พบอีกที่ดินสมุทรสาคร
2แปลงปริศนา
โยงเครือข่ายพงศ์พัฒน์
จ่อใช้กฎอัยการศึก
ส่งปปง.ไปจัดการ
คาดรองเต่าเผ่นนอก
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามพยานหลักฐาน สรุปสำนวนคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) ว่า สำนวนคดีเกือบทั้งหมดได้ส่งไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) แล้ว ยังคงเหลือสำนวนคดีฟอกเงิน และการตรวจสอบอายัดทรัพย์สินที่เป็นของกลางทั้งพวกของเก่าและไม้แปรรูปเท่านั้น
คดีน้ำพริก“สุดาทิพย์”ผิดคนเดียว
ส่วนสำนวนคดีความผิดตามมาตรา 112 ของ สน.สามเสน และ สน.ลาดพร้าวนั้น ขณะนี้สำนวนในพื้นที่ สน.สามเสน กรณีการดำเนินคดี น.ส.สุดาทิพย์ ม่วงนวล อายุ 48 ปี ในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ และคณะบุคคลปณสุ ที่ได้แอบอ้างเบื้องสูงในการประมูลกิจการขายผักสด ผักต้ม และน้ำพริกต่างๆ ได้สรุปสำนวนทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งมีแค่การดำเนินคดีกับ น.ส.สุดาทิพย์ เพียงคนเดียวเท่านั้น
สำนวน“ชากานต์-ณัฐพล”ใกล้เสร็จ
ขณะที่สำนวนคดีในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว ขออายัดตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.พระโขนง 2 ราย โดยมี นายชากานต์ ภาคภูมิ อายุ 34 ปี และ นายณัฐพลหรือ สุวะดี (อัครพงศ์ปรีชา) อายุ 29 ปี แอบอ้างเบื้องสูงยื่นหนังสือ 3 ฉบับ ให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เพื่อขอสิทธิ์เข้าสอบเพราะขาดเรียนเกินกำหนด ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ระหว่างที่นายชากานต์ขาดเรียนไปนั้น ได้ไปก่อเหตุแอบอ้างเบื้องสูงบังคับให้ผู้เสียหายให้ลดหนี้สิน 120 ล้านบาท เหลือเพียง 20 ล้านบาท ในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้ สตช. พิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้าต่อไป
คาด”รองเต่า”เผ่นไปนอกแล้ว
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดีฟอกเงินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประสานข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พร้อมกับให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเพิ่ม 2 ราย คือ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รองผกก.6 บก.ป.หรือ”รองเต่า” และนายทรงพล ทองสิน คนสนิท พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีรอง ผบช.ก. รวมถึงผู้ต้องหาที่อีก 3 รายที่เหลือ ก่อเหตุแอบอ้างเบื้องสูงบังคับผู้เสียหายให้ลดหนี้สิน 120 ล้าน เหลือเพียง 20 ล้านบาท ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี ผู้จ้างวาน และก่อเหตุแอบอ้างเบื้องสูงข่มขู่ทวงหนี้ผู้เสียหาย 37 ล้านบาท ยังเหลือผู้ต้องหาที่หลบ 2 คน คือ นายปรีชา ดาราไตร อายุ 44 ปี ผู้จ้างวาน และ นายไพรเชษฐ์ เมธีสริยพงศ์ อายุ 45 ปี เจ้าของอู่รถเมล์ร่วมบริการสาย 8 นั้น หลักฐานที่ยังคงตรวจสอบยังพบว่าอยู่ในประเทศ แต่คาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดน่าจะหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้ว ทั้งนี้ ยังไม่มีใครติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
เร่งสะสางของกลางคดีฟอกเงิน
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ส่วนการทำสำนวนคดีของกลางที่ยึดมาได้ในข้อหาฟอกเงิน ของ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ และนายทรงพลจะเริ่มเมื่อใดนั้น ต้องรอให้ฝ่ายทหารตรวจสอบของกลางที่ยึดมา ร่วมกับกรมศิลปากร กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ก่อน คาดว่าจะทราบผลหลังปีใหม่แน่นอน เพราะกรมศิลปากรต้องนำไปดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องมีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ให้แน่ชัด ทั้งวิธีการยืนยันว่าทำอย่างไร มีผู้เชี่ยวชาญมายืนยันให้แน่ชัดเกี่ยวกับวัตถุโบราณ มีการจดทะเบียนหรือไม่ รวมถึง ซากสัตว์ป่า งาช้าง ต้องดูให้ละเอียดทั้งหมด เมื่อทั้ง 4 หน่วยงานตรวจสอบของกลางเสร็จสิ้นแล้ว ทางบช.น.จึงจะเริ่มทำสำนวนคดีในส่วนนี้ได้ ส่วนสำนวนคดีทางพฤติการณ์ทาง บช.นทำอยู่แล้ว
“หลักฐานทางราชการพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2รายยังอยู่ภายในประเทศไทย แต่หลักฐานทางการสืบสวนพบว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว ไม่มีการมาติดต่อมอบตัวจากผู้ต้องหา ส่วนลักษณะการฟอกเงินอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้” พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าว
เป็นคดีพิเศษหรือไม่อยู่ที่ดีเอสไอ
ส่วนกรณี ที่มีกระแสข่าวว่า บช.น. ชงสำนวนคดี ม.112 ให้เป็นคดีพิเศษนั้น พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีความคิดเห็น คดีพิเศษต้องรอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มีความคิดเห็นไม่เกี่ยวกับในส่วนของ บช.น. ซึ่ง บช.นเพียงแค่ทำงานตามหน้าที่ หากดีเอสไอหรือทาง สตช. ต้องการให้คดี 112 เป็นคดีพิเศษเป็นเรื่องที่ต้องไปจัดการเอง ระหว่างนี้ บช.น.ก็ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาต่อไป
พบที่ดินเกี่ยวโยงพงศ์พัฒน์
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พบที่ดินที่ จ.สมุทรสาคร จำนวน 2 แห่ง แต่ไม่ทราบว่าขนาดที่ดินมีความกว้างเท่าไหร่ หรือมีจำวนกี่ไร่ โดยเจ้าของที่ดินใช้ชื่อว่า นายชอบ ไม่ทราบนามสกุล มีความเชื่อมโยงเป็นญาติของ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ซึ่งการพบที่ดินดังกล่าวจะแจ้งให้ทางทหารทราบเพื่อใช้กฎหมายอัยการศึก และส่ง ปปง.เพื่อทำการตรวจสอบโดยจะนำข้อมูลการตรวจสอบดังกล่าวไปไว้ในสำนวนคดีฟอกเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี