วันเสาร์ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 14.28 น.
29 พ.ย. 57 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “บทบาทของสนช.กับการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน” ในโครงการสัมนาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 28-30พ.ย. 2557 ณ โรงแรมเดอะรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จ.เพชรบุรี โดยระบุตอนหนึ่งว่า สมัยตั้งสนช.ใหม่ๆมีความกังวลว่า การเอาปลา 4 น้ำ ได้แก่ 1.พวกท็อปบู๊ท 2.พวกที่มามือเปล่า คือ อดีตสมาชิกรัฐสภา 3.นักกฎหมาย 4.ภาคเอกชน มาอยู่ด้วยกันจะไปได้หรือไม่
ทั้งนี้ หากต้องทำงานภายใต้เวลาที่จำกัด แต่ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่า อยู่กันได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยเหตุ 3-4 อย่าง1.การวางกฎกติกาทำให้เกิดความมีวินัย 2.จิตสำนึกของแต่ละบุคคล 3.ระบบวิปสนช.และวิปรัฐบาล ที่ทำงานรวดเร็ว ซึ่งเท่าที่ดูประธานสนช.และรองประธานสภา 2 คน ทำงาน คุมเกมได้ดี เป็นดรีมทีมของสภาได้
อย่างไรก็ดี แต่ที่น่าห่วงคือจะทำอย่างไรให้กฎระเบียบความเคร่งครัดยังคงอยู่ และเดินต่อได้อย่างยั่งยืน อยากให้สนช.ประคับประคองระเบียบเหล่านี้ไปให้ได้ 1 ปี ไม่ใช่แค่ 4 เดือน ให้กลายเป็นประเพณีปฎิบัติ
นอกจากนี้ หัวใจของการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนมี 5 ด้าน 1.พิมพ์เขียว 2.โรดแมป ซึ่งวันนี้ (29พ.ย.) อยู่ในโรดแมปช่วงสอง ที่เริ่มจากวันที่ 22 ก.ค. หลังจากมีรัฐธรรมนูญชั่วคราว คาดว่าสิ้นสุดในช่วงเดือนก.พ.59 ก่อนวันเช็งเม้ง แม้จะมีระยะเวลาทูลเกล้าฯรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในวันที่ 4 ก.ย. 58 แต่ใช่ว่า จะเลือกตั้งได้ทันที ยังต้องมีกระบวนเสนอกฎหมายลูกตามมาอีก กว่าจะเลือกตั้งคาดว่า อยู่ในช่วงเดือน ก.พ. 59
3.แม่น้ำ 5 สาย คือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และสนช. ที่ทำให้คนไทยเดินตามแม่น้ำ 5 สาย 4.ทำทันที ทำต่อไป ทำอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคำพูดนายกฯ 5.ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
“วันนี้เราทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว เหมือนคำโบราณที่ว่า ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ไม่เช่นนั้นจะถูกแป๊ะไล่ลงจากเรือ คือ เข้าใจในสิ่งที่เขาอยากให้เข้าใจ”นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีปฏิทินในเดือนธ.ค. จะนำกฎหมายสำคัญเข้าสนช.หลายฉบับ เช่น กฎหมายภาษีมรดก คาดว่าจะอยู่ในสภาฯ 3 เดือน และคาดจะบังคับใช้ได้เดือน มิ.ย.58 กฎหมายว่าด้วยการให้ กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ กฎหมายมหาชน หากจะแก้ไขก็ขอให้เตรียมการแปรญัตติไว้
ขณะที่เดือนม.ค.ปี 58 จะมีการเสนอพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ เพื่อใช้ควบคุมฝูงชนในเวลามีเหตุการณ์ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีแนวคิดว่า หลังจากเมื่อส่งกฎหมายไปยังสภาฯแล้ว จะแจ้งว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับใดเป็นร่างพ.ร.บ.ตามนโยบาย แทนการระบุว่า เป็นเรื่องด่วน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากเป็นร่างพ.ร.บ.ตามนโยบายก็ขอให้ช่วยเร่งพิจารณา เพราะถ้าไม่เขียนกำกับไว้ให้พิจารณาไปตามปกติ
ส่วนเรื่องการทำประชามติ ภายหลังการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วนั้น ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวให้มีการทำประชามติได้ อาจจะต้องใส่เพิ่มไป 5-7 มาตรา ภารกิจนี้วันหนึ่งอาจจะมาถึงสนช.
อย่างไรก็ตาม หน้าที่หลักของสนช.ที่ต้องทำ มี 11 ประการ 1.การแก้กฎหมาย 2.การแก้รัฐธรรมนูญ 3.แต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่ง 4.ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5.การให้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ข้อนี้ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ 6.การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การตั้งกระทู้ถาม ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมจะมาตอบกระทู้ต่อสนช.
7.การรับฟัง รับทราบ เรื่องที่เข้าสู่การพิจารณา 8.การปฏิรูปประเทศ 9.การสร้างความปรองดอง แม้วันนี้มีเสียงเข้าหูว่า สนช.ยังไม่ได้ลงไปทำงานร่วมกับชาวบ้าน แต่เชื่อว่า เวลา 4 เดือนยังเร็วเกินไป แต่หลังจากนี้ สนช.คงมีโอกาสได้ไปรับฟังความเห็นประชาชน โดยหลายคนมีเครือข่าย สามารถต่อสายกับเครือข่ายตัวเองได้ 10.การทำความเข้าใจกับประชาชน และ 11.การช่วยสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ