31 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊ค "Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)" ของ "พระสุเทพ ปภากโร" ได้โพสต์ข้อความ รำลึกถึงเหตุการณ์การชุมนุมของมวลมหาประชาชนที่ร่วมกับ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งครบรอบ 1 ปีในวันนี้ โดยระบุว่า
"เราจะต่อสู้ร่วมกันไป ไม่ชนะไม่เลิก ผมจะสู้ถวายชีวิต เทหมดหน้าตัก จะต่อสู้ร่วมกับทุกคน ทุกวัน จนกว่าจะได้ชนะ ถ้ารัฐบาลจะมาหาผม เพื่อเพิ่มคดีกบฎอีกคดีก็ไม่กลัวแล้ว ผมรับผิดชอบการกระทำของประชาชนทุกอย่าง ไม่หนีไปไหน" สุเทพ เทือกสุบรรณ เวทีชุมนุมสามเสน 31 ตุลาคม 2556 (วันเป่านกหวีด เวทีสามเสน มวลมหาประชาชน)"
"สุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้นำการประท้วง และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งกลุ่มดังกล่าวตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย.56 และแต่งตั้งตนเองเป็นเลขาธิการ ขบวนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์การ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มนักเคลื่อนไหวนักศึกษา สหภาพแรงงานของรัฐ และกลุ่มนิยมทหาร
การสนับสนุนของ กปปส.ส่วนใหญ่มาจากชาวกรุงเทพมหานคร และชาวภาคใต้ที่มีฐานะร่ำรวย กปปส.มิได้ใช้สัญลักษณ์สีเสื้อแทนตัวเอง แต่ใช้การเป่านกหวีดเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงครั้งนี้
สุเทพ ผู้นำการประท้วง ประกาศเจตนาของ กปปส.เพื่อทวงอำนาจอธิปไตยจากรัฐบาลมาคืนประชาชน ซึ่งจะดำเนินการปฏิรูปประเทศผ่านสภาประชาชนที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง สุเทพยังประกาศจะขจัดสิ่งที่ตนเรียกว่า "ระบอบทักษิณ"
สุเทพ กล่าวว่า สภาประชาชนทำหน้าที่เป็นองค์กรนิติบัญญัติ โดยจะแก้ไขกฎหมายและระเบียบ เช่นเดียวกับดำเนินแผนการปฏิรูปในประเทศ เขายังอธิบายว่าสภาประชาชนจะมีสมาชิก 400 คน โดย 300 คน เป็นผู้แทนจากอาชีพต่างๆ และอีก 100 คนที่เหลือ กปปส.จะเลือกจากนักวิชาการ และราษฎรอาวุโสซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ
เป้าหมายสูงสุดของ กปปส.คือ กดดันให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากความเป็นหัวหน้ารัฐบาล เพื่อให้เกิดช่องว่างแห่งอำนาจ จากนั้นจะอ้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 3 ซึ่งบัญญัติว่า "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"
และมาตรา 7 ซึ่งบัญญัติว่า "ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" โดยเชื่อว่า ประเทศไทยเคยปกครองโดยนายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้ง ฉะนั้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 กปปส.ยุติการชุมนุมเมื่อเกิดรัฐประหาร วันที่ 16 มิ.ย.57 สุเทพ กล่าวว่า กปปส.หยุดเคลื่อนไหวทันทีหลัง คสช.ยึดอำนาจ และ กปปส.พร้อมให้ความร่วมมือหาก คสช.จัดการปฏิรูป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี