กมธ.ยกร่างฯยังถกไม่เลิก ปมที่มานายกฯ-ครม.
วันเสาร์ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 13.54 น.
Tag :
29 พ.ย. 57 แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณากรอบรัฐธรรมนูญ คณะที่ 3 ซึ่งพิจารณาในประเด็นระบบผู้แทนที่ดี และผู้นำการเมืองที่ดี รวมถึงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ, รัฐสภา และคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่มีนายสุจิต บุญบงการ รองประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 ทำหน้าที่เป็นประธานอนุฯ มีข้อพิจารณาถึงประเด็นที่มา ครม. โดยมีประเด็นที่ยังถกเถียงกัน คือ ให้นายกฯ และครม. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และให้ใช้ระบบเลือกตั้งนายกฯ โดยอ้อม หมายถึงให้สภาฯ เป็นผู้เลือกบุคคลที่ทำหน้าที่นายกฯ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ประเด็นยังอยู่ระหว่างถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสีย และยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าการนำเสนอผลพิจารณาต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้าจะเป็นเพียงการวิเคราะห์ผลดี ผลเสีย เพื่อประกอบเป็นทางเลือกให้พิจารณาเท่านั้น
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าข้อเสนอที่ให้เลือกครม.โดยตรง ทราบว่าในคณะกมธ.ปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สปช. เป็นประธานกมธ. ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเป็นรูปแบบที่เสนอต่อสปช. หรือกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนเข้าใจว่าประเด็นที่เสนอดังกล่าวเพื่อต้องการเพิ่มความมีเสถียรภาพของฝ่ายบริหาร เพราะที่ผ่านมาเฉลี่ยอายุของรัฐบาลสามารถอยู่ได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้นจึงทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องของการบริหารงาน สวนตัวมองว่าหากจะใช้ระบบเลือกตั้งครม.โดยตรงอาจต้องปรับระบบเลือกตั้งและอำนาจการบริหาร เช่น การประกาศยุบสภา รวมถึงฝ่ายนิติบัญญัติด้วย เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าวตนมองว่าประเทศไทยเคยทดลองใช้มาแล้ว โดยการกำหนดให้มีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่หากจะนำมาใช้จริงต้องพิจารณาผลดี และผลเสียทั้ง 2 ด้านอย่างรอบคอบด้วย