26 พ.ย. 57 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งและออกเสียงประชามติ กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการ กกต. ว่า ข้อเสนอที่คณะทำงานจัดทำข้อเสนอประกอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นของสำนักงาน กกต.จัดทำขึ้นมีประมาณ 40 ประเด็น แต่ที่ประชุมเห็นว่าข้อเสนอที่เกี่ยวกับการออกแบบการเมือง สัดส่วน ส.ส.-ส.ว.หรือการกำหนดเขตเลือกตั้งนั้น ก็เป็นเรื่องที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องไปพิจารณาเอง ซึ่งกกต.จะดูในส่วนของขอบเขตอำนาจของ กกต.เท่านั้น โดยที่ประชุมมองว่า ต้องคงอำนาจหน้าที่ของ กตต.ในการให้ใบเหลือง-ใบแดง ก่อนที่จะประกาศผลการเลือกตั้งไว้ เพราะกกต.มีหน้าที่กลั่นกรองคนดีเข้ามาบริหารประเทศ จึงต้องมีอำนาจในการพิจารณาว่า ใครกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเพื่อเอื้อประโยชน์ในการได้มาซึ่งอำนาจหรือไม่ แต่ที่ผ่านมากฎหมายให้อำนาจ กกต.ให้ใบเหลืองใบแดงก่อนประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง เพื่อให้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ซึ่งตรงนี้มองว่าเป็นข้อจำกัดในการทำงานของ กกต. เพราะกรอบเวลาที่ให้มาไม่เพียงพอในการดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพราะขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนต้องผ่านหลายขั้นตอน ระยะเวลา 30 วันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพิจารณาแล้ว
นายสมชัย กล่าวว่า ที่ประชุมจึงมีความเห็นว่าให้คงอำนาจการให้ใบเหลืองใบแดงของ กกต.ไว้ แต่ขยายระยะเวลาออกไปเป็น 60 วันก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และหรือหากไม่แล้วเสร็จให้สามารถขยายได้ 1 ครั้ง คือ 30 วัน และแก้ไขการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ในครั้งแรก ที่จากเดิมต้องมี ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ให้เป็นร้อยละ 90 ก็สามารถเปิดประชุมสภาได้ ซึ่งจะลดเงื่อนไขลงมาอีกในการเปิดประชุมครั้งแรก ทั้งนี้ที่ประชุมมีความเห็นที่จะส่งข้อเสนอในประเด็นเดียว และในการประชุมของคณะกรรมการ กกต.ก็มีความเห็น 4 ใน 5 (เนื่องจากนายประวิช รัตนเพียร เดินทางไปต่างประเทศ) ว่าจะส่งข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างเพียงประเด็นเดียว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายมองว่า กกต.เป็นองค์กรที่รวมอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการไว้ด้วยกันนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะกกต.ไม่มีอำนาจในฝ่ายนิติบัญญัติที่จะไปออกกฎหมาย เพราะอำนาจในการออกกฎหมายทั้งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของสภา แต่ กกต.มีอำนาจหน้าที่เพียงออกคำสั่งหรือประกาศ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎมายที่มีอยู่เท่านั้น ส่วนอำนาจฝ่ายบริหารนั้นก็เป็นอำนาจที่กกต.จะต้องมี เพราะกกต.ต้องบริหารจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงแค่จัดการเลือกตั้งแล้วหมดหน้าที่ แต่ต้องบริหารจัดการการเลือกตั้งให้ได้คนดีเข้ามาบริหารประเทศ ส่วนอำนาจตุลาการนั้น มองว่าเรามีอำนาจในการให้ใบเหลืองใบแดง กกต.ควรมีอำนาจตั้งแต่หลังวันที่รัฐบาลประกาศยุบสภาหรืออยู่ก่อนครบวาระ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน เพื่อที่กกต.จะได้มีอำนาจในการคัดคนดี และตัดสิทธิ์คนที่ทำผิดกฎหมายได้ทันที ซึ่งถือเป็นอำนาจในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณี ที่ฝ่ายการเมืองสนับสนุนให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงแทน กกต.นั้นว่า แน่นอนว่าฝ่ายการเมืองจะยินดีให้มีศาลเลือกตั้ง พิจารณาการให้ใบเหลืองใบแดง เพราะส่วนใหญ่ศาลจะมององค์ประกอบเกี่ยวกับข้อกฎหมายเท่านั้น หากกฎหมายบอกว่าผิดก็คือผิด หากกฎหมายบอกว่าไม่ผิดก็คือไม่ผิด ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจจะไม่ทันความคิดของฝ่ายการเมือง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาของ กกต. ซึ่งจะดูที่เจตนา ว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนาเอื้อประโยชน์เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองหรือไม่ ยกตัวอย่าง เช่น การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่อยู่ครบวาระ ต้องไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งย้อนหลัง 60 วันนับตั้งแต่วันที่ครบวาระ แต่ผู้บริหารท้องถิ่นส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะลาออกก่อนครบวาระเพียง 1-2 วัน เพื่อที่จะเลี่ยงข้อกฎหมายไม่ให้เอาผิดย้อนหลังได้ ซึ่งหาก กกต.พิจารณาก็จะไม่รีรอที่จะให้ใบเหลืองใบแดงทันที เพราะพบว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ถ้าเรื่องนี้ไปถึงศาล ศาลก็จะยกคำร้องเพราะในกฎหมายไม่ได้ระบุความผิด จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่จะยกร่างกฎหมายคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มาก ไม่อยากให้มองว่าปัจจุบัน กกต.ไม่มีประสิทธิภาพในการให้ใบเหลืองใบแดงก็จะให้อำนาจองค์กรอื่นเป็นผู้พิจารณาแทน
รายงานข่าวแจ้งว่าในการประชุมที่ปรึกษากฎหมายกกต.ได้เสนอ ว่า อยากให้ กกต.มีอำนาจในการให้ใบเหลือง-ใบแดง ก่อนและหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นอำนาจของกกต. โดยเบ็ดเสร็จเหมือนครั้งรัฐธรรมนูญปี 40 และให้ กกต.มีเวลา 60 วันในการพิจารณาให้ใบเหลือง-ใบแดง อย่างไรก็ตามคณะที่ปรึกษากฎหมายเห็นว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันยากที่จะมีการแก้ไขให้ กกต.มีอำนาจในการให้ใบเหลือง-ใบแดงแบบเบ็ดเสร็จ เพราะมีแนวโน้มว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะให้มีศาลเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี