20 พ.ย.57 นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการผลักดันร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพัทลุง เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ตนเองและ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร 3 อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เคยเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพัทลุง ในสมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้โอนการดำเนินการของมหาวิทยาลัยทักษิณ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาใน จ.พัทลุง ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยทักษิณ พ.ศ.2551 จัดตั้งขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยพัทลุง แต่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รัฐสภายังไม่ได้มีการพิจารณา เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน และนายกรัฐมนตรีขณะนั้น คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ให้การรับรองก่อน จึงพิจารณาไม่ได้
นายนริศ กล่าวต่อว่า ตนและคณะเห็นว่าหากได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพัทลุง ก็จะมีมหาวิทยาลัยที่สามารถดำเนินงานด้านการเรียนการสอน การวิจัยการให้การศึกษาทางด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง อันจะเป็นการกระจายโอกาสและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจการเมืองและสังคมแบบยั่งยืนให้ จ.พัทลุง จังหวัดใกล้เคียง และประเทศชาติ ตลอดจนเป็นการมุ่งเน้นไปสู่การพัฒนาในทุกๆ ด้าน อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ด้อยโอกาส เพื่อธำรงไว้ซึ่งประเพณีและศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของชาติพันธุ์ต่างๆ ในเขตภาคใต้อันจะเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และเป็นแหล่งวิชาการรองรับการพัฒนาภูมิภาคต่อไป
"เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ผมทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อได้โปรดพิจารณารับรองร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพัทลุง พ.ศ. .... และนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.เพื่อให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพัทลุง ตามความประสงค์ของประชาชน จ.พัทลุง ต่อไป" นายนริศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี