“บิ๊กตู่”เหนื่อย!ว๊ากสื่อ
ฉุนถามจู้จี้ยื้อเลือกตั้งปีหน้า'
จวกฉากโซเชียล'ทุเรศ'มาก
นปช.หนุนนิรโทษฯแกนนำ
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ท่าอากาศยานทหาร (กองบิน 6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ถึงกรณี นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ระบุการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปมากกว่า 1ปี ว่า เป็นเพียงการประมาณการของ นายสมหมาย แต่กี่ปีก็ว่ากันตามโรดแมป อยู่ที่พวกเราทุกคนว่า จะให้เป็นไปตามโรดแมป สั้นหรือยาวก็ได้
‘บิ๊กตู่’ยั๊วสื่อถามเลื่อนเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าอยู่ที่ร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จทันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกัน ทำไมต้องเอามาพันกัน วันนี้ยังไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรม หรือชัดเจนเลย บางเรื่องก็ไม่มีข้อยุติ แล้วทำไมต้องมากดดัน หรือบังคับว่า จะต้องเสร็จวันนั้นวันนี้ รัฐธรรมนูญยังไม่ได้เขียนมาสักมาตรา อยู่ในขั้นตอนการหารือ มีความเห็นเป็นร้อยเป็นพัน แบ่งออกเป็น 11 คณะ แค่เพียง 20 ความเห็น ก็ตีกันไม่เลิก วันนี้ยังรับความเห็นข้างนอกเข้ามาอีก ไม่รู้ว่าอีกกี่เวที ทั้งนักศึกษา นักวิชาการ แล้วยังจะตีกันอีกไหม
ต่อข้อถามว่า สรุปการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมอยากเลือกตั้งแล้วหรือไง ตนพูดมาตลอดว่า ให้ทุกคนรีบทำงาน เพราะมีเวลาจำกัด 1ปี แต่ นายสมหมาย อาจมองว่า งานอาจไม่เสร็จก็เป็นเรื่องของท่านและอยากถามว่า การเลือกตั้งใครเป็นคนกำหนด นายสมหมาย หรือใคร วันนี้รัฐธรรมนูญเสร็จหรือยัง แม้รัฐธรรมนูญเสร็จ กฎหมายลูกทำกันหรือยัง
เหนื่อยกลับจากตปท.ไม่สนใจ
เมื่อถามว่า ความตั้งใจของนายกฯอยากให้เลือกตั้งภายใน 1ปีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ใช่ อยากให้เป็นไปตามโรดแมป แต่ 1ปีแล้วเลือกตั้ง มันมีอะไรบ้าง ทำให้เสร็จได้ก็ทำกันไป ถ้าทำไม่ทันก็ต้องทำต่อให้เสร็จ ถ้าจะให้เลือกตั้งพรุ่งนี้ ผมก็พร้อม เอาหรือไม่ละ จะอะไรกันนักกันหนา ผมไม่เข้าใจ วันนี้บ้านเมืองปัญหาเยอะทับซ้อนกันไปหมด นักข่าวก็คอยมาแคะแกะเกา เรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง ไปทำงานมาเหนื่อยแสนเหนื่อย กลับมาต้องมาหย่าศึก โธ่เอ๊ย อย่ามโน เขียนอะไร ดูซะบ้าง ไม่มีใครเขาอยากตั้งพรรคการเมือง ไม่มีใครเขาอยากจะเป็น ไม่ได้โมโหมาหลายวันแล้ว คนกลับมาเหนื่อยๆแทนที่จะถามว่า เหนื่อยไหม ประเทศได้อะไร คิดถึงนะ กลับมาก็ถามแต่ จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ จะไปรึยัง เห็นผมเป็นอะไร” พอ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง
บิ๊กป้อมชี้เลือกตั้งตามโรดแมป
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรมว.กลาโหมและรองหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ยังคงมีหลายฝ่ายกดดันต้องการให้เกิดการเลือกตั้งภายใน 1ปี ว่า ตนไม่มีความกดดัน เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นโรดแมปที่ คสช.ตั้งไว้และเราเองไม่อยากอยู่นาน เพียงต้องการทำให้เกิดความสามัคคีของคนในชาติและให้ทุกฝ่ายใช้กติกาที่ช่วยกันคิดช่วยกันทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คสช.จะใช้มาตรา44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เข้ามาดูแลเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เกิดปัญหาติดขัดอยู่ในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อาจต้องใช้ แต่ไม่ใช้เพราะเกิดความขัดแย้ง เพียงแต่จะเป็นการเลือกตั้ง หรือคัดสรรก็คงต้องให้คณะกรรมการอยู่ไปก่อน และหากติกามาดู ถ้ากลัวจะเกิดปัญหาก็หาคนมากำกับ ทั้งนี้ คงต้องใช้กฎหมายที่ คสช.จะต้องเป็นคนออก อย่างไรก็ตามยืนยันว่า การเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นจะต้องมีแน่นอน
ความหวังใหม่ยื่นเสนอยกร่าง
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา น.ส.สุธาสินี ชุมแวงวาปี ตัวแทน นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เข้ายื่นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญต่อ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานอนุกรรมาธิการประสานเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของ สปช.และองค์กรอื่นๆ โดย น.ส.สุธาสินี กล่าวว่า พรรคความหวังใหม่อยากเห็น คสช.และรัฐบาล ร่วมมือแก้ปัญหาประชาธิปไตยโดยเร็วดังนี้ 1.เรียกร้องความสามัคคีแห่งชาติด้วยการเปลี่ยนระบอบเผด็จการ เป็นระบอบประชาธิปไตย 2.รัฐบาลต้องปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและ3.ขอพระราชทานพรก.รักษาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาชาติในภาวะไม่ปกติ
‘ธีรภัทร์’ชง3ข้อปฏิรูปการเมือง
ด้าน นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง แถลงถึงข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยด้านการเมืองการปกครองว่า สภาพัฒนาการเมืองได้จัดทำข้อเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศไทยด้านการเมืองการปกครองและจะเสนอต่อ คสช.วันที่ 28พฤศจิกายน เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศของ สปช.โดยมีข้อเสนอ 3ข้อ คือ 1.การวางฐานประชาธิปไตยในโครงสร้างระดับพื้นฐานผ่านกระบวนการให้การศึกษาทางการเมืองและการให้การศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นพลเมือง 2.การสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันขับเคลื่อนกระบวนการทางการเมืองที่สำคัญในโครงสร้างระดับกลาง รมถึงการแบ่งอำนาจความรับผิดชอบระหว่างส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่นและ3.การปฏิรูปสภาบันทางการเมืองที่ใช้อำนาจอธิปไตยในโครงสร้างระดับบน ทั้งรัฐสภา รัฐบาล ศาลและองค์กรอิสระ ตั้งแต่การได้มาซึ่งผู้แทน การใช้อำนาจและการถ่วงดุลอำนาจ
นปช.หนุนนิรโทษไม่ต้องรอรธน.
ขณะที่ นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย(พท.)และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่10 เสนอออกกฎหมายนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งทางการเมือง 2ฝ่าย ตั้งแต่ปี2548-2557 ต่อกมธ.ยกร่างฯ ว่า ขอสนับสนุนแนวคิดของ นายเอนก ที่มีความเป็นกลาง การนิรโทษกรรม คือหนทางนำไปสู่การปรองดองที่ดีที่สุด อยากให้เอาตามร่างที่ตนเคยเสนอให้นิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุม ไม่รวมแกนนำ แต่สำคัญว่า ทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งต้องมาคุยกันให้ชัดเจน ไม่ว่า กปปส.นปช.พรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วันนี้ประชาชนยังติดคุกอยู่จำนวนมาก ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องรอให้เขียนรัฐธรรมนูญเสร็จ ควรทำเฉพาะหน้าทันที เสนอเป็นพรบ.นิรโทษกรรม ถ้าทำสำเร็จจะเป็นก้าวแรกของความปรองดอง
‘ปลอด’แทกกั๊กหวั่น’วางยา’
นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ นายอเนก พูดเรื่องนิรโทษกรรมนั้น พรรคยังไม่เคยได้คุยกันเรื่องนี้ แต่ผู้ใหญ่ในพรรค 2-3คน รวมทั้งตนได้พูดคุยกันและเห็นว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบอย่างมากและต้องฟังกันเยอะๆ เพราะประเด็นนี้เราเคยถูกต่อต้านโดย กปปส.และแม้เรื่องจะยุติไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ยังนำเรื่องนี้มาทำลาย ดังนั้นการจะมีความเห็นอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมจะต้องระวังมากๆ เพราะเราไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องนี้
ทำไม่ได้ระเบิดความขัดแย้งอีก
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า การจะนิรโทษอะไรให้ใคร ผู้ทำเรื่องนี้ ผู้คัดค้านเรื่องนี้และผู้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องได้รับการหารือ ไม่ว่าจะเป็น ปชป.พท. นปช.กปปส.ฯลฯ ทุกฝ่ายจะต้องมาร่วมกันทำ สรุปคือ 1.เรื่องนี้ละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องใหญ่ต้องค่อยๆทำ 2.ต้องเอาทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมกันทำและ3.ต้องมีการหารือกันอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงไม่อาจจะมีความเห็นอะไรได้ในช่วงนี้ โดยเรื่องนี้เป็นจุดระเบิดของความขัดแย้ง ถ้าทำออกมาไม่ได้ ก็จะระเบิดอีก
เปิดกรุสนช.ฉัตรชัยรวย1.4พันล.
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิก สนช.ที่เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 2ตุลาคม 2557 ซึ่งสนช.ที่มีทรัพย์สินมากสุดคือ นายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เมื่อปี2553 เป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์รายใหญ่ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,499,763,556บาท เป็นของตนเอง 1,391,488,492บาท ของคู่สมรส 108,275,064บาท ไม่มีหนี้สิน รองลงมา คือ นายอนุมัติ อาหมัด เจ้าของธุรกิจด้านพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ และอดีต สว.สงขลา ปี 2557 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 337,878,305 บาท เป็นของตนเอง 268,780,677บาท ของคู่สมรส 69,097,627 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 35,350บาท
‘โกศล’จนสุดมีเพียง2ล้านเศษ
นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ กรรมาธิการ(กมธ.)สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อปี2554 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 230,478,917บาท เป็นของตนเอง 6,691,746 บาท ของคู่สมรส 223,787,170บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 312,466 บาท และนายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)มีทรัพย์สินทั้งสิ้น163,971,256 บาท เป็นของตนเอง 143,852,326 บาท ของคู่สมรส 20,118,929 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 11,316,842 บาท ขณะที่ นายโกศล เพ็ชรสุบรรณ อดีตที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการสื่อสาร เมื่อปี2532 มีทรัพย์สินน้อยสุด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,347,659 บาท ไม่มีหนี้สิน
สายทหาร‘พล.อ.โปฎก’รวยสุด
ส่วน สนช.สายทหารพล.อ.โปฎก บุนนาค ผู้ช่วย ผบ.ทบ.มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 156,554,347 บาท เป็นของตนเอง 23,648,955บาท ของคู่สมรส 138,905,392บาท ไม่มีหนี้สิน พล.อ.สุนทร ขำคมกุล อดีตราชองค์รักษ์เวร มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 113,601,919บาท เป็นของตนเอง 113,601,919 บาท ของคู่สมรส 6,202,489บาท ไม่มีหนี้สิน พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการกองพลที่1รักษาพระองค์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 123,700,589 บาท เป็นของตนเอง 99,862,149 บาท ของคู่สมรส 23,838,440 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,827,200 บาท พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 102,184,897 บาท เป็นของตนเอง 7,985,307 บาท ของคู่สมรส 94,199,590 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 18,679,800 บาท พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 18,158,477 บาท เป็นของตนเอง 17,813,927 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 344,550 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 12,828,456 บาท
บิ๊กตู่ยินดีฟังความเห็นทุกฝ่าย
เวลา 20.20น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกอากาศในรายการ’คืนความสุขให้คนในชาติ’ผ่านทางสถานีโทรทัศนรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยสรุปว่า
ในส่วนการทำงานอยากจะกราบเรียนว่า เราอยากจะรับฟังความเห็นของทุกพวกทุกกลุ่มเพียงแต่ว่า ขออย่าให้มีการต่อต้านการทำงานของรัฐบาลและคสช.หากท่านจะรวมกลุ่มกันแล้วสรุปผลการประชุมมาสรุปข้อคิดเห็นมาส่งมาที่เราก็ได้ ส่งไปที่ กกต.ก็ได้ ส่งไปที่สภาปฏิรูปก็ได้ ไม่ว่าใครจะเสนอมารับทั้งหมดนะ วันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศไปสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืนในอนาคต
เร่งผลักดันกฎหมายภายใน1ปี
วันนี้ได้กำหนดไว้ว่า แต่ละเรื่องควรจะเท่าไร ใน 3เดือนแรก 3เดือนต่อไป อันนี้ก็กราบเรียนทาง สนช.แล้วก็ สปช.เพราะต้องสอดคล้องกันทั้งหมด อะไรที่ทำได้ทำเลย อะไรที่ต้องแก้กฎหมาย ก็แก้ให้ทันใน 1ปี อะไรที่ทำไม่ได้ ต้องไปเพิ่มเติมในรายละเอียด หลายอย่างไปว่ากันในระยะยาว วันนี้อะไรที่ออกได้ต้องออกก่อน แต่ต้องฟังความคิดเห็นก่อน อันนี้ขอย้ำ ซึ่งการปฏิรูปก็กำลังเดินหน้า สนช.กำลังออกกฎหมาย จะได้เข้าใจว่า ประเทศเราไปตรงไหน ถ้ายังเอาปัญหาพันไปพันมามันไม่ได้ เราต้องรักษากฎกติการะเบียบให้เดินหน้าประเทศให้ได้ โอเคนะ ตนพร้อมรับฟังทุกท่านทุกกลุ่ม ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาให้คำแนะนำรัฐบาลและคสช.มา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี