11 ธ.ค. 57 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว "Abhisit Vejjajiva" เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานได้ออกมายอมรับผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของกระทรวงพลังงานแล้วว่า ได้โยนภาระของภาคอุตสาหกรรมให้ประชาชนซื้อก๊าซแพง และได้เสนอแนะคิดการปฏิรูปพลังงาน ให้กับรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน โดยนำนโยบายสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมาเปรียบเทียบ โดยแตกออกเป็น 4 ประเด็น แยกออกเป็นก๊าซหุงต้ม 2 ประเด็น และน้ำมัน 2 ประเด็น พร้อมตั้งคำถามและให้คำแนะนำประกอบ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เผยอีกว่า แนวคิดของตนนั้นเคยนำมาใช้ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 110 บาทต่อบบาร์เรล ซึ่งทำให้คนไทยสามารถซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำมันดีเซลในราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยกองทุนน้ำมันไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลจัดเวทีเสวนาเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงประเด็นเรื่องนโยบายพลังงานต่อไป พร้อมเรียกร้องให้หยุดสร้างวาทกรรมเท็จ อาทิ ก๊าซจะหมด กองทุนน้ำมันจะขาดทุน เพื่อเป็นข้ออ้างในการผลักภาระให้ประชาชนเหมือนในอดีต
ข้อความในเฟซบุ๊กระบุดังนี้
"กระทรวงพลังงานยอมรับว่าโยนภาระของภาคอุตสาหกรรมให้ประชาชนซื้อก๊าซแพง"
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกระทรวงพลังงานที่ได้ให้ความสำคัญกับความเห็นที่ผมได้แสดงไปก่อนหน้านี้ผ่านทาง Facebook และได้ทำคำชี้แจงเผยแพร่ต่อสาธารณะ ผ่านทาง Facebook กระทรวงพลังงาน
คำชี้แจงดังกล่าว ได้ยอมรับข้อเท็จจริงที่ผมใช้ในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่มีการโต้แย้ง ทำให้ขณะนี้ประเด็นความเหมือนและความต่างระหว่างนโยบายปัจจุบันกับแนวคิดของผม ที่เคยนำมาใช้ในรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนดังนี้
1.แนวคิดและนโยบายทุกยุคจะอาศัยกลไกการแทรกแซงของรัฐผ่านระบบภาษี กองทุนน้ำมันและกฎระเบียบอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงและบิดเบือนกลไกตลาดทั้งสิ้น ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าจะมีวัตถุประสงค์ในการแทรกแซงเพื่อใคร บนฐานคิดอะไร
2.กรณีของก๊าซหุงต้มนั้น รัฐบาลยอมรับแล้วว่าต้องการให้ทุกภาคส่วน คือภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรม ต้องแบกรับภาระต้นทุนเหมือนกัน โดยนำต้นทุนจากการนำเข้าก๊าซราคาแพงของภาคอุตสาหกรรมมาเฉลี่ยกับต้นทุนการผลิตในประเทศ ไม่แยกแยะเหมือนกับแนวคิดของผมว่าก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน คนไทยที่ใช้ด้วยความจำเป็น (หุงต้ม) จึงควรสามารถใช้ได้ในราคาต้นทุนการผลิต ส่วนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมหรือปิโตรเคมี ซึ่งขายผลิตภัณฑ์ของตนในราคาตลาด ก็สมควรที่จะจ่ายราคาขายในตลาด ขอยืนยันว่านโยบายที่ผมเสนอและเคยปฏิบัติ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกองทุนน้ำมันและรัฐบาล ไม่เป็นการบิดเบือนต้นทุนการผลิตสำหรับครัวเรือน ส่วนปัญหาการลักลอบนั้นก็เป็นปัญหาที่รัฐบาลมีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปราม
สำหรับแนวทางของรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยระบบคูปอง กระทรวงพลังงานก็ได้ยอมรับแล้วว่ามีปัญหามาก ที่สำคัญแม้จะมีการปรับปรุงโครงการนี้ ก็จะทำให้เกิดปัญหาการบิดเบือน หรือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่แพ้ปัญหาการลักลอบ
โดยสรุปทางเลือกนโยบายก๊าซหุงต้ม จึงเป็นทางเลือกระหว่างการยึดถือว่าก๊าซธรรมชาติเป็นของคนไทย ซึ่งต้องมีสิทธิได้ใช้ก่อนในราคาต้นทุน หรือจะถือว่าก๊าซเป็นเพียงสินค้าตัวหนึ่ง ที่ทุกคนต้องแบกรับภาระตามราคาขายในตลาดที่ไม่มีการแข่งขัน
3.สำหรับกรณีของน้ำมันนั้นความแตกต่างอยู่จะที่ว่า เราจะแยกแยะระหว่างเชื้อเพลิงที่ใช้ในกระบวนการผลิตและขนส่งจากเชื้อเพลิงที่ใช้ส่วนบุคคลหรือไม่ ขอยืนยันความคิดว่าการทำให้ต้นทุนการผลิตและขนส่งถูกลง เป็นแนวทางบริหารเศรษฐกิจที่ดี และปัจจุบันรัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังในการใช้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ถูกลง คำชี้แจงของกระทรวงพลังงานไม่ได้กล่าวถึงว่าทำไมราคาขายหน้าโรงกลั่น ไม่สะท้อนต้นทุนน้ำมันดิบที่ลดลงและไม่มีคำอธิบายว่าที่จะต้องสะสมเงินกองทุนน้ำมันนั้น สะสมไว้เพื่อจะใช้ต่อไปในวัตถุประสงค์อะไร หรือจะใช้อย่างไรในอนาคต เพื่อประโยชน์ของใคร
4.หากรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับต้นทุนและกลไกตลาด รัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบทุนของเชื้อเพลิงทุกตัว ไม่ใช่ยอมรับต้นทุนที่ผู้ประกอบการแจ้งมา และมีผู้โต้แย้งในสังคมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการเปิดเผยและแก้ไขกรณีการขายก๊าซให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมในเครือในราคาพิเศษ
ผมหวังว่ารัฐบาลจะเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงในเรื่องนี้ต่อไป และอยากให้ทบทวนนโยบาย เพราะแนวคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติเป็นของประชาชน คือที่มาของการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงาน และผมหวังว่าจะไม่มีการใช้วาทกรรมเท็จ (ก๊าซจะหมด กองทุนน้ำมันจะขาดทุน และอื่นๆ) ในการผลักภาระให้กับประชาชนเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา
อนึ่ง แนวคิดของผมนั้นได้ใช้ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 110 เหรียญต่อบาร์เรล และทำให้คนไทยสามารถซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม น้ำมันดีเซลในราคา ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยไม่ได้ทำให้กองทุนน้ำมันเสียหาย นอกจากนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบต้นทุนของเชื้อเพลิงต่างๆ เพื่อหาทางลดภาระให้กับประชาชนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี