ปปช.ชนอัยการยื้อคดี“ปู”
ลั่นฟ้องเอง!
ยืนกรานไม่สอบพยานเพิ่ม
เหน็บมั่วยกปม“จีทูจี”
ชี้ไม่เคยมีในสำนวน
รอวัดใจถกนัดสุดท้าย
ความคืบหน้ากรณีการยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานละเลยต่อหน้าที่จนทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งต้องมีการต้องคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เนื่องจาก 2 ฝ่ายยังคงมีความเห็นต่างกันเรื่องสำนวนคดี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสุรศักดิ์ รัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานสอบสวน ได้ออกมายืนยันให้ ป.ป.ช. ทำการสอบพยานเพิ่มเติมโดยอ้างว่า คำให้การของพยานกรณีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ยังมีความขัดกันอยู่นั้น
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมว่า ป.ป.ช.ขอยืนยันในหลักการเดิมว่า ได้ไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แม้ฝ่ายอัยการสูงสุดอยากให้มีการสอบพยานบุคคลและหลักฐานต่างๆ เพิ่ม แต่ป.ป.ช.คงไม่สอบเพิ่มให้อีก เพราะประเด็นที่ต้องการให้สอบไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตามป.ป.ช.จะนำสิ่งที่คณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดเสนอมา เข้าหารือในที่ประชุมคณะทำงานฝ่ายป.ป.ช.อีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายสรรเสริญ กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายอัยการสูงสุดแถลงมาล่าสุดนั้น ยังไม่ทราบว่า จะฟ้องคดีดังกล่าวให้ป.ป.ช.หรือไม่ แต่ถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้น เพราะถ้าอัยการสูงสุดยังยืนยันในหลักการเดิม ขณะที่ป.ป.ช.ก็ยืนยันในจุดยืนของตัวเอง ก็แสดงว่าคงหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ ถ้าอัยการสูงสุดต้องการให้สอบเพิ่มเติมเกินกว่ากรอบที่ป.ป.ช.วางไว้ ป.ป.ช.ก็ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามคงต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายอัยการสูงสุดในการประชุมคณะทำงานร่วมป.ป.ช.กับอัยการสูงสุดในนัดสุดท้ายว่า จะฟ้องคดีให้ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะประชุมคณะทำงานร่วมเมื่อใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อัยการสูงสุดต้องการให้ป.ป.ช.สอบเพิ่มเติมเรื่องการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีว่า มีการซื้อขายจริงหรือไม่ เนื่องจากพยานบางปากยังให้การขัดกันเอง นายสรรเสริญ ตอบว่า เรื่องจีทูจีไม่เกี่ยวกับประเด็นการชี้มูลความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลยและไม่มีอยู่ในสำนวนด้วย เพราะกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องการไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการจำนำข้าว แต่เรื่องจีทูจีอยู่ในสำนวนคดีทุจริตซื้อขายข้าวแบบจีทูจีที่มี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา เป็นคนละสำนวนกัน จึงสงสัยว่าอัยการสูงสุดติดใจอยากให้สอบเพิ่มเติมเรื่องนี้ในประเด็นใด
ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ทางฝ่ายอัยการสูงสุดยังไม่ได้ติดต่อมาว่าจะประชุดนัดต่อไปเมื่อใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นหลังวันที่ 16 ธันวาคม เพราะเมื่ออัยการสูงสุดส่งสัญญาณมาว่า ให้สอบพยานเพิ่มเติม ก็คงต้องถึงเวลามาพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ ให้ชัดเจนให้เร็วที่สุด
“การที่อัยการสูงสุดขอให้สอบพยานเพิ่มในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น หากเป็นพยานใหม่ที่ไม่เคยสอบมาก่อน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพยานที่สอบมาแล้วหรือปฏิเสธไปแล้ว เราจะยืนยันตามเดิม ยกเว้นแต่เป็นพยานใหม่เราจึงจะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่หากคณะทำงานร่วมประชุมกันครั้งสุดท้ายไม่ได้ข้อยุติ ป.ป.ช.ก็จะดำเนินการยื่นฟ้องเอง” นายปานเทพ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี