22 ม.ค.58 ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.868/2553 ที่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง และนางวรกร จาติกวณิช ภรรยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พรรคเพื่อไทย , นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าสินไหมทดแทนด้วย
คดีนี้โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 26 - 27 ธ.ค.52 จำเลยที่ 3 และ 4 กับพวก ได้แจกเอกสารแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสองและครอบครัวโดยการโฆษณาว่า ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานการบินไทยและผู้ถือหุ้นว่า นายกรณ์ อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 , 84 , 86 , 91 , 326 และ 328 และขอให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์รวม 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ศาลได้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2 ทั้งในคดีส่วนแพ่งและส่วนอาญาตั้งแต่ในชั้นตรวจคำฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 3 และ 4 จำเลยปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 และ 4 ร่วมกันแจกเอกสารและแถลงข่าวว่า โจทก์ที่ 1 ใช้อภิสิทธิ์ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารของตัวเองและครอบครัว ในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งในการเบิกความตอบคำซักค้านต่อทนายจำเลย ฝ่ายโจทก์ก็ยอมรับว่า โจทก์ทั้งสองมีการอัพเกรดบัตรโดยสารหรือการปรับชั้นที่นั่งโดยสารจริง แม้จะอ้างว่าเป็นการอัพเกรดโดยชอบตามระเบียบของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อช่วงเดือน พ.ค. - ก.ย.52 โจทก์มีการอัพเกรดบัตรโดยสารจากชั้นประหยัดไปชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง รวม 14 ครั้ง โดยมีการเดินทางไปกรุงลอนดอน 11 ครั้ง เกาะบาหลี 2 ครั้ง กรุงปารีส 1 ครั้ง ตรงกับคำแถลงของจำเลย เห็นว่าจำเลยที่ 3 และ4 แถลงข่าวในฐานะคณะทำงานสำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานการบินไทยและผู้ถือหุ้นว่า โจทก์ที่ 1 อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำการอัพเกรดบัตรโดยสาร เชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ใน 2 ลักษณะ คือ 1.โจทก์ที่ 1 อาจใช้อำนาจและอภิสิทธิ์ของ รมว.คลัง สั่งให้พนักงานที่มีอำนาจในการเลื่อนชั้นการเดินทาง ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารโดยไม่มีการจ่ายค่าโดยสารเพิ่มเติม หรือ 2.ผู้มีอำนาจในการอัพเกรดบัตรโดยสารทำการเลื่อนชั้นการเดินทางให้โจทก์ที่ 1 และครอบครัว อาจเป็นเพราะเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่างหรือเพื่อความก้าวหน้า หรืออาจผู้มีอำนาจเหนือกว่าเป็นผู้สั่งการ และการที่จำเลยใช้คำว่า "อาจมีอภิสิทธิ์สั่งการ" นั้นเชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ชี้ให้เห็นว่าจำเลยมิได้ยืนยันว่าโจทก์ที่ 1 ใช้อำนาจสั่งการให้กระทำการดังกล่าว อีกทั้งจำเลยยังมีการระบุถึงวัตถุประสงค์ในการแถลงข่าวไว้ว่า ทางพรรคเพื่อไทยขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว และเรียกร้องให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ แสดงความรับผิดชอบหรือออกมาชี้แจงต่อสังคมโดยเร็ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถกระทำได้ พิพากษายกฟ้องส่วนคดีอาญา และไม่รับฟ้องคดีส่วนแพ่ง
ภายหลัง น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้ศาลวินิจฉัยยกฟ้อง ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้ทำการตรวจสอบเรื่องพฤติกรรมและการดำเนินการของนายกรณ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นฝ่ายบริหาร ถือเป็นการการทำหน้าที่ตามปกติ
ด้าน นายจิรายุ กล่าวว่า เราเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้น ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน และน่าจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ต้องระมัดระวังในการอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน เพราะถือว่ามีมูลค่าเช่นกัน ส่วนทางพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ก็ยังอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิม โดยเรียกร้องหาความยุติธรรมเป็นหลัก พอการเมืองไม่นิ่ง มีความขัดแย้ง มีประเด็นเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนไม่มีความสุข ผ่านไปแล้ว 7 - 8 เดือน ก็อยากให้มีนายกรัฐมนตรีได้มีการขจัดปัดเป่าปัญหาเหล่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี