ดีเอสไอแถลงทิศทางทำงานปี58 ยึดมั่นทำคดีกู้ความเชื่อถือกลับคืน
วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 18.47 น.
Tag :
18 ธ.ค. 57 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงถึงทิศทางและนโยบายการดำเนินงานของดีเอสไอในปี 2558ว่า เจตนารมณ์การก่อตั้งดีเอสไอเพื่อเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการป้องกัน การปราบปราม การสืบสวน และการสอบสวนคดีพิเศษทางอาญาที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยใช้วิธีการพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษซึ่งเป็นคดีที่มีความสำคัญ ซับซ้อน และมีผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆ ดังนั้นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอต้องเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ที่ผ่านสังคมอาจเกิดความสงสัยในบทบาทหน้าที่ของดีเอสไอเนื่องจากคดีที่รับเข้ามาเป็นคดีพิเศษมีหลากหลาย ในฐานะที่ตนเข้ามาทำหน้าที่อธิบดีเอสไอก็มีความตั้งใจจะบริหารดีเอสไอเพื่อให้ภาพลักษณ์ทีดีกลับคืนมา
นางสุวณา กล่าวอีกว่า สำหรับวิสัยทัศน์ของดีเอสไอคือเป็นองค์กรชั้นนำด้านการสืบสวนสอบสวนที่มีมาตรฐานในระดับสากล และได้รับความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม ทั้งนี้ งานของดีเอสไอมีความสำคัญและหลากหลาย คดีแต่ละประเภทก็เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆ ทิศทางที่ต้องการนำพาดีเอสไอให้สังคมเข้าใจ คือ การทำงานที่เป็นมาตรฐาน โดยเน้นให้ความสำคัญในกระบวนการดำเนินคดีที่มีความโปร่งใส ในการสอบสวนต้องเป็นไปตามกฎหมายคือพิสูจน์ทั้งความผิดและความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหานำพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ซึ่งเมื่อทำอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของสังคมแล้วความเชื่อมั่นก็จะตามมาเอง
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า ตนจะขับเคลื่อนองค์กรผ่านผู้บริหารระดับต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว เพื่อให้ดีเอสไอเป็นที่พึ่งของประชาชนและสังคมอย่างแท้จริง โดยแนวทางการรับคดีที่ผู้มาร้องขอให้เป็นคดีพิเศษนั้น ดีเอสไอมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีพิเศษต้องเป็นไปตามเงื่อนไขใน พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อรับคำร้องเข้ามาสู่การพิจารณาเสียก่อนว่าเรื่องนั้นๆเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในขั้นตอนนี้ศูนย์บริหารคดีพิเศษจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเบื้องต้น หากข้อเท็จจริงไม่ชัดเจน ก็จะมอบหมายให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นไปตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือสอบสวน
“แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอก็จะพิจารณาส่งต่อเรื่องไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับไปดำเนินการ หรือแม้แต่การส่งเรื่องไปยังขั้นตอน ตั้งแต่การรับเรื่อง การมอบหมายให้หน่วยงานภายในดำเนินการ หรือแม้แต่การส่งเรื่องไปยังหน่วยงานภายนอก ก็จะแจ้งให้ผู้ร้องรับทราบ และสำเนาหนังสือที่ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานภายนอกแนบไปด้วย” นางสุวณา ระบุ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอมีจำนวนมากและหลากหลาย ล่าสุดดีเอสไอมีคดีพิเศษสะสมทั้งหมด 1,815 คดี ที่สอบสวนเสร็จแล้ว จำนวน 1,502 คดี และอยู่ระหว่างการสอบสวนจำนวน 312 คดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่อยู่ระหว่างการสืบสวนอีก จำนวน 291 คดี ซึ่งทุกคดีเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ประชาชนมองภาพลักษณ์ดีเอสไอในแง่ลบก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวเห็นว่า ภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวทางการรับคดีของดีเอสไอไปรับเรื่องเล็กๆที่ไม่สมควรเป็นคดีพิเศษ กับภาพลักษณ์ที่ไปทำคดีที่เกี่ยวกับการเมืองจนเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์
นางสุวณา กล่าวอีกด้วยว่า วิธีส่งเสริมภาพลักษณ์ดีเอสไอในเบื้องต้นได้มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น 1.การวางระเบียบดีเอสไอเพื่อให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการรับคดีพิเศษที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอโดยตรง โดยกำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะพิจารณาและเสนอความเห็นต่ออธิบดีดีเอสไอ เพื่อลดดุลอำนาจพินิจของอธิบดีดีเอสไอในการใช้อำนาจสั่งรับคดีพิเศษ ซึ่งจะทำให้มีการกลั่นกรองเสนอข้อเท็จจริงของคดีและเหตุผลตามกฎหมายที่สมควรรับเป็นคดีพิเศษว่าเป็นไปตามกำหมายหรือไม่ ซึ่งจะทำให้การรับคดีมีความโปร่งใสตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย 2.เรื่องที่จะเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อรับพิจารณษเพิ่มเติมนอกเหนือจากกฎหมายให้อำนาจดีเอสไอดำเนินการเอง จะต้องเสนอเรื่องผ่านอนุกรรมการคดีพิเศษที่มีลักษณะเดียวกัน คือ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หากไม่มีลักษณะตามหมายกำหนดก็จะไม่เสนอให้เป็นคดีพิเศษ 3.เน้นความโปร่งใสของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
หากมีกรณีร้องเรียนกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการดำเนินคดี ก็จะพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้จะศึกษาแนวทางปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดการแทรกแซงทางการเมืองในการบริหารงานบุคคลของดีเอสไอ เมื่อฝ่ายการเมืองไม่สามารถแทรกแซงการบริหารงานบุคคลได้ แ ละมีระเบียบการดำเนินคดีที่เข้มแข็ง ก็จะทำให้ดีเอสไอเป็นองค์กรที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้