'นิคม'จ่อยื่นหนังสือค้าน16สนช. 'จ๊ะเอ๋'ขนหลักฐานเพิ่มเติมพยาน
วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 18.20 น.
Tag :
26 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวก่อนการประชุมการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 26/2557 โดยมีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การประชุมฯ เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 นั้น
นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนจะเดินทางมาชี้แจงต่อที่ประชุมด้วยตัวเอง พร้อมเอกสารเพิ่มเติมคือบันทึกการประชุม เทปบันทึกการประชุมความยาว 120 ชั่วโมง และเทปบันทึกการประชุมฉบับย่อ 4 ชั่วโมง มาชี้แจงด้วย รวมทั้งได้ทำหนังสือคัดค้านการพิจารณาสำนวนของสนช. 16 คนที่เป็นอดีต ส.ว.ที่ยื่นคำร้องถอดถอนตน เพราะถือเป็นคู่ขัดแย้ง และมีส่วนได้เสีย เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวล และมีความพร้อมที่จะชี้แจง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง นอกจากนี้จะทำหนังสือเพิ่มเติมถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ขอให้แจกเอกสารให้กับสมาชิก สนช. ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา และรายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีคำฟ้องอยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช.ที่ส่งไปให้สนช.ด้วย.
ทางด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา จะทำหนังสือคัดค้านสนช.16 คนซึ่งเป็นอดีตส.ว.ที่เข้าชื่อร้องต่อป.ป.ช.กล่าวหาไม่ให้เข้าร่วมพิจารณาถอดถอนนายนิคมว่า ถือเป็นสิทธิของนายนิคมที่จะคัดค้าน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2550 เปิดโอกาสให้ ส.ว.สามารถเข้าชื่อยื่นถอดถอนได้ ก็เป็นสิทธิ์ของตนที่จะคัดค้านด้วยโดยจะชี้แจงเหตุผลต่อที่ประชุม แต่เหตุใดจึงคัดค้านเฉพาะ 16 สนช.ทำไมไม่คัดค้านพล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สนช.และอดีตส.ว.ด้วย เพราะตัวเองได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ จึงอยากให้นายนิคมย้อนไปดูการกระทำของของตัวเองว่าทำอะไรลงไป ทั้งการลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มาตรา 237 และแก้ไขที่มาของส.ว. ในฐานะที่เป็นประธานวุฒิถือว่าไม่มีความชอบธรรม แต่ก็ยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ต่อไปจนทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้น เพราะฉะนั้นนายนิคมต้องมองดูพฤติกรรมของตัวเองว่าที่คัดค้านสมควรหรือไม่ หากไม่ทำผิดไม่ต้องกลัวอะไร
พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ สนช. 1 ใน 16 อดีต ส.ว.ที่ถูกร้องคัดค้านไม่ให้ร่วมพิจารณากระบวนการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือขอแจ้งต่อประธานสนช.ว่าไม่ประสงค์ร่วมพิจารณาการถอดถอนกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะเป็นผู้เข้าชื่อร้องถอดถอนนายนิคมและนายสมศักดิ์ในสมัยที่เป็นส.ว. อีกทั้งตนเคยเป็นกรรมาธิการด้านจริยธรรมของส.ว.ที่มีมติชี้มูลว่า นายนิคมผิดจริยธรรม ซึ่งเป็นเหตุผลไม่เข้าร่วมการพิจารณา
นายธานี อ่อนละเอียด สนช. 1 ใน 16 อดีต ส.ว.ที่เข้าชื่อร้องถอดถอนนายนิคม กล่าวว่า การยื่นคัดค้านมีลักษณะเหมือนการคัดค้านผู้พิพากษาในศาล แต่กรณีของศาลมีบทบัญญัติกฎหมายชัดเจน ขณะที่ข้อบังคับการประชุมสนช.ไม่ได้มีบทบัญญัติเรื่องนี้ และในอดีตก็ไม่มีใครคัดค้านในลักษณะนี้ ตนจึงคิดว่าเป็นประเด็นที่ต้องให้ที่ประชุมสนช.วินิจฉัยและถ้าไม่มีเรื่องแบบนี้มาก่อน ก็เห็นว่าต้องใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 5 ที่ระบุให้ยึดตามประเพณีการปกครอง เพราะเป็นเรื่องวงงานของสนช.จึงขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาหรือไม่ ทั้งนี้ตนเป็นคนที่วินิจฉัยกฎหมายตรงไปตรงมา ทั้งนี้จะสนับสนุนเรื่องดังกล่าวก็ได้ แต่ก็เห็นว่าการคัดค้านแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบของสนช.ที่จะพิจารณาถอดถอนโดยใช้เสียง 3ใน 5 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่
น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. ในฐานะโฆษกวิป สนช. กล่าวว่าขณะนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ได้ยื่นพยานเอกสารมายังสนช. แล้ว ส่วนใหญ่เป็นบันทึกการประชุมระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม และต่อสู้ในประเด็นที่ว่ารัฐธรรมนูญ ปี2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว โดยนายสมศักดิ์จะเดินทางเข้าชี้แจงต่อประชุม สนช. ด้วยตัวเอง