5 พ.ย.57 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดเผยถึงตัวเลขการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวกว่า 7 แสนล้านบาท และต้องใช้เวลาในการชำระหนี้ประมาณ 30 ปีว่า ไม่เป็นความจริง โครงการเหล่านี้นอกจากจะช่วยเหลือชาวนาผู้ยากไร้แล้ว ยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจำนวนมาก จากผลการศึกษาที่นำมาเสนอข้อมูลต่อที่ประชุม กขช.เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.56 สรุปว่าโครงการรับจำนำข้าวมีผลประโยชน์สืบเนื่องทางเศรษฐกิจถึง 3.9 แสนล้านบาท
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า รายได้ ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงสิ้นสุดช่วงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ขายข้าวเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.4 แสนล้านบาท และยังเหลือข้าวในโกดังอีกประมาณ 18 ล้านตัน ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ที่ชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข้าวพร้อมขาย 10% และข้าวที่ต้องปรับปรุงขายได้อีก 80% หากใช้วิธีขายแบบรัฐบาลที่ผ่านมาขายข้าวคละกันเก่าปนใหม่รวมข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวและข้าวขาว ราคาขายจะได้ประมาณ 15,000 บาทต่อตัน และถ้าขายข้าว 16.2 ล้านตัน หรือราว 90% ของข้าวในโกดัง จะมีรายได้ราว 2.43 แสนล้านบาท
“ตัวเลขยอดรายได้จากการประมาณการข้างต้นรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 4.8 แสนล้านบาท ขณะที่ในเงินในโครงการฯ ปี 2554-2556 เป็นเงิน 6.8 แสนล้านบาท และมีข้าวนาปี 56/57 มูลค่า 1.8 แสนล้านบาท รวมรายจ่ายของโครงการทั้งสิ้น 8.6 แสนล้านบาท โครงการรับจำนำข้าวจึงขาดทุนประมาณ 3.8 แสนล้านบาท จะเห็นได้ว่าโครงการนี้มีผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยิ่ง นอกจากนี้ราคาข้าวเปลือกในตลาดขณะนั้นมีราคาข้าวเจ้าขาวสูงถึง 1.2-1.3 หมื่นบาทต่อตัน เปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ ข้าวมีราคาเพียง 6-7 พันบาทต่อตันเท่านั้น”
ข้าวกว่า 70%ที่เป็นข้าวเสื่อม-ไร้คุณภาพ
อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อไปว่า โครงการจำนำข้าวนั้น ตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2556 รัฐบาลได้กู้เงินมาใช้จำนำข้าวจำนวน 6.8 แสนล้านบาท รัฐบาลได้ขายข้าวและจัดงบประมาณใช้หนี้เงินกู้ซึ่งกระทรวงการคลังได้รายงานในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 7 ม.ค.57 ว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค.56 เหลือเงินกู้ค้างอยู่เพียง 4.6 แสนล้านบาท แต่ในปี 2557 รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินมาใช้ในโครงการได้เนื่องจากวิกฤตการเมือง
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถกู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ได้อีกเลยเนื่องจากวิกฤตทางการเมือง หลังจากมีการรัฐประหารรัฐบาลปัจจุบันได้มีการกู้เงินมาใช้ในโครงการจำนำข้าวอีก 9.4 หมื่นล้านบาท ดังนั้นยอดภาระหนี้เงินกู้โครงการจำนำข้าวจึงมีรวมกัน 6.35 แสนล้านบาท แต่เมื่อขายข้าวที่เหลือจำนวน 16.2 ล้านตันเป็นเงิน 2.43 แสนล้านบาทและนำเงินรายได้นี้ไปคืนเงินกู้ก็จะเหลือภาระหนี้สินเพียง 3.11 แสนล้านบาทเท่านั้น ซึ่งปกติรัฐบาลก็จัดสรรงบประมาณประจำปีมาใช้คืนเงินกู้ของโครงการต่างๆ รวมถึงโครงการนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี