ไล่ออก'พงศ์พัฒน์'พวก6คน
ชงถอดยศซ้ำ
ผลสอบชี้ทำผิดวินัยร้ายแรง
จ่อเจอซ้ำคดีเปิดบ่อนรัชดาฯ
เรียกคืนเครื่องราช “ณัฐพล”
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วยผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลสอบสวนทางวินัยกรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(อดีตผบช.ก.)กับพวกรวม 6 คน ว่าคณะกรรมการสอบสวนซึ่งมีพล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานมีมติเห็นชอบให้ไล่นายตำรวจทั้ง 6 ออกจากราชการเนื่องจากผลการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดกระทำผิดวินัยร้ายแรง
เผย6ชื่อก๊วน”บิ๊กกิ๊ก”ถูกไล่ออก
สำหรับอดีตนายตำรวจทั้ง 6 นายประกอบด้วยพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงค์รุ่งโรจน์ อดีตรองผบช.ก. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อดีตผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา อดีต ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป.และ ดต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง อดีต ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ผู้ต้องหา ตามความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลอาญา มาตรา 112 เป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบ เรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ส่งฝ่ายกม.-ชงถอดยศซ้ำ
ทั้งนี้คณะกรรมการสอบสวนเตรียมทำรายงานสรุปผลการสอบสวนทั้งหมด เสนอต่อ พล.ต.อ.เอก อังสนานนส์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกฎหมาย เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
และในเร็ว ๆ นี้ จะให้นายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ออกจากราชการเพิ่มอีก เพราะกระทำผิดวินัยร้ายแรง ส่วนการถอดยศจะมีการดำเนินการต่อไป ซึ่งเงื่อนไขการถอดยศจะต้องเป็นตำรวจที่มีความผิดวินัยร้ายแรง หรือต้องคำพิพากษาจำคุกในคดีอาญา โดยไม่จำเป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุดก็สามารถดำเนินการได้
เครือข่ายส่วยบอลขอมอบตัว
พล.ต.ท.ประวุฒิ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการออกหมายจับเพิ่มเติมพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
ฉายาพันธุ์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ พ.ต.อ.วรพจน์ พืชผล ผกก.1.บก.ปอศ. พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี อดีตรอง ผกก.6.ปและนายวิฑูรย์ ตระการพฤกษ์ ในข้อหาเรียกรับสินบนเครือข่ายโต๊ะพนันออนไลน์ข้ามชาติ”อาบูบาก้า”และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเมื่อปี 2552-2553 ว่า สำหรับพ.ต.ท.ทรงรักษ์ และนายวิฑูรย์ ยังไม่มีการประสานขอเข้ามอบตัว ส่วนพ.ต.อ.วรพจน์อยู่ระหว่างการประสานให้เข้ามามอบตัว คาดว่าจะมามอบตัวในเร็วๆนี้
เตรียมออกหมายจับเพิ่มเติม
ถามว่าจะมีการออกหมายจับผู้ที่มีความเชื่อมโยงในคดีต่างๆ อีกหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า คาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ส่วนเป็นคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สน.ใด เกี่ยวข้องกับคดีอะไร มีกี่คน ยังไม่สามารถระบุได้ แต่คาดว่าน่าจะมีเพราะมีการพาดพิงอยู่ใน 2-3 เรื่อง ตนขอดูในส่วนของรายละเอียดก่อนว่าจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่
เจออีกคดีลอบเปิดบ่อนรัชดาฯ
ด้านพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า ชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมกรณีลักลอบเปิดบ่อนการพนันในสถานบริการชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรัชดา ที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพล.ต.ต.โกวิทย์ และผู้ที่ทถูกดำเนินคดีไปแล้ว โดยเกิดขึ้นใกล้เคียงกันกับคดีบ่อนการพนันออนไลน์อาบูบาก้า ปี 2552-2553 นอกจากนี้มีผู้เกี่ยวข้องอีก 3-4 ราย เป็นพลเรือนเป็นนายทุน โดยกำลังขออนุมัติศาลออกหมายจับก่อนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ข่าวแจ้งว่า สำหรับการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพล.ต.ต.โกวิทย์นั้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง2รายที่เรือนจำต่อไป
หาหลักฐานมัด”พ.ต.ต.-ร.ต.อ.”
ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาทุจริตคดีอาบูบาก้า ต้องดูว่าจากการสอบสวนมีการให้การอย่างไรหรือซัดทอดถึงใคร แต่ขณะนี้มีผู้ต้องหาแค่ 5 คน สำหรับพ.ต.ต.และร.ต.อ.ที่มีรายชื่อเกี่ยวข้อง พอรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคดีเท่านั้น ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงเป็นเพียงพยานเท่านั้น ถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงทางการเงินถึงใครก็จะถูกดำเนินคดี
เรียกคืนเครื่องราช “ณัฐพล”
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยประกาศระบุว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดร้อยเอกณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา สังกัดหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน2557 ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทำความผิดวินัยทหารประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ผิดกฎหมายบ้านเมือง
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทานทั้งนี้ตามข้อ 6และข้อ7(4)ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ.2548 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจ ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพโดยมีอาวุธ กักขังหน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ แอบอ้างสถาบันฯเพื่อหาประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวตามอำนาจของศาล
ฝากขังครั้งที่2”สุดาทิพย์”
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น.ร.ต.ท.ณัฐดนัย ลอยคลัง พนักงานสอบสวน สน.สามเสนยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 คดีน.ส.สุดาทิพย์ ม่วงนวล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 ซ.ทวีวัฒนา 49 ต.ศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ ฯซึ่งเป็นภรรยา พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล อดีตผกก.ตม.จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันแอบอ้างสถาบัน โดยพนักงานสอบสวนขอฝากขังอีก 12วันเนื่องจากยังสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 6 ปากซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ ขณะที่น.ส.สุดาทิพย์ ผู้ต้องหายังถูกคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี