แดงอีสานเลิกคุยมะกัน
อ้างคสช.สั่ง
เพื่อไทยงดจ้อชั่วคราว
สปช.ปัดล่าชื่อประท้วงสหรัฐฯ
โพลล์อัดลุงแซมแก้ปัญหาเองได้
โคราชจัดเต็มรปภ.บิ๊กตู่ลงพื้นที่
มีความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องกรณีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มีนัดหมาย ลงพื้นที่พบแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในภาคอีสาน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ภาคอีสานกล่าวยอมรับว่า เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ติดต่อขอพูดคุยกับตนจริงเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน เนื่องจากตนเข้ามาทำธุระที่กรุงเทพฯ และทหารขอร้องไม่ให้ ให้ข่าวใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอแสดงความเห็นกรณีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯขอเข้ามาพูดคุย เพราะยังเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้และเกรงจะกระทบการเปิดสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดรฯที่เหลือเพียงให้ทหารเซ็นอนุมัติเท่านั้น
พท.หยุดจ้อล้มแผนคุยมะกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สอดคล้องกับอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) รายหนึ่งเปิดเผยว่า ช่วงนี้อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงได้รับการประสานจากหน่วยงานความมั่นคงสั่งกำชับห้ามให้ข่าว หรือออกมาให้สัมภาษณ์แง่ลบต่อรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งพวกเราก็พร้อมปฏิบัติตาม เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย จะหยุดพูดสักพัก เพราะพูดไปคนที่มีอำนาจก็ไม่สนใจรับฟัง เนื่องจากเขามีโรดแม็ปอยู่แล้ว
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะเดินทางไปพบกลุ่มมวลชนภาคอีสานช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรับฟังความรู้สึกของมวลชน รายงานข่าวแจ้งว่า หลังมีกระแสข่าวออกมาทำให้คสช.ไม่สบายใจ จึงต้องยกเลิกกำหนดการพบกันดังกล่าวไป
“วรชัย”พร้อมรายงานตัวคสช.
ขณะที่นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.)ยืนยันพร้อมเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทหารในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่กองทัพภาคที่1 โดยระบุว่า ตนไม่กังวลอะไร เพราะสิ่งที่ตนพูดไปก็ด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติ ไม่ได้พูดยุยง หรือปลุกระดมให้ใครไปต้าน คสช.เรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไร หรือการที่พูดไม่ตรงกับความคิดของผู้ที่มีอำนาจนั้นผิด เราก็เพียงอยากให้เขาฟังเราบ้างเท่านั้น
สปช.ปัดล่าชื่อประท้วงสหรัฐ
สำหรับกรณีมีกระแสข่าวสมาชิกสภาปฎิรูแห่งชาติ (สปช.) บางกลุ่มเตรียมรวบรวมรายชื่อคัดค้านการเคลื่อนไหวของผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยนั้น วันเดียวกัน พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ สมาชิก สปช. เปิดเผยเรื่องนี้ว่า
เป็นการแสดงความเห็นในกลุ่มสมาชิก สปช.ซึ่งโพสต์สื่อสารกันผ่านไลน์ ตนก็ตอบกลับไปว่าทำอะไรทุกอย่างต้องคิด พิจารณาให้ดีว่าสิ่งที่จะทำในนาม สปช.จะเหมาะหรือไม่ การทำงานต้องทำเป็นทีม คนในทีมต้องมีส่วนรู้เห็นก่อน ไม่ใช่ใครคนใดจะกระโดดไปทำเองจะทำให้เสียองค์กร ซึ่งเรื่องนี้ในสนช.ยังไม่ได้คุยกัน เป็นเรื่องภายในที่โพสต์เพื่อพูดคุยกันให้ตกผลึกจึงไม่ควรไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเพียงแลกเปลี่ยนความคิดกัน ตนไม่แหกกฎหรือเล่นนอกเกม ทั้งหมดต้องคุยกันก่อน และเดินด้วยสติไม่ใช่อารมณ์ เพราะบางคนต้องการระบายอารมณ์เท่านั้น
แจงแค่พูดคุยกันทางผ่านไลน์
“เป็นการพูดคุยกันในกลุ่มไลน์ไม่ทราบออกมาได้อย่างไร แต่ถ้าหลุดออกไปแล้ว ผมขอย้ำไม่ทำอะไรที่องค์กรยังไม่ได้ลงมติหรือยังไม่ได้พูดคุยกัน อะไรที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิรูปก็ไม่ควรทำ เราต้องคุยกันก่อน ถ้าประธานบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับงานของเราก็จบ หรือเห็นด้วยก็เป็นอีกเรื่อง ยืนยันไม่มีการเสนอให้ล่าชื่อตามที่เป็นข่าว”พล.ท.นาวิน กล่าว
ปชช.ห่วงปมสอยปูทำปท.วุ่นวาย
วันเดียวกัน รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อผลงานเด่นกระทรวงและทางเลือกการเมืองของไทย 628 ชุมชน
ทั้งนี้ จากการสอบถามความรู้สึกของแกนนำชุมชนที่มีต่อประเด็นที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมา อาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงบานปลายได้ พบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของแกนนำชุมชนที่ถูกศึกษาระบุความรู้สึกกังวล่ระดับหนึ่งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมาอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ได้แก่ การลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ การลงพื้นที่พบแนวร่วมเสื้อแดงภาคอีสานของ คณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ
ตอกมะกันอย่าจุ้นแก้ปัญหาเองได้
เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่อยากฝากบอกสหรัฐฯ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 ระบุอยากขอให้เชื่อมั่นประเทศไทย ขอบคุณที่เป็นห่วงคนไทย และระบุคนไทยยังแก้ไขปัญหากันเองได้ อีกทั้ง ร้อยละ 64.7 ต้องการทราบเหตุผลที่สหรัฐฯออกมาเคลื่อนไหวแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย และเมื่อสอบถามความพึงพอใจต่อท่าทีของรัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการต่างประเทศ ผลสำรวจพบ แกนนำชุมชนส่วนมากถึงร้อยละ 72.0 พอใจค่อนข้างมากถึงมาก ส่วนกรณี คสช.เชิญตัวอดีตนักการเมืองมาปรับทัศนคติจะทำให้ยุติการเคลื่อนไหว และทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่นั้น พบว่าร้อยละ 78.4 เชื่อมั่นจะทำให้ยุติการเคลื่อนไหว และทำให้สถานการณ์ดีขึ้น อีกทั้ง ยังระบุด้วยว่า ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อไปก่อนมากถึงร้อยละ 85.6
โคราชระดมกำลังรปภ.’บิ๊กตู่’
สำหรับความเคลื่อนไหวของหน่วยงานเกี่ยวข้องกับภารกิจรักษาความปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ซึ่งมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่พบเกษตรกร และประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1 /2558 ที่สหกรณ์การเกษตรอำเภอพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา วันที่ 2 กุมภาพันธ์
พล.ต.ต ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จ.นครราชสีมาสั่งการให้หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร 51 แห่ง และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จัดกำลังหาข้อมูลทางลับ รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการเมือง รวมทั้งสนธิกำลังผลัดเปลี่ยนเวรยามดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง เช่น หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สำนักงาน ปปช.จ.นครราชสีมา บ้านแม่ทัพ ซึ่งเป็นสถานที่พักชั่วคราวของพล.อ เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมถึงแหล่งสาธารณูปโภคสถานที่ราชการในเขตอ.พิมายอย่างเข้มงวด ป้องปรามการสร้างสถานการณ์ไม่สงบ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนายกฯนั้น กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่จ.ขอนแก่นโมเดล ได้สนธิกำลังทหารตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย กว่า 300 นาย กระจายกำลังอยู่ในพื้นที่จัดกิจกรรม และตลอดเส้นทางที่นายกฯจะเดินทางผ่าน
พท.ยันไม่วุ่นวายนายกฯลงพื้นที่
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์วันที่ 2 กุมภาพันธ์นั้น เชื่อว่าคงไม่มีการต่อต้าน เพราะนายกฯมาติดตามงานการช่วยเหลือเกษตรกรในภาพรวม ซึ่งเป็นประโยชน์ของเกษตรกรเอง และเท่าที่ทราบไม่เห็นมีใครจะออกมาแสดงการต่อต้านเพราะมีกฎอัยการศึกอยู่ คนแสดงความเห็นได้ไม่เต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าวันที่นายกฯลงพื้นที่มีการแสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะถูกหลายฝ่ายมองว่าพรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอยากเห็นประเทศเดินหน้า ฉะนั้นการสร้างความวุ่นวายในฝั่งของคนเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในภาคอีสานไม่มีแน่นอนตนมั่นใจอย่างนั้น ส่วนนอกเหนือจากนี้ไม่ทราบ เพราะต้องยอมรับว่าสังคมเรามีคนหลากหลาย
แฉขบวนการจ้างล็อบบี้ยิสต์ทุบไทย
มีความเห็นจาก นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คสช.เรียกอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงที่แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเข้าปรับทัศนคติว่า นี่เป็นอีกเหตุผลที่รัฐบาลต้องคงกฎอัยการศึกไว้ เพราะประชาชนจับตาอยู่ว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้เดินไปสู่วันเลือกตั้งโดยไร้ความขัดแย้งเหมือนในอดีต แต่สิ่งเดียวที่จะยุติความขัดแย้งวันนี้คือ รัฐบาลต้องทำงานแบบถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด
ส่วนกรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์การแสดงความเห็นของผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯนั้น ตนเคยเข้าร่วมพบปะกับพรรคการเมืองระหว่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งตัวแทนต่างทราบกันดีว่า มีขบวนการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ ทั้งในทวีปยุโรปและสหรัฐฯบิดเบือนหรือนำเสนอมุมมองต่อไทยแบบผิดๆ แต่ตัวแทนพรรคการเมืองทั้งในยุโรปและสหรัฐฯเข้าใจดีว่าสถานการณ์ในไทยเป็นอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี