จับตา12พ.ย.ถกเชือด‘ปู’
สนช.หักคอ
งัดข้อบังคับเดินหน้าสอย
‘ครูหยุย’ยันไม่ซ้ำรอยขุนค้อน-นิคม
พท.เต้นถกแก้เกม-แดงขู่ขัดแย้งหนัก
รบ.รับลูกชงหลักฐานปปช.ฟัน‘จีทูจี’
ความคืบหน้าการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว หลัง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับสำนวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีคำสั่งให้บรรจุสำนวนถอดถอนเข้าที่ประชุมสนช.เป็นวาระพิเศษวันที่ 12 พฤศจิกายน
12พย.ถกเคาะวันแถลงเปิดคดีปู
โดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมว่า การประชุม สนช.นัดพิเศษ วันที่ 12 พฤศจิกายน จะเป็นการประชุมเพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดีพร้อมกับพิจารณาสำนวน โดยคู่ความมีสิทธิขอยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมได้ ถ้าเห็นว่าสำนวนของป.ป.ช.ยังไม่ครบถ้วน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 25 วัน นับจากวันประชุมนัดแรก
ครูหยุยชี้ความผิดชัดต่างปม2ปธ.
ขณะที่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.ถึงการพิจารณาสำนวนถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า การพิจารณาสำนวนดังกล่าวจะมีความแตกต่างจากการพิจารณาสำนวนถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
“กรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนละความผิดกับกรณี นายนิคม และ นายสมศักดิ์ เนื่องจากสำนวนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีฐานความผิดชัดเจน แม้รัฐธรรมนูญปี 2550 จะยกเลิกไปแล้ว แต่ในสำนวนที่ป.ป.ช.ระบุฐานความผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินฯ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 58 ประกอบด้วย ฉะนั้นในการประชุม สนช. วันที่ 12 พฤศจิกายน ประธาน สนช.จะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมรับทราบ และเปิดให้สมาชิกอภิปราย ก่อนที่ประชุมจะพิจารณาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากกรณีของนายนิคมและนายสมศักดิ์ ที่สมาชิกสนช.ยังตั้งข้อสังเกตในข้อกฎหมาย ถ้าที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาภายใน 30 วัน” นายวัลลภ กล่าว
สนช.สายทหารส่อยื้อซ้ำ
ขณะที่ท่าทีของพล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิก สนช.เห็นต่างว่า ไม่แน่ใจการประชุม สนช.วันที่ 12 พฤศจิกายนจะมีการถกเถียงในข้อกฎหมายอีกหรือไม่ เพราะสมาชิก สนช.เพิ่งได้รับเอกสารที่เป็นสำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งให้ ทั้งนี้ ต้องรอให้สมาชิก สนช. กลับไปอ่านสำนวนการถอดถอนก่อน รวมถึงต้องรอให้ประธานบรรจุเข้าเป็นวาระการประชุม ของ สนช. อย่างเป็นทางการ
เล็งใช้ข้อบังคับ149ชงวาระด่วน
วันเดียวกัน แหล่งข่าวจากสนช.กล่าวถึงกรณีประธาน สนช.นัดหารือนัดพิเศษวันที่ 12 พฤศจิกายนกรณีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า กระบวนการดังกล่าว จะเป็นการใช้ข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2557 ข้อที่ 149 ในการพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยที่ฝ่าย ป.ป.ช.เป็นผู้เสนอสำนวนมายังสนช. หากมีการพิจารณาในที่ประชุมว่า รับแล้ว ก็จะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขึ้นมาเป็นผู้ถาม ผู้ที่ถูกกล่าวหาเสมือน สนช.เป็นศาลในการไต่สวนเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงและหากการชี้แจงเสร็จสิ้น ประธานเห็นว่าได้รับเอกสารว่าผู้ถูกกล่าวหาผู้ใดมีพฤติการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการป้องกันและปรามการทุจริต ก็จะปิดประเด็น เพื่อให้สมาชิก สนช.ลงมติถอดถอน โดยต้องใช้คะแนนเสียง จาก 3 ใน 5 ที่ระบุตามมาตรา 65 ในพ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2542 ซึ่งกระบวนการดังกล่าวต้องใช้เวลาดำเนินการพิจารณา 3 เดือน
สำหรับข้อบังคับการประชุม สนช. ข้อที่ 149 นั้นระบุไว้ว่า เมื่อประธานสภาได้รับรายงาน เอกสาร และความเห็นจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีมติชี้มูลว่าผู้ถูกกล่าวหาผู้ใดมีพฤติการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้ประธานสภานัดประชุมนัดแรก โดยบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม เป็นเรื่องด่วนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานเอกสาร และความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อกําหนดวันแถลงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้ถูกกล่าวหา และพิจารณาคําขอเพิ่มเติมพยานหลักฐาน
เด็กพท.ติงสนช.อย่างเร่งคดี
มีท่าทีจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย กรณีสนช.บรรจุวาระถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีโครงการจำนำข้าวเข้าที่ประชุม สนช.นัดพิเศษวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งตั้งข้อสังเกตสนช.เร่งรีบดำเนินคดีดังกล่าว โดยนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และอดีตคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า อยากให้สนช.แยกประเภทและจำนวนให้ชัดเจนว่าข้าวในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเท่าใด สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์มีเท่าใดก่อนสอบสวน เพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบเพียงคนเดียว และสรุปสาเหตุความเสียหายให้ชัดเจน อีกทั้ง อยากขอร้องประธาน สนช.ว่า อย่าเร่งรีบดำเนินการมาก ตรวจสอบให้รอคอบ ทำฐานความผิดให้ชัดเจนก่อน ที่สำคัญตอนน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานมอบหมายให้คนอื่นทำหน้าที่ประชุมแทน จึงต้องสอบผู้ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมขณะนั้น รวมทั้งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดี พาณิชย์จังหวัด องค์การคลังสินค้า(อสค.) เจ้าของโกดัง และธ.ก.ส.ด้วย
จี้คสช.ยับยั้งอ้างปลุกขัดแย้ง
นพ.เหวง โตจิรากาล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เข้ามาแทรกแซง และให้สนช.ยับยั้งเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อรอข้อสรุปของคดีจากคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด (อสส.)และ ป.ป.ช.เรื่องสำนวนคดีที่อัยการเห็นว่าข้อมูลหลักฐานของป.ป.ช.ยังไม่ครบถ้วนเพียงพอ ซึ่งจะนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 7 พฤศจิกายน
ขู่ปัญหาประเทศไม่จบ
ฉะนั้น ถ้าคสช.ไม่ยื่นมือเข้ามายับยั้ง แสดงว่าไม่จริงจริงตามที่ประกาศ คสช.ฉบับที่ 63/57 ว่าจะรักษาหลักนิติรัฐนิติธรรม และป.ป.ช.ก็ทำผิดหลักนิติรัฐนิติธรรมหรือไม่ ซึ่งประชาชนอาจมองว่าเกิดความไม่เป็นธรรมกับอดีตนายกฯ เหมือนเป็นการอาฆาตกันไม่จบสิ้น และจะก่อให้เกิดความขัดแย้งยุ่งเหยิงของประเทศขึ้นมาอีกครั้งได้
ทนายปูเรียกถกฝ่ายกม.สู้คดี
ด้าน นายพิชิต ชื่นบาน ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ประเด็นที่จะนำมาต่อสู้คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น ตนเตรียมนำเรื่องเข้าหารือกับฝ่ายกฎหมายของพรรคในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่ต้องยกข้อกฎหมายมาต่อสู้
“ปนัดดา”เผยหมดหน้าที่รอผลDNA
ส่วน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจสอบสต็อกข้าวในโครงการรับจำนำข้าวที่นายกรัฐมนตรีออกมาเปิดเผยว่าเสื่อมคุณภาพถึง 70%ว่า ขณะนี้หน้าที่ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯถือว่าเสร็จสิ้นและปิดการทำหน้าที่แล้ว ไม่มีบทบาทที่จะมาแถลงบทสรุปอะไรอีก หลังส่งรายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) แล้ว เหลือเพียงผลสรุปการตรวจดีเอ็นเอข้าวจากห้องปฎิบัติการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนยังตรวจสอบไม่เสร็จ ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะพ้นหน้าที่ไปแล้ว ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จะขอข้อมูลเรื่องนี้จากคณะอนุกรรมฯ ทราบว่าป.ป.ช.กำลังทำเรื่อง ถ้าขอมาก็ยินดีส่งให้
เตือนงดทำนาปรังฝืนชวดชดเชย
สำหรับการดำเนินมาตรการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการกรณีหลายจังหวัดภาคกลางแอบปลูกข้าวนาปรังว่า ครม.มีมติตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอว่าไม่ต้องการให้เกษตรกรได้ปลูกข้าว เพราะปีนี้น้ำน้อย กรมชลประทานไม่สามารถปล่อยน้ำให้การเกษตรได้ ต้องเก็บไว้ใช้ตามภารกิจของกรมชลประทาน โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปรัง แต่ถ้ามีเกษตรกรปลูก ตนเข้าใจว่า ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น เพราะภัยแล้งก็อาจมีปัญหาเรื่องการชดเชย เพราะเป็นมติครม.ไปแล้วว่าขอให้ชาวนางดปลูกข้าวปีนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับเกษตรกรที่ฝ่าฝืนทำนาปรังแล้วคงไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย เพราะการฝืนทำนาแล้วเสียหาย ไม่ได้ผลก็เป็นการลงโทษอยู่แล้ว และยังไม่ได้รับการชดเชยจากความเสียหาย
มั่นใจสิ้นพย.จ่ายครบ3.49ล.ราย
ขณะที่ นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จะดำเนินการจ่ายให้ชาวนา 3 .49 ล้านราย เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน ล่าสุดมีชาวนาขึ้นทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้ว 300,000 ราย แต่ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้ชาวนาแลัว 70,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 800 ล้านบาท และเชื่อว่าอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าจะจ่ายเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยธ.ก.ส. สามารถจ่ายเงินชาวนาได้สูงสุดถึง 3,000 ล้านบาทต่อวัน
ฮึ่มฟันเซอร์เวย์เยอร์-เจ้าของโกดังด้วย
ขณะที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์กล่าวถึงผลตรวจสอบข้าวในสต๊อกรัฐบาลว่า ข้าวด้อยคุณภาพที่มีสัดส่วนมากถึง 80% จากข้าวทั้งหมดในสต๊อกประมาณ 18 ล้านตัน ไม่ได้เน่าเสียจนไม่สามารถขายได้ เพียงแค่คุณภาพเสื่อม แต่ยังสามารถนำมาปรับปรุงคุณภาพขายได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าวออกจากสต็อก ทั้งขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เปิดประมูลทั่วไป รวมถึงอาจบริจาคช่วยเหลือต่างประเทศ
“ในส่วนข้าวเน่าและข้าวป่นประมาณ 5%และข้าวที่สูญหายไป 100,000 ตันนั้น ต้องหาคนรับผิดชอบ โดยผู้รับผิดชอบในส่วนของข้าวเน่าและข้าวป่น น่าจะเป็นบริษัทตรวจสอบคุณภาพ (เซอร์เวย์เยอร์)และเจ้าของโกดัง ส่วนข้าวที่สูญหายไปมีหลายส่วนต้องรับผิดชอบ ทั้งเจ้าของโกดัง เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เจ้าหน้าที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รวมถึงเจ้าหน้าที่ของจังหวัดที่ร่วมดูแลโกดังข้าวรัฐบาลด้วย ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน”รมว.พาณิชย์ระบุ
10พ.ย.รู้ผลสรุปข้าวในสต๊อกรัฐ
และว่า สำหรับผลการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้แน่นอน โดยขณะนี้ที่ยังเหลือไม่ได้ตรวจสอบจะเป็นข้าวที่กองล้ม ซึ่งม.ล.ปนัดดาสั่งให้บริษัทเซอร์เวเยอร์ และคลังสินค้าที่มีปัญหาหาแนวทางตรวจนับแล้ว ส่วนข้าวหอมมะลิที่ต้องตรวจสอบพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) ขณะนี้ผลจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ทยอยส่งมาแล้ว เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี