กำหนดนิยาม'เงินแผ่นดินใหม่' ครอบคลุมเงินกู้ของรัฐ
วันพฤหัสบดี ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558, 18.17 น.
Tag :
29 ม.ค. 58 ที่อาคารรัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงถึงความคืบหน้าในการยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ภาค 2 ผู้นำทางการเมืองที่ดี หมวด5 การคลังและการงบประมาณ ว่า มีการเพิ่มหลักการที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา 4 ประการ คือ
1 ) กำหนดให้การดำเนินนโยบายการคลังและงบประมาณของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล หลักประสิทธิภาพและคุ้มค่า หลักรักษาวินัยทางการคลัง และหลักความเป็นธรรมในสังคม
2 ) กำหนดนิยามเงินแผ่นดินใหม่ โดยกำหนดให้เงินรายได้จากการดำเนินงานหรือจากทรัพย์สิน และสิทธิประโยชน์อื่นที่หน่วยงานของรัฐถือกรรมสิทธิ์หรือครอบครองและใช้จ่ายตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะโดยจำต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน การใช้จ่ายเงินแผ่นดินที่ไม่ได้ตราเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี หรือ พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมจะกระทำมิได้ การกำหนดให้เงินรายได้ใดไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินจะกระทำได้ก็แต่เมื่อมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายและการตรากฎหมายให้หน่วยงานของรัฐไม่ต้องนำเงินรายได้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และต้องมีการกำหนดขอบเขตและกรอบวงเงินเท่าที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษาวินัยการเงินการคลัง และต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพความคุ้มค่าของการใช้จ่ายเงินแผ่นดินและความจำเป็นในการใช้จ่ายของหน่วยงานของรัฐ
3) ระบบงบประมาณ 2 ขา โดยกำหนดให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีและร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมต้องแสดงงบประมาณรายรับและรายจ่ายประจำปี หรือเรียกว่าการจัดงบประมาณสองขา เปลี่ยนจากเดิมที่จะเป็นงบประมาณรายจ่ายเพียงอย่างเดียว และ
4) การจัดสรรงบประมาณตามหน่วยงานภารกิจและพื้นที่
นายคำนูณ แถลงต่อว่า เหตุผลที่มีการนิยามคำว่า เงินแผ่นดินรวมถึงเงินกู้ด้วย เกิดจากบทเรียนของรัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งมีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินโดยไม่ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยมีการอ้างว่าเงินกู้ไม่ถือเป็นเงินแผ่นดินไม่จำเป็นต้องบัญญัติการใช้จ่ายในงบประมาณประจำปี ทำให้เกิดปัญหาและศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า เงินกู้คือเงินแผ่นดิน แต่ก็ยังไม่มีคำนิยามที่ครอบคลุมจึงได้วางหลักการดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญใหม่ นอกจากนี้ยังเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสังคายนากฎหมายการเงิน การคลัง ภาครัฐ ทั้งระบบด้วย