'จตุพร'ซัดเลือกนายกฯโดยตรง ยืนกรานแก้ปัญหาซื้อเสียงไม่ได้
วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 17.31 น.
Tag :
8 ธ.ค. 57 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ “
Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์” แสดงความคิดเห็นต่อกรณีข้อเสนอการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งนายจตุพรระบุตอนหนึ่งว่า จากประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ถึงที่มาของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. โดยมีการกล่าวอ้างว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง จะเป็นการแก้ไขระบบอุปถัมภ์และแก้ไขการซื้อเสียงได้ ซึ่งข้อเสนอนี้ หากเกิดในซีกของ นปช.หรือพรรคเพื่อไทยก็จะถูกข้อกล่าวหาทันทีว่า กำลังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบประธานาธิบดี
ข้อเสนอที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยตรงนั้น หมายความว่าใน 20 กระทรวงและ 1 นายกรัฐมนตรี ต้องมีการเสนอตัวให้ประชาชนไปโหวต และหากนายกรัฐมนตรีได้จากพรรคนึง รมต.มหาดไทยจากอีกพรรคนึง เกษตรได้อีกพรรค และการคลังเป็นอีกพรรค มันก็จะสับสนอลหม่านเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ แต่ข้อเสนอที่เป็นแนวความคิดประหลาดๆนี้กลับออกมาจากทั้ง สปช. และที่ประชุมอธิการบดี
ในการเลือกตั้งที่เป็นสากล จะมีการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีคนเดียว แล้วเค้าก็ไปแต่งตั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรีเอง เช่นเดียวกับการเลือกผู้ว่าฯ ที่เลือกคนเดียว แล้วจึงไปแต่งตั้งระดับรองผู้ว่า เลขา ที่ปรึกษาเอง แต่ไม่มีใครไปกากากบาทเลือกรองเอง
ในการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 พรรคไทยรักไทยได้ ส.ส.ที่ไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน โดยอาจจะเคยเป็นนักเคลื่อนไหวมาก่อน เป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นมาก่อน แต่ประชาชนเห็นว่า คนเหล่านี้สามารถดูแลประชาชนได้ และในระบบวันแมนวันโหวตนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ใช่กลุ่มทุน แต่สามารถรับใช้ประชาชนได้เป็นตัวแทนได้ เราจึงได้นักการเมืองน้ำดีเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นั่นแสดงให้เห็นว่าในเขตพื้นที่ขนาดเล็กและมีการดูแลประชาชนแบบทั่วถึงนั้น เป็นประโยชน์สูงสุดมากกว่า รวมถึงการดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม กกต.ก็สามารถได้หน้าที่ได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นการอ้างว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง คณะรัฐมนตรีโดยตรง รวมถึงการเลือกตั้ง ส.ส.แบบพวงใหญ่จะแก้ไขปัญหาการซื้อเสียงได้ จึงไม่เป็นความจริง
การแก้ไขปัญหาซื้อเสียงได้คือ กกต.ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด อย่าให้คนชั่วมาเหยียบบันไดสภาตามที่อดีต กกต.เคยพูด และสำคัญที่สุดคือการปลูกจิตสำนึกของประชาชน ซึ่งเวลานี้ประชาชนก็ไปไกลแล้ว เขารู้ดีว่าจะจัดการกับนักการเมืองอย่างไร และตราบใดที่องค์กรอิสระยังมีรูปลักษณ์ที่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีมาโดยวิธีใด ก็จะไม่พ้นเงื้อมมือขององค์กรอิสระ ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบ อยู่ที่ว่าใครเป็นฝ่ายไหนยังไง ถ้าเป็นพวกตัวเอง ผิดก็วางแผนช่วยกันดังที่เราเห็นกันมา ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ปปช. กกต.ก็ตาม เพราะฉะนั้นข้อเสนอทั้งหมด ก็เพียงเพื่อให้เกิดความสับสนอลเวง ผมจึงขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ดูไปตั้งแต่ต้นจนจบ หลักคิดในเวลานี้อยู่แค่ที่ว่า "แป๊ะจะเอายังไง" เพราะ "ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ" และท้ายที่สุดนั้น "อยู่ที่แป๊ะกำหนด" และแป๊ะก็คือ รัฎฐาธิปัตย์นั่นเอง