราบว่า นายเมามีโรคประจำตัวและเครียด เนื่องจากเกี่ยวข้าวไม่ได้เพราะน้ำท่วมนา ประกอบกับมีชาวบ้านนำข้าวที่เกี่ยวไปแล้ว ไปขายแล้วถูกนายทุนกดราคา
ก่อนเสียชีวิตนายเมาบ่นกับภรรยาว่า ถ้าสภาพปัญหายังเป็นอย่างนี้คงต้องตายแน่ ราคาข้าวก็ต่ำอยู่แล้ว ความเป็นอยู่ย่ำแย่ถูกกดขี่ข่มเหงทุกอย่างไม่มีอะไรที่ดีขึ้นยิ่งทำก็ยิ่งจน รัฐบาลบอกว่าจะช่วยจ่ายค่าชดเชยรายได้ให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ถามว่าคุ้มค่าหรือไม่กับค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลงและเงินก็คงไม่พอใช้หนี้อยู่ดี
โวยกรมชลงดส่งน้ำกะทันหัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาหลายตำบลจากอ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาจำนวนมาก รวมตัวกันที่ศาลาวัดตะโก ต.ดอนหญ้านางนำโดย นายบุญมาก ทูลฉลอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ไผ่ล้อมเป็นแกนนำ ร้องเรียนว่า พื้นที่นาจำนวนมากในต.ดอนหญ้านาง ต.ไผ่ล้อม ต.พระแก้ว และต.กระจิว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาปรัง แต่ชาวนาใช้สิทธิ์เพาะปลูกข้าวที่จดแจ้งเป็นนาปี ซึ่งเพาะปลูกข้าวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ต่อมากรมชลประทานแจ้งกะทันหันจะหยุดส่งน้ำไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2558 ทำให้ต้นข้าวที่เพาะปลูกไปแล้วได้รับความเสียหายแน่นอน โดยนายสุกิจ ไชยศิริ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครหลวงเผยว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ชาวนาเพาะปลูกข้าวไปก่อนมีประกาศนั้น จะตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำจากคลองระพีพัฒน์ส่งเข้าลำคลองสาขาในทุ่งนา เพื่อบรรเทาปัญหาเบื้องต้น
แจ้งข้อหาโกงข้าวจีทูจีครบ19ราย
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีจัดซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่า ล่าสุดแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม 19 ราย ซึ่งถือว่าตอนนี้แจ้งข้อกล่าวหาครบแล้ว แต่ยังต้องสอบในบางประเด็นเพิ่มเติม แต่ก็ถือว่าใกล้ได้ข้อสรุปในคดีดังกล่าวแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี