เลือนถกถอด‘ปู’ไป28พย.
ทนายตีปีก
เล็งลากชงสอบพยานเพิ่ม
สนช.ลั่นให้ขยายแค่หนเดียว
กมธ.ยกร่างฯเชิญทุกฝ่ายคุย
กปปส.-นปช.-พท.-ปชป.รับ
ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) มีมติให้เลื่อนการประชุม สนช. เพื่อพิจารณาถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวออกไป ตามคำร้องของทีมทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ในฐานะโฆษกวิป สนช.แถลงหลังประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนว่า ที่ประชุมปวิปสนช.มีมติให้เลื่อนนัดประชุมเพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดีถอดถอนนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดกรณีดังกล่าว นัดแรกวันที่ 12 พฤศจิกายนออกไปเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกร้องที่อ้างเหตุผลว่ายังไม่ได้ศึกษารายละเอียดสำนวนและความถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับการประชุม สนช.
เลื่อนให้”ปู”ออกไปให้อีก21วัน
ทั้งนี้ ที่ประชุมวิป สนช. เห็นชอบให้นับวันที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับหนังสือจากสนช. อย่างเป็นทางการคือ วันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งหากขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน ต้องประชุมเพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดีวันที่ 22 พฤศจิกายนตรงกับวันเสาร์ อีกทั้ง ในวาระการประชุม สนช. หลังจากนั้นต้องพิจารณาคดีถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาวันที่ 27 พฤศจิกายน จึงต้องบรรจุวาระนัดประชุมเพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์วันที่ 28 พฤศจิกายน เท่ากับขยายเวลาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ 21 วัน ขั้นตอนต่อไปวิป สนช.ต้องแจ้งให้ที่ประชุม สนช.รับรองวันที่ 12 พฤศจิกายน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา
ทนายดี๊ด๊าจ่อขอสอบพยานเพิ่ม
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวหลังทราบมติวิป สนช.ว่า ดีใจที่วิป สนช. ให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีก 15 วัน โดยวันที่ 12 พฤศจิกายน ตนจะเป็นตัวแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.เวลา 10.00 น. จากนั้นจะศึกษาสำนวนและพิจารณาว่าจะขอสอบพยานเพิ่ม ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่เคยขอให้ป.ป.ช. สอบแต่ได้รับการปฏิเสธ
สนช.ลั่นให้เลื่อนได้ครั้งเดียว
มีความเห็นจากนายสมชาย แสวงการ สนช.ในฐานะเลขานุการ วิป สนช.ถึงมติวิปให้เลื่อนพิจารณาถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ไม่มีปัญหาที่จะเลื่อน แต่เห็นว่าอาจเลื่อนได้เพียงครั้งเดียว และถือว่าเป็นการให้เกียรติน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย จึงให้ความเป็นธรรม ซึ่งวันที่ 12 พฤศจิกายน ทีมทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องมาคัดลอกสำเนาเอกสารให้เรียบร้อย อย่าตุกติก
ถ้าวันข้างหน้าจะขออะไรอีก ที่ประชุมอาจพิจารณาเป็นอย่างอื่นก็ได้ เพราะวาระพิจารณาถอดถอนยังอยู่ในวาระการประชุม สนช.
ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช.เห็นว่า ถือเป็นการให้โอกาสน.ส.ยิ่งลักษณ์ตามความเหมาะสม ซึ่งหากมีการหนีการต่อสู้คดีแสดงว่ายอมรับการกระทำ แต่หากคิดว่ามีความชอบธรรมก็ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ร้องศาลรธน.เบรกถอดปู
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยเข้ายื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ผ่านนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภาในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขา สนช.ขอให้ถอนระเบียบวาระการประชุม เพื่อพิจารณาสำนวนถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์
ออกไปก่อนโดยอ้างว่ายังไม่มีการตีความเรื่องอำนาจถอดถอนของสนช. พร้อมขู่ว่าจะยืนฟ้องสนช.
ต่อปปช. ในคดีอาญาหากขืนเดินหน้าถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์
เด็กพท.แก้เกี้ยวฟ้องคดีปรส.
วันเดียวกันนายเรืองไกร และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน ป.ป.ช. เพื่อให้เร่งฟ้องคดีขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่จะหมดอายุความวันที่ 30 พฤศจิกายน เพื่อเล่นงานคนที่เกี่ยวข้องกับ
พรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าผ่านมา 10ปีแล้วแต่ไม่มีการเร่งรัดคดี ต่างจากคดีรับจำนำข้าวและคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาธิการ สมช.
ในขณะที่ปปช.ออกแถลงการณ์ตอวบโต้ทันควันว่า คดีปรส. ปัจจุบันไม่มีคดีกรณีกล่าวหาคณะกรรมการปรส.หรือผู้บริหารปรส.ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของแต่แต่อย่างใด
เตรียมถกปม39สว.13พย.
ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช.เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงกรณี สนช.เตรียมพิจารณาคดีถอดถอนอดีตประธานวุฒิสภาและอดีตประธานรัฐสภา รวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า เบื้องต้นเตรียมทีมที่จะไปให้ข้อมูลแถลงเปิดคดีต่อสนช.ไว้แล้ว โดยเป็นทีมชุดเก่าที่เคยทำหน้าที่ในส่วนนี้มาก่อน ส่วนคดีถอดถอน 39 ส.ว.นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 13 พฤศจิกายน
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวถึงการประชุมร่วมระหว่างป.ป.ช.
กับอัยการสูงสุด (อสส.)คดีอาญา เกี่ยวกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า เลขาฯป.ป.ช.ส่งข้อเสนอแนะและเอกสารเพิ่มเติมให้อสส.แล้ว รออัยการฯหารือกันก่อน คาดจะได้คำตอบกลับมาเร็วๆนี้
‘เทียนฉาย’นำสปช.ถ่ายรูปหมู่
ส่วนความเคลื่อนไหวสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) เวลา 08.30น.สมาชิก สปช. นำโดย นายเทียนฉาย กีระนันท์ ประธาน สปช.ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันบริเวณลานหน้าศาลพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง โดยมีสมาชิกสปช.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียง นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ สปช.ด้านการศึกษา นายมนู เลียวไพโรจน์ สปช. ด้านเศรษฐกิจ นายธวัชชัย ยงกิตติกุล สปช.ด้านเศรษฐกิจและน.ส.อรพินท์ สพโชคชัย สปช. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ลุยฟังความเห็น-ไม่เลิกอัยการศึก
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการขอความร่วมมือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ เนื่องจากยังมีการประกาศกฎอัยการศึกอยู่ในพื้นที่ต่างๆ นายเทียนฉาย กล่าวว่า ต้องรอให้มีคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมและรับฟังคิดความเห็นก่อน เบื้องต้น สปช.คงใช้รูปแบบการพูดคุยกับ คสช.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยไม่ต้องทำหนังสือแบบเป็นทางการไปยัง คสช.
รับทราบตั้งกมธ.ยกร่าง36คน
ต่อมา เวลา 09.30น.มีการประชุมสภา สปช.ที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธาน สปช.คนที่1 เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 36คน จากนั้นที่ประชุมมีมติรับรองชื่อสมาชิก สปช.ที่เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำ สปช.ทั้ง18 คณะตามที่คณะกรรมาธิการสามัญสรรหาฯได้พิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ นายบวรศักดิ์ ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯทั้ง 18คณะ แยกย้ายไปประชุมเพื่อเลือกตำแหน่ง ประธาน รองประธาน เลขาธิการ โฆษกฯและตำแหน่งอื่นๆ พร้อมทั้งให้แต่ละคณะเลือกตัวแทนคณะละ 1คน เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการกิจการ สปช. (วิปสปช.) จากนั้นได้สั่งพักประชุมเพื่อให้สมาชิกไปดำเนินการเลือกตำแหน่งต่างๆให้เสร็จสิ้น
‘สมบัติ-บิ๊กอ๊อด-สารี-พารณ’เข้าวิน
ต่อมา เวลา 14.10น.นายเทียนฉาย เป็นประธานการประชุม สปช.โดยรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ(วิป สปช.) ซึ่งมี 29คน พร้อมเปิดชื่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.วิสามัญ) ประจำสปช.18คณะ ดังนี้ 1.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการเมือง มี นายสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ เป็นประธาน 2.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการกีฬา มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธาน 3.กมธ.วิสามัญปฏิรปค่านิยมศิลปะวัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา มี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธาน 4.กมธ.วิสามัญปฏิรูปวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย นวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา มี นายศักดิ์รินทร์ ภูมิรัตน เป็นประธาน 5.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการแรงงาน มี พล.ท.เดช ปุญญบาล เป็นประธาน 6.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค มี น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เป็นประธาน7.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มี นายพารณ อัครเสนา ณ อยุธยา เป็นประธาน 8.กมธ.วิสามัญปฏิรูปป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีนายประมนต์ สุธีวงศ์ เป็นประธาน
‘เสรี-ปราโมทย์-พงศ์โพยม’ผงาด
9.กมธ.วิสามัญปฏิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง มี นายสมชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน
10.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการท้องถิ่น มี นายพงศ์โพยม วาศภูติ เป็นประธาน 11.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน มี นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ เป็นประธาน 12.กมธ.วิสามัญปฏิรูปพลังงาน มี นายทองฉัตร หงษ์ลดารมย์ เป็นประธาน 13.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ มี นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นประธาน 14.กมธ.วิสามัญปฏิรูปสาธารณสุข มี นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ เป็นประธาน 15.กมธ.วิสามัญปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี นายปราโมทย์ ไม้กลัด เป็นประธาน 16.กมธ.วิสามัญปฏิรูปการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ มี นายจุมพล รอดคำดี เป็นประธาน 17.กมธ.วิสามัญปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็กเยาวชน เด็กสตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส มี นายอำพล จินดาวัฒนา เป็นประธานและ18.กมธ.วิสามัญปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน
กมธ.เชิญพรรคใหญ่คุยยกร่างฯ
ขณะเดียวกัน เวลา 15.00น.มีการประชุมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดย นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิก สปช.ในฐานะโฆษก กมธ.ยกร่างฯเปิดเผยหลังประชุม ว่า คณะกมธ.สรุปให้มีการรับฟังความเห็นจากพรรคการเมือง รวมถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ให้แสดงความเห็นและแนวคิดต่อกมธ.ยกร่างฯหัวข้อ“จะยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรเพื่อให้สัมคมไทยมีอนาคตที่ดีเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน” ช่วงวันที่ 17 -25พฤศจิกายน โดยวันที่ 17พฤศจิกายน พรรคเพื่อไทย วันที่ 18พฤศจิกายน พรรคประชาธิปัตย วันที่ 19พฤศจิกายน พรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา วันที่ 20พฤศจิกายน พรรคชาติพัฒนาและพรรคพลังชล วันที่ 21พฟศจิกายน พรรคมาตุภูมิและพรรครักษ์ประเทศไทย วันที่ 24พฤศจิกายน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และวันที่ 25พฤศจิกายน คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยส่งได้คณะละ5คน
พท.ทำยึกยักแต่จะส่งคนไปคุย
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ กรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า การจะเชิญพรรคการเมืองมาให้ข้อเสนอแนะนั้น มีข้อจำกัดคือ 1.ตอนนี้ประชุมพรรคการเมืองไม่ได้ จึงหาตัวแทนไม่ได้ 2.ตัวแทนพรรคการเมือง 5 คนมาคุยกับคณะกรรมาธิการฯเกิน 5คน ผิดกฎอัยการศึก แต่ประเด็นสำคัญคือ การเชิญพรรคการเมืองมานั้นเป็นเพียงพิธีกรรม สร้างภาพความชอบธรรมหรือไม่ เพราะสุดท้ายฟังก็อาจเหมือนไม่ฟัง มีธงกันไว้แล้ว วันนี้คนร่างรัฐธรรมนูญรู้ปัญหาดีอยู่แล้ว ถ้าเขียนด้วยใจเป็นธรรม เป็นกลาง ก็จะเป็นผลดีกับประเทศ เขียนให้มันชัดๆไปเลย อย่าเขียนแบบศรีธนญชัย เช่น เขียนว่าห้ามฉีกทิ้ง มีโทษประหาร
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การนัดพูดคุยในวันที่ 17พฤศจิกายน คาดว่าพรรคคงให้ความร่วมมือ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งนี้ จุดยืนพรรคคือ ทำกติกาให้เป็นประชาธิปไตย เท่าเทียม เสมอภาค ชัดเจน คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนและประชาธิปไตย
‘ตู่’พร้อมส่งตัวแทนนปช.หารือ
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์กรณี กมธ.ยกร่างฯเตรียมเชิญ นปช.เข้าให้ความเห็นเรื่องยกร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 24พฤศจิกายน ว่า ขณะนี้ กมธ.ยกร่างฯ ควรหาตัวตนตัวเองให้เจอเสียก่อน เพราะต่างคนต่างนำเสนอสิ่งที่สวนความรู้สึกประชาชนและขัดต่อหลักการประชาธิปไตย เวลานี้มันเลยเถิดและจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี นปช.พร้อมพูดคุย แม้ไม่คาดหวังว่าข้อเสนอนั้นจะได้รับการตอบสนอง เพราะร่างรัฐธรรมนูญอยู่ภายใต้มาตรา35 รัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งหมด
กปปส.รับปากอยากแก้ระบบลต.
ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.เปิดเผยว่า ยินดีไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสิ่งที่จะเสนอจะเน้นเรื่องแก้ไขระบบการเลือกตั้ง โดยเฉพาะทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของนายทุน เพราะนายทุนกลายเป็นผู้มีอำนาจในพรรค และคัดเลือกนักการเมืองเข้ามา ทำให้นักการเมืองเมื่อมีอำนาจก็จะไปตอบแทนนายทุนแทนที่จะเป็นประชาชน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแก้ไขเรื่องนี้ ซึ่งสำคัญมาก
ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่ม กปปส.กล่าวว่า กปปส.คงต้องหารือกันก่อนว่าจะเข้าร่วมหรือไม่และถ้าเข้าร่วมจะส่งใครไป แล้วไปนำเสนอประเด็นอะไร ทั้งนี้ กปปส.ได้นำเสนอประเด็นการปฏิรูปต่าง ๆ ไปแล้ว 6ประเด็น ส่วนตัวขอบคุณและยินดีที่กมธ.ยกร่างฯเปิดกว้าง
พธม.ขอซาวเสียงแนวร่วมก่อน
ส่วน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษก พธม.กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯจะตัดสินใจมาร่วมหรือไม่ เพราะแกนนำได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้ว ดังนั้นต้องไปสอบถามแกนนำแต่ละคนว่ามีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
ปชป.แบะท่าส่งอภิสิทธิ์ไปเอง
ขณะที่ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวว่า พรรคพร้อมให้ความร่วมมือกับ กมธ.ยกร่างฯ คาดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค จะไปให้ความเห็นด้วยตนเอง ซึ่งพรรคมีกรอบประเด็นอยู่แล้ว ทั้งการเข้าสู่อำนาจ การถอนทุน องค์กรอิสระ ซึ่งทุกเรื่องทางพรรคมีคำตอบให้หมดและไม่มีใครเข้าใจประเด็นได้ดีเท่า นายอภิสิทธิ์
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคคงต้องรอความชัดเจนจากหนังสือที่ กมธ. ยกร่างฯจะส่งมาก่อนว่าจะให้ทำอะไร รวมทั้งต้องหารือกันก่อน
‘ชทพ.’ขอรอฟังมติพรรคก่อน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า พรรคยังไม่ตัดสินใจใดๆได้ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้ตามข้อห้ามของ คสช.ดังนั้นต้องรอหนังสือจาก กมธ.ยกร่างฯมาถึงพรรคอย่างเป็นทางการก่อนว่า มีรายละเอียดและวัตถุประสงค์อย่างไรบ้าง จากนั้นพรรคจะหารือและตัดสินใจอีกครั้ง เราต้องคิดให้รอบคอบและดูองค์ประกอบหลายๆอย่าง เพราะก่อนหน้านี้พรรคเคยประกาศแล้วว่า จะไม่ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเป็น สปช.
‘ภท.-พช.’ยินดีให้ความร่วมมือ
ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.)นั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า พร้อมให้ความร่วมมือ พร้อมส่งตัวแทนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น คือ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ติดภารกิจต่างประเทศ หากกลับมาทันวันที่ 19พ.ย.ซึ่งเป็นวันที่นัดพรรคมาหารือ นายอนุทิน ก็จะมาร่วมด้วย
ด้าน นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล (พช.) กล่าวว่า พรรคพร้อมให้ความร่วมมือกับ กมธ.ยกร่างฯ ส่วนจะส่งใครมาเป็นตัวแทนนั้นคงต้องหารือกันก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี