29 ม.ค.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กฎอัยการศึกที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในขณะนี้ หลังสหรัฐอเมริกาแนะให้ไทยยกเลิกการประกาศใช้ ว่า ขอยืนยันว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ได้เป็นปัญหา ซึ่งเป็นธรรมดาที่ในต่างประเทศอาจตกใจ กับการใช้คำว่ากฎอัยการศึก แต่สำหรับประเทศไทย เราอยู่กับการใช้กฎอัยการศึกมานาน โดยเฉพาะในภาคใต้ ที่ใช้กันมานานจนลืมไปแล้ว ซึ่งกฎอัยการศึกโดยตัวมันแล้วไม่มีอะไร แต่ผลจากการประกาศใช้มีตามมา เพราะเจ้าหน้าที่จะมีอำนาจเหนือพลเรือนสิบกว่าอำนาจ แต่จะใช้ทั้งหมดหรือไม่อยู่ที่การประกาศ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีการประกาศใช้เต็มอัตราศึก
ทั้งนี้ ด้วยเหตุนี้ทำให้รัฐบาลคิดว่าการประกาศกฎอัยการศึกไม่น่าจะมีผลอะไร และไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน เพียงแต่อาจทำให้รู้สึกเดือดร้อนรำคาญบ้าง ซึ่งเป็นความจำเป็นของฝ่ายความมั่นคง และคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อาจจะไม่รู้ ดังนั้นก็ต้องฟังเขา เรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลรู้ว่ามีอะไรบ้าง ก็จะหาวิธีที่ผ่อนคลาย แต่วันนี้มีความจำเป็นที่จะประกาศใช้อยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ประเมินอยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่างประเทศยังไม่เข้าใจที่ไทยประกาศใช้กฎอัยการศึก รองนายกฯ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจว่าต่างประเทศเขาเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งมันอยู่ที่ภาพพจน์ของคำนี้ เมื่อถามว่า การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกบุคคลเข้าไปปรับทัศนคติ จะยิ่งตอกย้ำให้ต่างประเทศมีความรู้สึกไม่ดีกับไทยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถ้ามีการเรียกไปจริงอย่างที่เป็นข่าว คงไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องที่เราพบกับผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา แต่เป็นเพราะการออกมาพูดแสดงความคิดเห็นในเรื่องทัศนคติ ที่ทางรัฐบาล หรือ คสช.เห็นว่าต้องมาปรับทัศนคติกันใหม่ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ก็ต้องมาคุยกันทำไมถึงคิดแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมองว่าสหรัฐฯ กำลังคุกคามทางการทูตของไทยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ เพราะฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงแสดงความคิดเห็นไปแล้ว แต่ตนเห็นด้วยกับการพูดของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จริงๆ ก่อนหน้านี้ตนเคยพบกับทูตอเมริกามาแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร เขาจะคอมเม้นอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เราก็พูดตามโรดแมปของเรา
"อเมริกาเขาพูดตามอุดมการณ์ของเขา ซึ่งเราก็รู้ว่าอุดมการณ์ของเขาคืออะไร ไม่ต้องไปเขว ตอนที่มาพบผม ผมก็พูดว่ารัฐธรรมนูญเสร็จเดือน ก.ย.แล้วไปเลือกตั้งเดือน ก.พ.อย่างนี้มันไม่ค่อยฉลาด ผมบอกอีกว่าถ้ารัฐธรรมนูญเสร็จเดือน ก.ย.แล้วไปเลือกตั้งเดือน ต.ค.อย่างนั้นถึงขั้นโง่เลยล่ะ เพราะกฎหมายลูกก็ยังไม่มี พรรคการเมืองก็ยังไม่ได้ตั้ง เพราะฉะนั้นระหว่างไม่ฉลาดกับโง่เราก็ต้องเลือกเอาหน่อย" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ตนดูรัฐธรรมนูญที่ร่างจะมีกฎหมายลูก 2 ประเภท คือ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องออก แต่กฎหมายลูกที่ไม่ได้ประกอบรัฐธรรมนูญ และไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งค่อยออกก็ได้ ให้สภาที่มาจากการเลือกตั้งเขามาออก ส่วนที่มีการเสนอให้เลือกตั้งแบบเยอรมันนั้น เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เราไม่เคยเลือก มันจะเลือกยังไง ก็ต้องรอกฎหมายลูก อาจจะร่างไว้ได้จนกว่ารัฐธรรมนูญจะออก หรืออย่างพรรคการเมืองถ้ายังไม่มีกฎหมายลูก สุดท้ายแล้วก็จะมีพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยแข่งกันสองพรรค ดังนั้น ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนทุกพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี