‘ตุ๊ดตู่’ป้องแดงหมิ่นเจ้า
ซัดแผนทำลาย
ขู่อย่ากดดันให้ออกไปสู้
ลั่นไม่ขอถูกกระทืบข้างเดียว
แฉ‘กฤษณ์’ถ่ายรูปคู่‘ปู-แม้ว’
ยธ.บี้ล่า40แก๊งอัปรีย์เผ่นนอก
ความคืบหน้ากรณีเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 ปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายกฤษณ์ หรือ เน็ท บุตรดีจีน อายุ 26 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง จ.เพชรบูรณ์ โดย นายกฤษณ์ ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้เผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวตามอำนาจกฎอัยการศึกไว้ที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) เพื่อขยายผลหาต้นตอตัวการผู้ทำการปลอมแปลงแถลงการณ์ต่อไป ขณะที่บรรดาแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ต่างพากันออกมาปฏิเสธความข้องเกี่ยวหรือสัมพันธ์กับ นายกฤษณ์ และยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวนั้น
“ตุ๊ดตู่”สั่งช่วยแดงหมิ่นสถาบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้ออกมากล่าวผ่านรายการมองไกล ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีซทีวี ว่า ได้เห็นใบหน้าของ นายกฤษณ์ จากภาพข่าวอย่างชัดเจนแล้ว จึงนึกได้ว่าเคยเจอหน้า นายกฤษณ์ ที่งานศพ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นคนเสื้อแดงจริง จึงมอบหมายให้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. ไปที่ ร.11รอ. เพื่อพบนายกฤษณ์และแจ้งว่า นปช.มอบหมายให้ทำหน้าที่ทนายความในการต่อสู้คดี
อ้างเป็นแค่เหยื่อโลกไซเบอร์
กรณีที่เกิดขึ้นกับ นายกฤษณ์ ถือว่าไม่แตกต่างจากการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวของเว็บไซด์ข่าวแห่งหนึ่ง เพราะไม่ได้เป็นผู้เขียนแถลงการณ์ปลอมขึ้นมาเอง มีเหยื่อในโลกไซเบอร์เกิดขึ้นมากมายในสถานการณ์นี้ เว็บไซต์ข่าวยังนำมาเผยแพร่ ประสาอะไรกับแมงเม่าทั้งหลายที่จะนำมาเผยแพร่ในช่องทางของตัวเอง แต่กลับมีการจับกุม นายกฤษณ์ จนดูเหมือนว่า นายกฤษณ์ เป็นผู้เผยแพร่แถลงการณ์เอง
โวยปลุกผังล้มเจ้าทำลายแดง
นายจตุพร กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และแม่ทัพนายกองทั้งหลายทำเหมือนจับอาชญากรคนสำคัญได้ ดูเหมือนสามารถผลักให้คนเสื้อแดงที่เคยเอาผังล้มเจ้ามาปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) กลับมาใช้อีกครั้ง ไม่ทราบว่า ระหว่างเว็บไซต์ดังกล่าวกับ นายกฤษณ์ ใช้กฎหมายคนละฉบับหรืออย่างไร เพราะ พล.ต.อ.สมยศ ไม่ลงไปสอบสวนเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งมีข้อแตกต่างกันนิดเดียวเพราะ นายกฤษณ์ เป็นคนเสื้อแดง นายกฤษณ์ เป็นคนเสื้อแดงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาเป็นเหยื่อ เรื่องนี้ไม่จบแน่ เราเป็นผู้ถูกกระทำ นายกฤษณ์รู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นเดียวกับคนในโลกไซเบอร์
ลั่นไม่ยอมถูกกระทืบฝ่ายเดียว
“อย่านำสถาบันมาใช้เพื่อประโยชน์ตัวเอง อย่าใช้สถาบันทำลายฝ่ายตรงข้าม เพราะเป็นการกระทำที่ไม่จงรักภักดียิ่งกว่า ผมประณามความรุนแรงมาตั้งแต่ต้น ไม่เคยเชื่อว่า สงครามจะชนะด้วยสงคราม ทุกอย่างต้องจบด้วยสันติภาพ ขอสื่อสารตรงไปตรงมาว่า ต้องการอะไร ปรองดองหรือไม่ ผมไม่เชื่อ หรือว่า จะต้องการสร้างความวุ่นวายหรือกดดันให้พวกเราออกไปต่อสู้ หรือจะล็อกคอพวกเรา ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น พวกเราเป็นลูกผู้ชายและใจนักเลงพอ นปช.ประกาศชัดเจนว่า จะแสดงความคิดเห็นในที่ตั้ง เราเป็นคนที่มีเกียรติยศ แต่การที่ปฏิบัติการ เพื่อต้องการเอาเรื่องกันให้ได้นั้น มนุษย์เราพอถึงเวลามันไม่ยอมให้ถูกกระทืบฝ่ายเดียว” ประธาน นปช. กล่าว
ชี้สร้างหายนะกับชาติรอบใหม่
นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการสร้างความหายนะกับชาติขึ้นมาอีกรอบ อยู่สงบกันไม่เป็นหรืออย่างไร ต้องลากพวกตนลากคนเสื้อแดงไปเป็นหมู่บ้านกระสุนตก กี่ปีมาแล้วที่ปฏิบัติการไอโอเช่นนี้และใช้งบประมาณไปเท่าไร เราได้เห็นวิชามารหลายคดีหวังผลทางการเมือง แล้วบอกจะทำให้เป็นประชาธิปไตยแบบสากล มีที่ไหนเขาทำกัน ทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้นพวกเราไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือพวกที่ทำ เราประกาศชัดเจนต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า ไม่มีใครอยู่ดีๆ ต้องการเอาหัวออกไปเสี่ยงสไนเปอร์หรือติดคุก ปรองดองบังหน้าอำมหิตตามหลัง อย่าผลักคนเสื้อแดงออกจากความเป็นพสกนิกรของพระเจ้าแผ่นดิน แม้เราไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่เราไม่เป็นปัญหา ต่างคนต่างอยู่ต่างทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้แกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายจตุพร, นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. รวมทั้ง นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในแกนนำฯ ได้ออกมาปฏิเสธตรงกันว่า นายกฤษณ์ โดยเฉพาะ นายจตุพร ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยรู้จักกับ นายกฤษณ์ มาก่อน กระทั่งถูกกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดียนำภาพ นายกฤษณ์ ที่ถ่ายไว้กับแกนนำระดับหัวแถวของกลุ่มเสื้อแดง รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาแฉ นายจตุพร จึงได้ออกมายอมรับว่า นายกฤษณ์ เป็นคนเสื้อแดง และเคยพบกันจริง
ทนายแดงวืดพบมือแพร่แถลงการณ์
เมื่อเวลา 13.00 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบนายทหารพระธรรมนูญ เพื่อติดตามคดีและขอพบนายกฤษณ์ ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ ร.11รอ. ว่า วันนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบนายกฤษณ์ โดยนายทหารพระธรรมนูญระบุว่านายกฤษณ์ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกไดั 7 วัน พร้อมย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก จึงถือเป็นกฎหมายหลักที่บังคับใช้ ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า แม้จะบังคับใช้กฎอัยการศึก แต่ผู้ต้องหาก็ต้องได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามรัฐธรรมนูญกำหนด
โฆษกนปช.เชื่ออาจโดนแกล้ง
นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. เห็นว่า กรณีนี้ควรต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ด้วยว่าเข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะเป็นการโพสต์จากการแชร์ต่อกันมา แต่กลับเลือกจับกุมตัวเฉพาะผู้ที่เป็นเครือข่ายประสานงานของ นปช. จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนอีกครั้งว่า มีเจตนากลั่นแกล้งทางการเมืองกับคนเสื้อแดงหรือไม่
คสช.แจงควบคุมตัว7วัน
ทางด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการควบคุมตัว นายกฤษณ์ว่า ขณะนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนการสอบสวนซักถาม ใช้เวลาไม่เกิน 7วัน เนื่องจากเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อจิตใจคนไทย ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังและใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ตัวผู้ที่กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ส่วนสถานที่ควบคุมนั้น ยังไม่มีข้อมูล ถือเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แต่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะมีการดูแลให้อย่างเหมาะสม อีกทั้งถ้ายังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ก็จะไม่มีการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุม ในลักษณะของผู้ทำความผิด ตามแนวทางปกติที่ผ่านมา
ตร.เผยเบาะแสใกล้ถึงต้นตอแล้ว
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัวคนทำแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ว่า จากการไล่ตรวจสอบเส้นทางที่มาของการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ได้เบาะแสใกล้ถึงตัวคนจัดทำแล้ว ซึ่งยังอยู่ในประเทศไทย โดยทำการพิมพ์แล้วสแกนเอกสาร ส่งต่อทางโซเชียลมีเดียทั้งไทยและต่างประเทศ คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆ นี้ ส่วนที่มีกระแสว่าแดงเทียมเป็นคนทำและเผยแพร่นั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะทำทุกอย่างตามขั้นตอนและตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ทั้งนี้ หากพบว่าบุคคลใดยังเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวอยู่หากตรวจสอบพบจะต้องถูกดำเนินคดี แต่ยอมรับว่า หลังจากที่รู้ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นของปลอมส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือและหยุดเผยแพร่ทันที
“ไพบูลย์”ยันดำเนินการยุติธรรม
ขณะเดียวกัน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า ในส่วนการดำเนินคดีนายกฤษณ์นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินการด้วยความยุติธรรม และไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากมีการเผยแพร่ได้ตรวจสอบพบไอพีแอดเดรสอยู่ที่คอมพิวเตอร์บ้านผู้ต้องหา เบื้องต้นทราบว่า เป็นแค่คนโพสต์หรือแชร์ต่อ ยังไม่ใช่คนที่ผลิตหรือทำเอกสารปลอม จึงต้องนำตัวมาสอบสวนหาความเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิดว่าได้ข้อมูลมาจากไหน เพื่อสืบสวนไปให้ถึงต้นตอที่ทำข้อมูลปลอมดังกล่าวออกมาเผยแพร่
เร่งให้ข้อมูลชาติที่มีแก๊งหมิ่นซุกหัว
พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยถึงการดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ขณะนี้คณะทำงานฯ กำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ข้อมูล รวมถึงเหตุผลในการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ให้กระทรวงการต่างประเทศทำข้อมูลชี้ไปแจงยังประเทศที่มีผู้ต้องหาคดี 112 พำนักอยู่ เพื่อให้ได้ทราบถึงความกังวล ความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด และเพื่อให้ทราบว่าคนในประเทศไทยรู้สึกอย่างไรในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ฝ่ายที่มีหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำความผิดต้องไปสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลนั้นว่าอยู่ประเทศใด โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจน พร้อมทั้งรายละเอียดเคลื่อนไหวผ่านระบบโซเชียลมีเดียว่ามีไอพีแอดเดรสอยู่ในประเทศนั้นๆ และช่วงเวลาใดบ้าง
มี40รายเคลื่อนไหวนอกประเทศ
“เบื้องต้นได้รับข้อมูลบุคคลที่ถูกออกหมายจับและเคลื่อนไหวในต่างประเทศจำนวน 40 คน หลังจากนี้คณะทำงานและกระทรวงการต่างประเทศต้องดำเนินการหาข้อมูลและชี้แจงไปประเทศที่กลุ่มผู้ต้องหาพำนักอยู่เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนความคาดหวังที่จะนำทั้ง 40 คนมาดำเนินการในเวลาอันใกล้นั้น คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องกฎหมายการแลกเปลี่ยน หรือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน ความแตกต่างในเรื่องกฎหมายของสองประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดหวังให้ประเทศเหล่านี้ตระหนักว่าต้องควบคุมคนเหล่านี้ไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ ได้อีก” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี