นายกฯโวมองเห็นอนาคตประเทศ เชื่อมีความสุขวอนขอเวลาทำงาน
วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 18.19 น.
Tag :
28 พ.ย. 57 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ผู้เรียนอาชีวศึกษา คือผู้ทรงคุณค่าของสังคม” ในงานอาชีวศึกษาทวิภาคีไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับสำนักงานอาชีวะศึกษาจัดขึ้น และมีนักศึกษาอาชีวะจากทั่วประเทศร่วมงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีความสุขเพราะมองเห็นอนาคตประเทศไทย และการเดินทางไปต่างประเทศก็ได้ไปแสดงให้เห็นว่าเรามีอะไร ซึ่งการเปิดอาเซียนไทยค่อนข้างจะมีความได้เปรียบ และเราต้องใชัโอกาสให้เต็มที่ด้วยการพัฒนา โลยวันนี้ต้องมีความเชื่อมโยง ขณะเดียวกันไทยถือว่าโชคดีที่ความขัดแย้งยังไม่มากนัก ก่อนวันที่ 22 พ.ค. ถือเป็นวิกฤต แต่ก็ต้องเดินหน้าประเทศ โดยทุกคนต้องรู้ปัญหา เพราะไทยหยุดประเทศมานานแล้ว จึงจำเป็นต้องยุติความขัดแย้ง การจะยุติไม่ใช่ด้วยความรุนแรง แต่ต้องดัวยการสร้างความเข้าใจและลดความเหลื่อมล้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ประเทศ ถือเป็นงานที่หนักแต่ก็ทำด้วยหัวใจ อย่างไรก็ตามอยากจะฝากเรื่องของค่านิยม 12 ประการให้กับเยาวชนด้วย โดยการเริ่มจากตัวเองเป็นหลัก จากนั้นจึงทำเพื่อเป็นการถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อทำได้ครอบครัวจะมีความสุขและส่งผลให้ประเทศมีความสุขด้วย การเรียนอาชีวะศึกษามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานน่าภูมิใจ จึงไม่ควรที่จะมาทะเลอะเบาะแว้งกัน ต่อไปนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาประเทศแล้วเลิกทะเลอะกันเสียที เพราะรัฐบาลไม่อยากใช้กฏหมายมาควบคุมในการยุติความขัดแย้ง จะเห็นว่าเราสามารถนำทหารไปต่างประเทศเพื่อยุติความขัดแย้งได้ แต่ความขัดแย้งในประเทศยุติไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องการความร่วมมือของทุกคนในการแก้ไขปัญหา
"หลายประเทศไทยถามเราว่าวันนี้ประเทศไทยสงบหรือยัง สันติหรือยัง เลิกทะเลาะกันหรือยัง ผมก็บอกว่าขอเวลาอีกหน่อย เรื่องดังกล่าวผมยังคิดอยู่ว่าออกมาช้าไปหรือเปล่าและยังรู้สึกเสียดายอยู่เลย ขณะเดียวกันหลายคนก็ถามหาม้าขาวไปไหนทำไมไม่ออกมา ผมจึงต้องมาแก้ไขปัญหา วันนี้ผมยอมเจ็บปวดให้เขามองที่มาของผู้นำและผมก็อดทน เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ หากเรามีความเสถียรภาพต่างชาติพร้อมเข้ามาลงทุน วันนี้จึงต้องขจัดความขัดแย้งทั้งหมด ต้องเดินไปข้างหน้า ความขัดแย้งต้องไม่มี เชื่อว่าวันนี้คนไทยไม่มีใครโกรธเกลียดกันแน่นอน" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ในขณะเดียวกันรัฐบาลต้องสร้างทัศนคติในการทำงานของคนไทยใหม่ โดยต้องอาศัยกระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก เพื่อเราจะได้รู้ทันโลก สามารถคิดวิเคราะห์เป็น ทำให้คนสามารถคิดได้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้ประเทศไทยเสียความเชื่อมั่นมากแล้ว เวลามีจำกัด แต่หากสังคมต้องการอย่างเก่าตนก็พร้อมและจะไม่ทำอะไรเลยไม่ว่าจะเป็นกฏหมายการค้าการลงทุนและอื่นๆ สำหรับการขายข้าวไทยนั้นจำเป็นต้องมีการเพิ่มมูลค้าชี้ให้เห็น เช่น จะทำอย่างไรให้ข้าวหุงอร่อยขึ้น เพราะต่างชาติไม่รู้วิธี นอกจากนี้เรื่องการศึกษาอาชีวะยังขาดแคลนแรงงานหลายหมื่นคน และปีหน้าจะขาดเป็นแสนคน วันนี้เราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะสามารถดูแลครอบครัวและประเทศได้ อาชีวะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันต้องเพิ่มมูลค่าการของผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นยางพาราและข้าวไทย
"สำหรับเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 5 เขต นั้นจะมีทุกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการค้า โรงแรม การบริการ แต่สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ หากผู้ประกอบการต้องการไปค้าขาย รัฐบาลก็จะไปดูพื้นที่ให้ปลอดภัย อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องผลิตแรงงานเพื่อพัฒนาประเทศและส่งไปต่างประเทศ นอกจากนี้ภาษาอังกฤษและภาษาที่สามมีความจำเป็นเพราะจะได้สื่อสารกับต่างชาติได้"นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับสื่อมวลชนนั้นต้องมีความรับผิดชอบในการทำงาน วันนี้ทุกคนต้องไม่คิดถึงตัวเอง ต้องไม่มีผลประโยชน์ สำหรับการปฏิรูปประเทศนั้นต้องเดินหน้า โดยแม่น้ำทั้ง 5 สายต้องไปด้วยกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นที่ 2 ของโรดแมป สำหรับกาาค้าการลงทุนก็จำเป็นต้องแก้ไขกฏหมายเพื่อให้มีความสอดคล้อง เป็นการปูทางไปสู่การเลือกตั้ง แต่ถึงอย่างไรวันนี้ต้องลดความขัดแย้งให้ได้เสียก่อน ในขณะที่ผมเป็นผู้จัดการอำนวยการ มีคนบอกว่าไม่ชอบการรัฐประหาร แต่ต้องอย่าลืมว่าวันนี้ไม่เหมือนปี 49 เพราะทุกอย่างก่อนหน้านี้ไม่สามารถเดินหน้าได้ จึงขอให้อย่าเกรียดใครหรือโมโหใครจนไม่สบาย ขอให้เชื่อใจกัน รัฐบาลเข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญาประเทศ