19 ธ.ค. 57 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เปิดเผยถึงกรณีคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีต ผบช.ก และในพื้นที่เขต ผบก.น.5 ว่า ในส่วนสำนวนของ สน.วัดพระยาไกร และสน.พระโขนง นั้นได้ส่งสำนวนคดีสรุปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปแล้วเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมีการส่งสำนวนกลับมาแล้ว โดยในส่วนสำนวนคดี มี พล.ต.ต.ภคพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. เป็นผู้ดูแลสำนวนคดี
ด้านขั้นตอนการดำเนินงานหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำนวนกลับมานั้น หากไม่มีความเห็นให้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม ทาง บช.น.ก็จะส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนพื้นที่ สรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการต่อไป
รายงานแจ้งอีกว่าทาง บช.น.ได้ส่งสำนวนคดีที่เกี่ยวกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเครือข่าย ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย 3 สำนวนคดีคือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ / สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน / สำนวนคดีบ่อนการพนัน นั้นทาง สตช.ยังไม่ได้ส่งสำนวนดังกล่าวกลับมา บช.น.
สำหรับความคืบหน้าคดี ของนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เพิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรณีแอบอ้างเบื้องสูง นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสำนวนคดี ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้ สตช.พิจารณาได้ภายในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ จากกรณีที่น้องชายนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ มาร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ยืนยันว่าพี่ชายไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันเถื่อน โดยพล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า ยังไม่มีการเรียกตัวน้องชายเสี่ยโจ้มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบการเงินบัญชีธนาคารและหลักฐานสำเนาการโอนเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง ลงวันที่ 21 พ.ย. 51 และ 23 ก.ย. 52 รวมทั้งสลิปเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค. 55 รวมเป็นเงิน 110,000 บาท ที่น้องชายเสี่ยโจ้อ้างถึง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวอีกว่า ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คน ท้องที่สน.พระโขนง คดีข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท นายปรีชา ดาราไตร อายุ 44 ปี ผู้จ้างวาน และนายไพเชษฐ์ เมธีสริยพงศ์ อายุ 45 ปี ผู้ติดต่อและเจ้าของบ้านพาเหยื่อไปกักขัง ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร อีก 1 คน นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี เป็นลูกหนี้จ้างให้ลดหนี้ ทั้งหมดอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ผู้ต้องหาที่เหลือยังไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งตามหลักฐานนายปรีชา และนายไพเชษฐ์ ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ส่วนนายนพพร คาดว่าหลบหนีอยู่ในประเทศที่ถือวีซ่า คือประเทศแคนนาดา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี