ยกร่างรธน.‘สีชมพู’
สปช.-สนช.ส่งความเห็นกมธ.
‘บวรศักดิ์’โอ่ลงมือต้นปีใหม่
‘วีระกานต์’หนุนนิรโทษม็อบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่อาคารรัฐสภา โดยมี
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นประธานเพื่อรับฟังความเห็นของ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มาให้ความคิดเห็นในนามส่วนตัวโดย นายวีระกานต์ กล่าวต่อที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯตอนหนึ่งว่า ตนไม่ได้มาในนามของแกนนำ นปช.ตามที่ นายคำนูญ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯระบุ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีข่าวใหญ่กว่าที่ตนมาให้ความเห็นคือ นปช.จะขับตนออกจากกลุ่ม เนื่องจากทางกลุ่มฯมีมติแล้วว่า จะไม่ร่วมในวงนี้ ส่วนสาเหตุที่แกนนำ นปช.บางคนประกาศชัดว่า ไม่ขอร่วมรำวงครั้งนี้เพราะให้เหตุผลว่า รำวงรอบนี้เป็นรอบเหมาของทหาร แล้วจิ๊กโก๋ท้องถิ่นอย่างเราจะมาสะเออะทำไม ตนจึงมาให้ความเห็นในนามส่วนตัวตามที่พรรคพวกเพื่อนฝูงซึ่งเป็น กมธ.ยกร่างฯบางคนเชิญมา
ค้านเลือก′นายกฯ-ครม.′โดยตรง
ต่อมา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกมธ.ยกร่างฯแถลงหลังจาก นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช.เข้าให้ข้อเสนอแนะว่า นายวีระกานต์ ให้ข้อเสนอแนะว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารแบบการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยตรง เห็นว่า สส.ควรสังกัดพรรคการเมือง เพราะหากสส.ไม่สังกัดพรรคการเมืองจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนจุดยืน อีกทั้งไม่สามารถนำเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาได้และรัฐควรให้งบประมาณที่มากพอกับสส.ในการหาเสียง นอกจากนี้ ด้านการปกครองท้องถิ่นเห็นว่า แต่ละจังหวัดมีการบริหารงานที่ซ้ำซ้อนระหว่าง อบจ.และอบต.จึงจำเป็นต้องหาแนวทางในการแบ่งความรับผิดชอบที่ชัดเจน
ศาล-องค์กรอิสระต้องตรวจสอบได้
สำหรับกระบวนการยุติธรรม หรือศาล ควรมีจุดยืนที่ยึดโยงกับภาคประชาชนและวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งของคณะกรรมการในระดับสูงนั้น ควรได้รับความเห็นชอบจากสภาใดสภาหนึ่ง เช่น สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา เหมือนกับในหลายๆประเทศ ทั้งนี้ ศาลหรือองค์กรอิสระนั้นมีความเป็นอิสระมากเกินไป จึงควรเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้เช่นเดียวกับอำนาจอื่นๆ พร้อมทั้งเห็นด้วยกับแนวคิดให้บุคคลภายนอกเข้าเป็นคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.)ในส่วนขององค์กร อย่างไรก็ตามเห็นว่า กมธ.ยกร่างฯมาจากการแต่งตั้ง จึงไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนเพื่อให้เกิดการยอมรับ
เขียนรธน.ไม่อคติก็ปรองดองแล้ว
ส่วนการมุ่งเน้นการปฏิรูปประเทศภายในเวลา 1-4ปีนั้น นายวีระกานต์ เสนอว่า 1.ควรเสริมสร้างให้สังคมมีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง 2.ควรเสริมสร้างความสมานฉันท์และความยุติธรรมในสังคม 3.ขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นและ4.สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนทุกภาคส่วน ส่วนเรื่องสร้างความปรองดองเห็นว่า หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจะสร้างความปรองดองได้เกินครึ่ง เพราะกมธ.ยกร่างฯก็เปรียบเหมือนคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติ ต้องเขียนกฎหมายแบบไม่มีอคติ
หนุนนิรโทษเฉพาะผู้ร่วมชุมนุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เสนอแนวทางการนิรโทษกรรมหรือไม่ พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า นายวีระกานต์ มีความเห็นด้วยในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะนิรโทษกรรมให้ประชาชนและผู้ร่วมชุมนุม แต่ไม่ใช่นิรโทษกรรมให้แกนนำ หรือผู้สั่งการ ซึ่งไม่ได้ระบุช่วงเวลาว่า ต้องย้อนกลับไปถึงเมื่อไร
หลังหารือเสร็จสิ้น นายบวรศักดิ์ ได้ลงมาส่ง นายวีระกานต์ ขึ้นรถกลับ โดยผู้สื่อข่าวถามนายวีระกานต์ว่า จะนำเรื่องที่หารือกับกมธ.ยกร่างฯไปพูดคุยกับแกนนำ นปช.หรือไม่ นายวีระกานต์ กล่าวว่า เดี๋ยวไปคุยกับ นปช.
สปช.-สนช.ส่งความเห็นบวรศักดิ์
เวลา 13.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดพิธีส่งมอบรายงานสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อคณะกมธ.ยกร่างฯ
รวบรวม3วัน-ชงบรรจุในร่างรธน.
โดย นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภา สปช.กล่าวว่า วันนี้สมาชิก สปช.ทุกคนมีความปิติเป็นอย่างมาก ที่ก้าวแรกตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญฯชั่วคราวปี2557 ที่ต้องมีหน้าที่รวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อบรรจุในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องให้เสร็จใน 60 วัน นับตั้งแต่การประชุมฯครั้งแรก ซึ่งความเห็นทั้งหมดรวบรวมจากสมาชิก สปช.ผู้ทรงคุณวุฒิ และข้อเสนอแนะที่ทยอยส่งจากภาคประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพอย่างกว้างขวาง หลังจากนั้น ทางคณะกรรมาธิการของ สปช.ทั้ง 18คณะ ได้รวบรวมข้อเสนอเพื่อให้สมาชิกอภิปรายและพิจารณาร่วมกันระหว่างวันที่ 15-17ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดได้กลั่นกรองเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีการนำเสนอต่อคณะกมธ.ยกร่างฯเพื่อจะบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญต่อไป
‘พรเพชร’เผยแยกแยะไว้3ส่วน
ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า สนช.ได้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญตามมาตรา34 วรรค2ของรัฐธรรมนูญ จากนั้นสนช.ได้ทำหน้าที่รวบรวมความเห็นส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งในการประชุม สนช.เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา สมาชิกได้มีมติเห็นชอบรายงานของคณะกมธ.ดังกล่าว ซึ่งในรายงานฉบับนี้แบ่งออกเป็น 3ส่วน คือ ข้อเสนอของคณะ กมธ.ของ สนช.จำนวน 17คณะ ข้อเสนอความเห็นของสมาชิก สนช.และข้อเสนอที่จำแนกตามกรอบที่คณะกมธ.ยกร่างฯกำหนดเอาไว้ด้วย
23กค.58ชี้ขาดจะรับร่างหรือไม่
ขณะที่ นายบวรศักดิ์ กล่าวหลังจากประธานทั้ง 2สภา ส่งรายงานความเห็นฯ เพื่อประกอบการยกร่างฯว่า ทุกคนทราบดีว่า กมธ.ยกร่างฯเป็นกรรมาธิการที่เป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้หน่วยงานใด แต่การดำเนินการทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับทุกหน่วยงาน ซึ่งตัดขาดจากกันไม่ได้ ดังนั้นทางคณะกมธ.ยกร่างฯ จึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ดังนั้น ทางคณะกมธ.ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้ความคิดเห็น ซึ่งยังสามารถให้ความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 23กรกฎาคม2558 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กมธ.ยกร่างฯต้องจัดทำร่างฯ ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอให้ สปช.ลงมติว่า จะรับร่างฯหรือไม่
ไม่มีพิมพ์เขียว-มีแต่พิมพ์สีชมพู
“ขอขอบคุณประธานทั้ง 2ท่าน ที่ได่ส่งความเห็นข้อเสนอแนะเข้ามา ผมยืนยันว่าไม่มีพิมพ์เขียว มีแต่พิมพ์ชมพู ซึ่งคือหน้าปกข้อเสนอของ สปช.และสนช.ที่ส่งมอบมาในวันนี้ ประกอบการรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนหน้านี้ จากการดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหมและสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา โดยพร้อมเปิดรับข้อเสนอไปจนกว่าจะร่างเนื้อหาแล้วเสร็จก่อนวันที่ 23กรกฎาคม2558 โดยพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพราะการรับฟังความเห็นไม่ใช่พิธีการ แต่สามารถนำมาใช้ได้จริง โดยจะยกร่างฯจริงตั้งแต่ปีใหม่”นายบวรศักดิ์ กล่าว
เทียนฉายฝากการบ้านปฎิรูปปท.
หลังจากนั้น มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นายเทียนฉายระบุว่า หน้าที่ของ สปช.ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ การให้ความเห็นต่อการร่าง รธน.ซึ่งข้อสำคัญที่คู่ขนานไปด้วยกันนั่นคือ การปฏิรูปด้านต่างๆในสังคมให้ดีขึ้น แม้การปฏิรูปจะเกิดขึ้นแล้ว จะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดก็ตาม แต่อย่างน้อยสิ่งที่อยากเห็นเมื่อเกิดการปฏิรูปนั่นก็คือ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและยุติธรรม พูดง่ายๆคือ ต้องไม่มี 2มาตรฐาน แต่สิ่งที่ยากในการปฏิรูปให้สัมฤทธิ์ผลก็คือ การปฏิรูประบบต่างๆ เช่น การปฏิรูประบบรัฐวิสาหกิจ เพราะต้องใช้เวลาที่จะเห็นผล เป็นต้น ส่วนจะแน่ใจได้อย่างไรว่า แนวทางที่เดินร่วมกันมาจะถูกต้อง ตนก็อยากฝากให้ไว้เป็นข้อคิดว่า จะช่วยกันคิดช่วยกันทำอย่างไร โดยหลังปีใหม่จะมีการตกลงกรอบวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่จะนำประเทศไปสู่ทางที่ดีขึ้นด้วยและในช่วงเข้าสู่ปีใหม่ สปช.จะทยอยให้ของขวัญประเทศไทยตลอดปีหน้า โดยของขวัญชิ้นแรกจะออกมาในสัปดาห์หน้า”นายเทียนฉาย กล่าว
เปิดตารางเวลายกร่างจนเสร็จสิ้น
ทางด้าน นายบวรศักดิ์ แถลงว่า หลังรับข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนก็จะหารือเพื่อตกลงกรอบการยกร่างฯภายในวันที่ 26ธันวาคมนี้ จากนั้นจะส่งให้อนุกรรมาธิการยกร่างฯเป็นรายมาตรา ที่มี นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน จัดทำประเด็น คณะกมธ.ยกร่างฯจะลงรายมาตรา ตั้งแต่วันที่ 12มกราคม2558 กำหนดให้แล้วเสร็จและส่งให้ สปช.พิจารณาในวันที่ 17เมษายน2558 ซึ่ง สปช. ครม.และคสช.สามารถส่งคำขอแก้ไขเพิ่มเติมได้จนถึงวันที่ 23กรกฎาคม2558 ซึ่งจะได้ร่างสุดท้ายของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ยินดีให้สื่อฟัง-แต่บางเรื่องห้าม
จากนั้นวันที่ 6 สิงหาคม 2558 สปช.จะลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 4กันยายน 2558 ซึ่งถ้าหากจะให้มีการดำเนินการทำประชามติก็จะทำให้เสียเวลาไปอีก 3เดือน ส่วนการเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ารับฟังการประชุมของ กมธ.ยกร่างฯนั้น ความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ตนอยากให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่า หากเปิดโอกาสให้สื่อ หรือบุคคลภายในนอกเข้ารับฟัง การแสดงความเห็นบางเรื่องอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะถือว่ามีสื่อทำข่าวอยู่ ก็อาจได้ความคิดเห็นที่ไม่เป็นความจริงและในบางเรื่องก็ต้องเชิญสื่อออกอยู่ดี เพราะสื่อมวลชนอาจจะเห็นภาพที่ไม่ดีนักในระหว่างมีการประชุม
ยึดหลัก’วิชาการ’ไม่ใช่’หลักกู’
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกมธ.ยกร่างฯจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ในการนำความเห็นต่าง ๆ มาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีทั้งที่เห็นด้วยและที่เห็นต่าง นายบวรศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า หลักในการพิจารณาความเห็นต่าง ๆ จะนำเข้ามากลั่นกรองโดยใช้ “หลักวิชาการ”ไม่ได้ใช้ “หลักกู”และต้องทำความเข้าใจว่า เรา“ รับฟัง”ไม่ใช่ “เชื่อฟัง ”ทั้งหมด ส่วนเรื่องใดที่ไม่สามารถหาฉันทามติได้ก็ต้องใช้การลงมติ ซึ่งจะนำไปไว้ในช่วงท้ายของการพิจารณา
“สมชัย”ค้านให้’มท.’จัดกาบัตร
ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอของหลายฝ่ายที่ต้องการให้กระทรวงมหาดไทย(มท.) จัดเลือกตั้งแทน กกต.ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะข้าราชการประจำก็อยู่ภายใต้สังกัดการเมือง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเกรงใจ หรือกระทำเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายการเมือง ดังนั้นการจัดการเลือกตั้งจะต้องอยู่ในกำกับดูแลขององค์กรอิสระที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายการเมืองใด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมไม่ได้ ข้อเสนอนี้ค่อนข้างถอยหลังกลับไปสู่ยุคเดิมๆ
หนุนคงกกต.-ไม่เอาศาลเลือกตั้ง
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอให้มีศาลเลือกตั้ง รวมถึงการให้ใบเหลืองใบแดงไปอยู่ที่ศาลนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะคดีเลือกตั้งไม่ใช่คดีเอาเรื่องของข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายมาตัดสินว่า ใครถูกใครผิด การตัดสินโดยศาลสิ่งที่เกิดขึ้นจะต้องมีการหาหลักฐานมายืนยันว่า กระทำความผิด เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมาต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและการตัดสินจะตัดสินภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับคดีเลือกตั้ง เพราะคดีเลือกตั้งการหาหลักฐานที่ชัดเจนว่า ใครทำอะไรมันไม่ง่าย เพราะประชาชนที่เป็นผู้ร้องกับฝ่ายที่เป็นนักการเมือง สถานะไม่เท่าเทียมกัน อาจมีการใช้อำนาจอิทธิพล ตำแหน่งทางการเมืองมาข่มขู่พยานทำให้พยานเกรงกลัว หรือทำให้หลักฐานไม่มีเพียงพอให้ศาลตัดสินว่าถูกหรือผิดได้ค่อนข้างมาก
แนะกกต.จังหวัดให้ทำงานต่อไป
ส่วนข้อเสนอให้ยุบ กกต.จังหวัดนั้น ก็ไม่เห็นด้วย ควรให้มีอยู่ไว้เช่นเดิม แต่ต้องมีการออกแบบและปรับโครงสร้างที่มาและสัดส่วนของ กกต.จังหวัดให้มีความเหมาะสม ความรู้ความสามารถหลากหลาย หากจะให้เลือกตั้ง กกต.จังหวัดทั่วประเทศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด โดยต้องมีกระบวนการสรรหาคัดกรองกันใหม่เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและไม่ให้ กกต.จังหวัดตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายการเมือง
ชูกกต.ปัจจุบันเหมาะจัดเลือกตั้ง
นายสมชัย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากอนาคตมีการจัดการเลือกตั้งมองว่า ควรให้ กกต.ชุดปัจจุบันเป็นผู้ที่หน้าที่จัดเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์และมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง หากมีการตั้ง กกต.ชุดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งทันที อาจไม่เป็นผลดีต่อประเทศ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ระบบการเมืองในปัจจุบัน ไม่รู้เท่าทันนักการเมือง แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับฝ่ายที่มีหน้าที่ออกแบบรัฐธรรมนูญว่า จะกำหนดออกมาอย่างไร
‘บิ๊กป๊อก’ให้องค์กรกลางทำแทน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงข้อคิดเห็นของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยจัดเลือกตั้งแทนที่องค์กรอิสระ เพราะจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายการเมือง รวมถึงข้าราชการประจำจะอยู่ภายใต้สังกัดการเมือง ว่า น่าจะเป็นองค์กรกลางที่จะเป็นผู้ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลจากการปฏิรูปว่า จะออกมาในรูปแบบใดและต้องแจ้งให้สังคมได้ทราบ เมื่อผลออกมาแล้วตนก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวและแสดงความเห็น
บิ๊กตู่ให้รู้รักสามัคคีถวายในหลวง
เวลา 20.15น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรรี กล่าวในรายการ”คืนความสุขให้คนในชาติ’ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทยไทย โดยสรุปว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พสกนิกรชาวไทยได้ยินดี พร้อมใจกันทำความดีถวายในหลวงฯ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 87พรรษาและในสัปดาห์นี้ชาวไทยทั้งประเทศก็ได้รับทราบข่าวดีอีกครั้ง เมื่อสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่12 ว่าพระอาการทั่วไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีขึ้น เสวยได้มากขึ้น ทรงบรรทมได้ดี และทรงมีพระวรกายแข็งแรงขึ้น ผมมั่นใจว่า “การรู้รักสามัคคี”ของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะเป็นการถวายพระพรและเป็นการเสริมสร้างกำลังพระทัยแด่พระองค์ท่านให้หายจากอาการประชวรโดยลำดับครับ
มอบ’ปฎิรูปปท.’ของวัญปีใหม่
สำหรับของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลและกระทรวงจะมอบให้ก็ถือว่า เป็นของขวัญปีใหม่ เหมือนของขวัญอื่นๆ นะครับ เพราะเราเป็นคนไทยนะ แล้วก็เป็นวัฒนธรรมไทย ที่ปีใหม่ก็มีของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กัน รัฐบาลก็ไม่มีอะไรจะให้ นอกจากสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องอนาคตที่ต้องทำในขณะนี้อยู่ การปฏิรูปอะไรต่างๆนี่เป็นของขวัญที่ยั่งยืนนะ
อย่าฉลองเมามายจนขาดสติ
ก็ขอให้มีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทุกคนปลอดภัย เดินทางด้วยความสุข คนขับรถระมัดระวัง อย่าดื่มสุรา การรื่นเริงต่างๆ ก็ดื่มสุราแต่น้อย ถ้าใครรู้ว่ามีหน้าที่อะไรก็ต้องระมัดระวังนะ อย่าให้มันเกินไปจนท่านควบคุมตัวเองไม่ได้ มันบานปลายมาเดือดร้อน ทะเลาะเบาะแว้ง สู้กัน ฆ่ากัน เสียดายชีวิต เกิดมาพ่อแม่เลี้ยงมาตั้งกี่ปี หมดเงินหมดทองไปเท่าไรไม่รู้ มาตายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมาเหล้าตาย ขับรถตายเพราะเมาสุรา อะไรทำนองนี้ ไม่ได้หรอก หรือชกกัน ตีกัน แทงกันตาย คนเราต้องหมั่นทำความดีนะ ไหว้พระไหว้เจ้า เคารพศาสนา ดูแลทุกคน เป็นกุศล จะได้มีชีวิตที่ยืนยาว แล้วก็เป็นสุข ดูแลคนอื่นเขาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี