ปปส.รื้อแฟ้มนักการเมือง
เอี่ยวยานรก
หมดสิทธิ์ชูคอในแผ่นดิน
กมธ.ยกร่างรธน.จ่อถก 5 พย.
วางกรอบสร้างกติกาแผ่นดิน
‘พระสุเทพ’หนุนการปฏิรูป
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้รับคำสั่งจากนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ให้นัดประชุมสปช.ในวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. โดยมีเรื่องที่ประธานต้องแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธาน สปช.จากนั้นจะพิจารณาเรื่องที่กมธ.ยกร่างข้อบังคับการประชุม สปช.พิจารณาแล้วเสร็จ คือ ร่างข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ...ที่มี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สปช.เป็นประธาน
ทั้งนี้ ร่างข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ...กำหนดให้มีทั้งหมด 143 ข้อ 8 หมวด ได้แก่ หมวด 1 การเลือกประธานสภาและรองประธานสภา หมวด 2 อำนาจและหน้าที่ของประธานสภา รองประธานสภาและเลขาธิการ หมวด 3 การประชุม แบ่งเป็น 4 ส่วน คือส่วนที่ 1 วิธีการประชุม ส่วนที่ 2 การเสนอญัตติ ส่วนที่ 2 การอภิปราย ส่วนที่ 4 การลงมติ หมวด 4 กรรมาธิการ หมวด 5 การจัดทำร่างพระราชบัญญัติ หมวด 6 การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ แบ่งเป็นส่วนที่ 1 คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ 2 การพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ หมวด 7 การรักษาระเบียบและความเรียบร้อย หมวด 8 บทสุดท้าย และหมวดเฉพาะกาล
คาด4พ.ย.ได้ครบ36กมธ.ยกร่างฯ
สำหรับการประชุม สปช.วันที่ 4 พ.ย.นี้ จะเป็นวันครบรอบ15วัน ที่ต้องมีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายจเร กล่าวว่า คาดว่าในวันดังกล่าวจะได้ตัวบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ กมธ.ยกร่างฯ ครบทั้ง 36 คน ทั้งจากสัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งขั้นตอนหลังจากที่ ประธาน สปช.ลงนามแต่งตั้งแล้วก็จะมีประกาศอย่างเป็นทางการและจะได้ประชุมวางแนวทางการทำงานต่อไป
ถกกมธ.ยกร่างฯนัดแรก 5พ.ย.
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการเมือง ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า หลังจากได้รายชื่อ กมธ.ยกร่างฯในสัดส่วนของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในวันที่ 4 พ.ย.แล้วทาง ครม.กับคสช.จะส่งรายชื่อทั้งหมดมายังนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.เพื่อเช็นคำสั่งแต่งตั้งคณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญในวันเดียวกันทันทีเพราะถือว่าเป็นวันสุดท้ายของกำหนดระยะ 15วัน ภายหลังจากวันประชุม สปช.ครั้งแรก ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 ระบุไว้
“และเมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วคาดว่าในวันที่ 5 พ.ย.น่าจะมีการเรียกประชุม กมธ.นัดแรกได้เพื่อวางกรอบวิธีการทำงานต่างๆรวมไปถึงวางแผนในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในด้านต่างๆตามกรอบที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ให้ไว้ รวมทั้งการเลือกตำแหน่งต่างๆในกมธ.ด้วยอาทิรองประธาน เลขานุการและโฆษก กมธ.เป็นต้น”นายไพบูลย์ กล่าว
โฆษก กกปส.เชื่อทุกคนมีความรู้
ขณะที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข( กปปส. )กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมอง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสภาปฏิรูปแห่งชาติ ยังไม่มีความหลากหลายว่าทุกคนที่ได้รับการเลือกมาเป็น กมธ.ยกร่างฯล้วนมีความรู้ความสามารถที่จะทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้และยังมีโควตาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และรัฐบาลอีก ก็เชื่อว่าจะมีการสรรหาคนที่มีประสบการณ์ความรู้ด้านกฎหมายการร่างรัฐธรรมนูญมาเพิ่มในส่วนที่เห็นว่ายังขาดได้
ย้ำเน้นผลงานมากกว่าตัวบุคคล
ส่วนที่รัฐบาลอยากให้คู่ขัดแย้งมาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศนั้น กปปส.ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใครโดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)แต่ฝ่ายตรงข้ามพยายามวาดภาพให้เห็นว่า กลุ่มนปช.เป็นคู่ขัดแย้ง ที่ผ่านมา
“ยืนยันมาโดยตลอดว่า กปปส.ไม่สนใจตัวบุคคล ใครจะเข้ามาร่วมทำให้เกิดการปฏิรูปเราก็ยินดี และพร้อมให้การสนับสนุน แม้จะไม่มีตัวแทนของ กปปส.เข้าร่วมก็ตามเพราะเราเน้นที่ผลงานมากกว่า จากนี้ไป กปปส.จะเริ่มมีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวทางการปฏิรูปประเทศ”
พระสุเทพหนุนกปปส.ช่วยรัฐบาล
นายเอกนัฏ กล่าวถึงการชุมนุมของ กปปส.ที่ผ่านมาว่าถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ที่สามารถปลุกจิตสำนึกให้คนไทยให้ต่อต้านเผด็จการทางรัฐสภา รณณรงค์การปฏิรูปประเทศ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และคสช.เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้น กปปส.จึงขอหยุดความเคลื่อนไหวทางการเมืองไว้ก่อนซึ่งพระสุเทพ ปภากโร(สุเทพ เทือกสุบรรณ)ก็ได้บอกให้แกนนำทุกคนปล่อยวางสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้และขอให้แกนนำให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและคสช.ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ส่วนพระสุเทพ ยังจะคงบวชต่อไปให้ครบ 204 วันตามจำนวนที่ กปปส.ชุมนุม ซึ่งประมาณต้นเดือน ก.พ.ปีหน้าก็จะครบกำหนด แต่จะลาสิกขาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพระสุเทพ
ครูหยุยชี้ไร้ล็อบบี้/แนะรับตามปปช.
สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณาถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาและนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภากรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ ในวันที่6 พ.ย.นี้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ในฐานะวิป สนช.กล่าวว่า ในการประชุมพิจารณาวันดังกล่าว จะเป็นการลงมติว่าที่ประชุม สนช.จะรับเรื่องการถอดถอนนายสมศักดิ์ และนายนิคม ไว้พิจารณาหรือไม่ คงเปิดให้ สนช.อภิปรายกันอย่างเต็มที่ แล้วจึงลงมติชี้ขาดแบบฟรีโหวต โดยให้อิสระ สมาชิกตัดสินใจ ไม่มีการล็อบบี้
“ส่วนตัวจะลงมติรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา เพราะเห็นว่าเป็นการดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนที่ ป.ป.ช.ส่งมา จึงต้องรับเรื่องไว้ก่อน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการถอดถอนจึงค่อยมาพิจารณาเรื่องฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 2550ว่ายังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่”
ไม่ห่วงถูกกดดันโหวตรับถอดถอน
ส่วนที่นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส.ระบุว่าหาก สนช.ไม่รับเรื่องการถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมไว้พิจารณาอาจเกิดการเผชิญหน้ากับมวลมหาประชาชนนั้น นายวัลลภ กล่าวว่า คงไม่เป็นการกดดัน สนช.เรื่องการลงมติ การที่ สนช.จะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ต้องดูจากข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายตามเหตุผลที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้ สนช.ไม่กังวลอะไร ทราบดีว่า หากรับเรื่องไว้พิจารณามวลชนฝ่าย นายสมศักดิ์และนายนิคมก็ไม่พอใจ หรือหากไม่รับเรื่องไว้พิจารณามวลชนฝ่าย กปปส.ก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่ สนช.ทำทุกอย่างตามหน้าที่ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า สนช.จะลงมติรับเรื่องดังกล่าวไปในทิศทางใด.
ก่อแก้วติงยิ่งทำลายล้างสงบยาก
นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.กล่าวว่าเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เพราะไม่มีท่าทีจะนำไปสู่การปรองดองอย่างที่ คสช.ตั้งใจ ดูจากปรากฏการณ์กลุ่มการเมืองตั้งหน้าตั้งตาทำลายล้างอย่างกรณีเตรียมถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นตัวอย่างที่น่าเป็นห่วงแค่ทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนแล้วจะถูกถอดถอนถูกดำเนินการอย่างไม่ลดราวาศอก อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งตามมาคงหาความสงบสุขยาก
ย้ำห่วงม็อบประชาชนจะลุกฮือ
ส่วนที่ปชป.ขู่จะมีม็อบหากสนช.ไม่ถอดถอนนั้น เป็นการพยายามยืมมือ คสช.และสนช.ดำเนินการต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้ คสช.และสนช.เป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้นซึ่งควรกลับไปคิดว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.และอดีตนายกฯใช้อำนาจรัฐสั่งสลายการชุมนุม จนมีคนเสียชีวิตกว่า100 คน เป็นการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ถ้าเทียบกับกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำตามนโยบาย ใครควรจะถูกถอดถอนมากกว่ากัน จึงอยากฝากว่า อย่าเป็นเครื่องมือให้ใคร จึงไม่เป็นห่วงม็อบคนรวย แต่ห่วงม็อบประชาชนมากกว่าที่รอดูอยู่อย่างเงียบๆ ที่นิ่งไม่ใช่ไม่รู้สึก
ชี้ร่างธน.เสร็จขัดแย้งรอบใหม่
นอกจากนี้ นายก่อแก้ว ยังเชื่อว่า หลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีความขัดแย้งรุนแรงตามมาอย่างแน่นอน เพราะดูจากโฉมหน้ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว จะเห็นว่ามีทิศทางค่อนข้างชัดที่จะร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยอาจตีกรอบกฎหมายจำกัดสิทธิบางฝ่าย วางโครงสร้างอำนาจ ดูแล้วน่าเป็นห่วง
จี้บวรศักดิ์คุมยกร่างฯปรองดอง
นายอำนวย คลังผา อดีตอดีตส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจากที่เห็นรายชื่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ คนพวกนี้จะเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศไทย ปฏิรูปประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า มีความสุข ประชาชนมีความรักความสามัคคี มีที่อยู่อาศัยไม่มีหนี้สิน เป็นผู้นำประเทศไปสู่เผด็จการ หรือประชาธิปไตยอย่างจริงใจ จึงอยากฝากถึงกรรมาธิการยกร่างฯ ในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ชาติถือเป็นสมบัติของทุกคน อยากฝากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ว่าที่รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ที่น่าจะเป็นตัวแทนของ คสช. เข้าเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาตามรูปแบบที่ คสช.ต้องการให้เกิดความปรองดอง
หวั่น รธน.ถาวรไร้ประชาธิปไตย
“ ทั้งนี้ ผมกลัวว่ารัฐธรรมนูญที่ออกมาจะไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะดูจากหน้าตาคนที่เข้ามาทำงานก็เป็นห่วง อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มีส่วนตัดสินใจ และอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”อดีตประธานวิปรัฐบาล ย้ำ
ไม่ติดใจบัญชีทรัพย์สิน ครม.ตู่1
ส่วนเรื่องบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ที่ ป.ป.ช.เปิดเผยออกมาเมื่อวันที่31ต.ค.นายอำนวย กล่าวว่า มีการชี้แจงแล้ว ไม่ติดใจเรื่องนี้ ซึ่งทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ส่วนที่มีประชาชนกังวลเรื่องบัญชีของครม.ก็เป็นหน้าที่ของป.ป.ช.ที่จะตรวจสอบ สำหรับรัฐมนตรีที่มาจากทหารที่มีทรัพย์สินกว่าร้อยล้านบาท มองว่าอาจมีรายได้จากการขายที่ดิน แต่เป็นเรื่องที่ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบต่อไปและต้องชี้แจงกับประชาชนให้ได้ว่าทรัพย์สินเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
สั่งป.ป.ส.เร่งทำงานไร้แบ่งแยก
วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงยุติธรรมโดยกำชับให้กลุ่มงานทั้ง 5 ด้านต้องรายงานผลงานอย่างเป็นรูปธรรม หลังที่ผ่านมาประชาชนไม่เห็นว่ากระทรวงยุติธรรมได้ทำอะไร นอกจากรับเรื่องร้องทุกข์รายงานเพียงสถิติ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าช่วยเหลือได้สำเร็จกี่เรื่อง แต่ละเรื่องมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ในวันนี้ต้องการให้ภาพการทำงานของกระทรวงยุติธรรมไม่แบ่งแยกกันอีกต่อไปเช่น คดียาเสพติด ที่ยังไม่อยู่ในบัญชีแนบท้ายพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษแต่หากข้อมูลสืบสวนชัดเจนว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพล เป็นขบวนการข้ามชาติ ต้องนำเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)รับเป็นคดีพิเศษ โดยประชุมครั้งหน้า ต้องการเห็นภาพว่าตลอด1เดือนที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้ทำงานอะไรไปบ้างเช่น การลดความเหลื่อมล้ำและอำนวยความยุติธรรมช่วยประชาชนไปแล้วกี่เรื่อง
อัพเดดข้อมูลนักการเมืองค้ายา
ส่วนกรณีบัญชีดำผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดป้องกันไม่ให้ นักค้ายาเข้ามามีบทบาทในทางการเมืองตามที่พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยนัน ทางพล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวว่าที่ผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด( ป.ป.ส.)ก็มีการจัดทำบัญชีดำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหลายระดับเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนดังนั้นจะตรวจสอบว่าระบบดังกล่าวหายไปเมื่อไหร่และต้องนำกลับมาใช้ เพราะทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งจะมีการสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆว่าผู้มีสิทธิได้รับการแต่งตั้งมีประวัติพัวพันด้านยาเสพติดหรือไม่ จะสั่งการไปยัง ป.ป.ส.ให้จัดทำฐานข้อมูลกลางให้แต่ละหน่วยงานนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกบุคคล
ชง นายกฯนั่งปธ.ลุยเอาป่าคืน
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวถึงการทำงานเกี่ยวกับการเพิกถอนที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบตามที่กลุ่มคนรักษ์ปากช่องร้องเพื่อให้ยึดที่ป่าคืนเป็นรูปธรรมหลังกองทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่ผ่านมาตนลงพื้นที่รุกอุทยานสิรินาถ จ.ภูเก็ต ทำให้เห็นสภาพปัญหา เห็นว่าแต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่ต่างกัน คือ บุกรุกและขอออกเอกสารสิทธิ แต่การเพิกถอนล่าช้าต้องรอคดีมีข้อยุติในชั้นศาลจึงจะดำเนินการต่อไปได้ เรื่องบุกรุกเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ดังนั้น การดำเนินการจะมีอุปสรรคติดขัดมาก ในขณะที่มีคนรอดูทั้งจากประชาชนที่คาดหวังการทำงานภาครัฐรวมทั้งผู้ที่รอจะเข้ามารุกป่าเป็นรายต่อไปจึงเห็นว่าควรเสนอให้นายกรัฐมนตรีรับเป็นประธานแก้ปัญหาเพราะไม่สามารถแก้ได้ในระดับกระทรวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี