28 ม.ค. 58 ที่สโมสรทหารบก วิภาวดีรังสิต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปาฐกถาพิเศษฯ ถึงกรณีที่หลายฝ่ายเห็นว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นการไล่ล่าทางการเมืองว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีความตั้งใจไล่ล่าทางการเมือง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หากจะจัดการปัญหาทางการเมือง ก็คงมีการดำเนินการตั้งแต่เมื่อครั้งเริ่มยึดอำนาจใหม่ๆ วันนี้หากความไม่เข้าใจยังมีอยู่ก็คงต้องมีการพูดคุยอธิบาย แต่ฝ่ายที่เข้าใจผิด ที่คิดว่ามีการไล่ล่าทางการเมืองต้องไปหาข้อมูลเอาเอง และในที่สุดจะสามารถเข้าใจได้เอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวที่จะกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบแต่ในอนาคตไม่แน่ เพราะคิดว่าเวลานี้ทุกคนต่างยังไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ต่างอยู่ในขั้นตอนของการหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อถึงฤดูกาลที่ทุกอย่างเปิด เช่น เมื่อมีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเข้าสู่การหาเสียงเลือกตั้ง ประเด็นเก่าๆ เหล่านี้ก็จะสามารถกลับมาได้ ซึ่งตนไม่สามารถให้ความมั่นใจอะไรได้ เพราะไม่ได้ทำงานในด้านความมั่นคง
ส่วนกลุ่มบุคคลที่เสียผลประโยชน์จะออกความเคลื่อนไหวนั้น ก็ได้มีการรายงานข่าวทางด้านการข่าวอยู่ แต่ไม่สามารถตอบว่าได้จะบานปลายออกไปถึงไหน แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการสร้างความปรองดองของรัฐบาล แต่ในอนาคตอาจมีการบิดเบือนหรือปลุกระดม ก็อาจจะนำไปสู่การไม่ปรองดองได้
"ผมเคยพูดแล้วว่าเรื่องนี้เหมือนกับการหนีเสือปะจระเข้ ถ้าฝ่ายที่คิดว่ามีอำนาจแต่ไม่ทำอะไรจะเจอสถานการณ์คล้ายๆ ลักษณะนี้ และอาจโดนกดดันจากอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องความขัดแย้งที่ค้างคามา เช่น ถ้าไม่มีการถอดถอนอีกฝ่ายก็จะมองว่าทำไมไม่มีการทำอะไร แต่ถ้าถอดถอนอย่างที่ทำอยู่ ก็จะเกิดความไม่พอใจจากอีกฝ่ายหนึ่ง" นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้มีอะไร เรื่องนี้อยู่ที่ทางฝ่ายเราได้ไปพูดอะไรมากกว่า เพราะข่าวจากหนังสือพิมพ์ระบุว่าฝ่ายเราไปพูดคุยกับสหรัฐฯ ซึ่งตนติดใจเรื่องนี้มากที่บอกว่า รัฐบาลกำลังเล่นละคร อย่างการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
เมื่อถามว่าคณะทำงานศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้มีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลยินดีรับไว้พิจารณาในจังหวะเวลาอันสมควร และต้องดูเรื่องความเหมาะสม ผลกระทบ ซึ่งการจะแก้ปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งต้องคำนึงถึงความหยั่งยืนไม่ใช่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเรื่องดังกล่าวหากดูแลไม่ดีจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา ซึ่งคิดว่ามีความรุนแรงกว่ามาก
"การนิรโทษกรรมคือต้องออกกฎหมาย และทุกฝ่ายต้องมีความเข้าใจ อีกทั้งต้องมีคำตอบที่เหมาะสม เช่น การนิรโทษกรรม 66/23 ในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และสังคมต้องการ จึงออกมาโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่หากออกมาแล้วคนต่อต้าน เราก็ต้องกลับไปใหม่นั่นแปลว่าคุณมาผิดจังหวะ" นายวิษณุ กล่าวว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี