'วิษณุ'ชี้ทำประชามติเป็นจุดอ่อน รบ.ไม่ยุ่งยกร่างรธน.หน้าที่กมธ.
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 18.48 น.
Tag :
22 ธ.ค. 57 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 13 ถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ภาระในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 36 คน ในส่วนของรัฐบาลจะเหมือนกับองค์กรอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พรรคการเมือง สามารถมีข้อเสนอต่าง ๆ ได้ แต่วันนี้รัฐบาลยังไม่จำเป็นที่จะต้องเสนอความเห็น ปล่อยให้ กมธ.ยกร่างฯ คิดไปสักระยะก่อน จึงค่อยเสนอว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม วันนี้กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่ได้ทำอะไร การที่รัฐบาลออกมาพูดตอนนี้จะถือว่าเร็วไป จึงต้องปล่อยให้เห็นหน้าตาแกงส้มอย่างที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ เคยกล่าวไว้ เพราะยังมีเวลาอีกมากพอสมควร เวลานี้ใครอยากพูดอะไรก็สามารถเสนอได้ แต่รัฐบาลเองจะพูดให้น้อยที่สุด ขณะที่หลายคนบอกว่าพวกเขาร้อนวิชา มีการออกมาแสดงความเห็นต่อการยกร่างฯ ที่หลากหลาย ซึ่งสถานการณ์นี้อยากหยิบสำนวนไทย“เหาะเกินลงกา”มาเปรียบเปรย เพราะเมื่อตอนที่นางสีดาถูกจับตัวไป พระรามได้ออกตามหา แต่พระรามกลัวว่านางสีดาจะไม่รู้ จึงให้หนุมานเอาแหวนไปให้นางสีดา เมื่อเห็นแหวนจะได้จำได้ หนุมานจึงดีใจเร่าร้อนวิชา ตีลังกาเหาะเหินเดินอากาศ ปรากฎว่าเหาะจนเลยเมืองลงกา ซึ่งแปลว่าวันนี้อาจมีลักษณะแบบนี้บ้างก็ไม่ว่ากัน แต่อีกหน่อยช่วยดึงกลับมาลงเมืองลงกาให้ได้ ไม่เช่นนั้นนางสีดาจะไม่รู้ การปฏิรูปก็จะไม่สำเร็จ รวมไปถึงการร่างรัฐธรรมนูญก็จะไม่สำเร็จ
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการทำประชามติว่า การทำประชามติจะสำคัญหรือไม่ อยู่ที่ว่าจะสามารถตอบโจทย์ได้หรือไม่ว่าทำไปทำไม การทำประชามติเพื่อให้เกิดการยอมรับ ซึ่งนำไปสู่การผูกมัดอะไรหลายอย่าง ถือเป็นข้อดี แต่เรื่องดังกล่าวก็มีจุดอ่อนเพราะจะทำให้กระบวนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญล่าช้า และต้องใช้เงินมากเท่ากับการจัดการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หากจะทำประชามติ ต้องสร้างความเข้าใจและอธิบายในทุกมาตรา ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ไม่ได้สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนมากพอ จึงเกิดปัญหาถกเถียงกันภายหลัง ทั้งนี้ ควรจะรอให้ร่างรัฐธรรมนูญเห็นหน้าตาสัก40-50 มาตราก่อนค่อยวิจารณ์ทิศทางจะดีกว่าหรือไม่