22 ธ.ค.57 ที่อาคารรัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) พร้อมด้วย พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิก สนช.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่.. พ.ศ. ....ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อใช้บังคับให้เป็นกฎหมาย
โดย พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ทาง กมธ.ได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีการแก้ไขทั้งหมด 45 มาตรา และมีสมาชิก สนช.9 คน ได้มีการแปรญัตติในร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งทาง กมธ.คาดว่าจะมีการดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปลายเดือน ม.ค.58 ซึ่งทางคณะ กมธ.วิสามัญฯ จึงขอแจ้งข่าวดีซึ่งจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกันตน ซึ่งจะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
ด้าน นพ.เจตน์ ระบุว่า สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนได้สิทธิ์เพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ก็คือ เพิ่มสิทธิด้านสุขภาพในการป้องกันโรค ขยายระยะเวลาในการยื่นผลประโยชน์ทดแทน 7 ประการ เช่น กรณีเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีคลอดบุตร กรณีว่างงาน จากเดิมเพียง 1 ปี เป็น 2 ปี เพิ่มฐานคำนวณค่าจ้างรายวัน กรณีที่ผู้ประกันตนขาดรายได้ ดำเนินการให้เงินเหมาจ่ายคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และรับเงินทดแทนสงเคราะห์บุตรได้ 3 คน แก้คำนิยามคำว่า "ลูกจ้างชั่วคราว" ให้ครอบคลุมถึงลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมดให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ส่วนการจ้างเหมาบริการ สัญญาปีต่อปี กรรมาธิการฯจะพิจารณาว่าถ้าเป็นการทำงานตอบแทนเป็นนายจ้าง ลูกจ้างกันจริง จะถือว่าครอบคลุมด้วย และให้ผู้ประกันตน ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้ผู้ประกันตนกรณีได้รับความเสียหายในการรับบริการทางการแพทย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์
นอกจากนี้ นพ.เจตน์ ยังกล่าวว่า ในร่างกฎหมายก็ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ จากเดิมที่ให้สิทธิได้ไม่เกิน 15 ปี เป็นตลอดชีวิต ทั้งนี้ ให้สิทธิดังกล่าวถึงผู้ทุพพลภาพที่หมดสิทธิ์เมื่อครบกำหนด 15 ปี ไปแล้วด้วย อีกทั้งที่ประชุมยังได้เสนอผู้ที่จะมาเป็นกรรมาธิการประกันสังคม จะต้องมาจากผู้แทนลูกจ้าง นายจ้าง จากเดิมฝ่ายละ 5 คน เป็น 7 คน โดยจะต้องมาจากการเลือกตั้งของผู้ประกันตน และจะต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน รวมทั้งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียผลประโยชน์ทับซ้อนกับสำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้ เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาจากที่ประชุม สนช.ในวาระ 2 และ 3 ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี