“บิ๊กตู่”ลั่นไม่ปรองดองใคร
ลุยโรดแมป
“วันชัย”ยันต้องเจรจา”แม้ว”
ชี้ประยุทธ์คือ”รัฏฐาธิปัตย์”
มีพลังที่สุดดึงทุกฝ่ายสงบศึก
ศาลฯให้ประกันตัว”กฤษณ์”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์อีกครั้งเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปฏิเสธข้อเสนอของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ที่ให้นายกฯพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความปรองดอง โดยนายกฯย้ำว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องทำตัวให้เหมาะสม ตนเป็นนายกฯมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ส่วนเรื่องปรองดองเป็นหน้าที่คนไทยทุกคน อย่านำมาโยงกัน ตนไม่เกี่ยวข้อง และจะไม่พูดเรื่องนี้อีก
ประกาศไม่ปรองดองกับใคร
“ผมไม่ได้ปรองดองกับใคร เพราะไม่เป็นศัตรูกับใคร ผมเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ผม เข้ามาควบคุมอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน แก้ปัญหาโดยใช้กลไกกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แล้วทำไมผมจึงต้องปรองดองกับใคร การปรองดองเป็นหน้าที่ของทุกคน คนไทยอยากจะขัดแย้งกันอีกหรือ ผมคิดว่าวันนี้บ้านเมืองสงบดี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ยังทำผิดกฎหมาย ขัดขวางหรือทำให้เกิดปัญหา ก็ควรไปถามคนเหล่านั้นว่าทำเพื่ออะไร ถ้าบอกว่าทำเพื่อประชาธิปไตย ถามว่าวันนี้ประชาธิปไตยที่ผ่านมาดีหรือไม่ ถ้าดีใครจะยุ่งเกี่ยว ที่เข้ามาเพราะยังมีปัญหาอยู่ ฉะนั้น อย่ากังวลและอย่านำไปโยงกัน”นายกฯระบุ
และย้ำว่า ใครอยากเสนออะไรได้แต่อย่าให้เกิดความขัดแย้ง วุ่นวายและลากตนไปเกี่ยวข้องด้วย อย่าไปให้เครดิตมากนัก ที่พูดมาตนรู้ว่าทุกคนเจตนาดี ไม่ได้จงเกลียดจงชังรัฐบาล แต่ทุกคนมุ่งแก้ปัญหาของตัวเองหรือภาพรวม โดยไม่นึกถึงกลไกของรัฐ กฎหมาย ซึ่งไม่ได้
ยันเดินหน้าตามแผนโรดแม็ป
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาต่างๆจะส่งผลให้โรดแม็ปที่วางไว้ต้องยืดออกไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า ใครจะทำให้ยืดก็ทำไป แต่ตนยังเดินตามโรดแม็พ และคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังต้องการให้ตนดูแลและช่วยแก้ปัญหา ตนไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยว แต่เมื่อสถานการณ์ไปไม่ได้ก็จำเป็นต้องมาแก้ไข เพราะเป็นห่วงประเทศชาติ ถ้าไม่เข้ามาคนอื่นก็ว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร เข้ามาแล้วยังมาต่อว่ากันอีก ถ้าทุกคนเข้าใจว่าการปรองดองต้องการความสงบสุข สันติ ก็อย่าไปขยายความ ขยายข่าว
ปัดไล่ล่า-ย้ำทุกคดีว่าตามกม.
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการใช้อำนาจขณะนี้ว่ ถ้าจะใช้จริงๆ ตนทำได้อยู่แล้วแต่ไม่อยากทำ ไม่อยากใช้กฎหมายพิเศษเข้าไปแก้ปัญหา เดี๋ยวจะหาว่าไปรังแกใครอีก วันนี้จึงต้องใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเดินหน้า ให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็นตามกระบวนการยุติธรรม แต่หากไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะพูดกันรู้เรื่องได้อย่างไร
ส่วนกรณีนายวรชัย เหมะ อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุสถานการณ์ขณะนี้เป็นการกดดันและไล่ล่าฝั่งตรงข้ามนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะไล่ล่าเรื่องอะไร คดีก็เป็นเรื่องของคดีไม่ใช่เป็นการไล่ล่า ถ้าบอกว่าเป็นการไล่ล่าแล้วทำผิดกฎหมายได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ อะไรที่ตัดสินเข้าข้างตัวเองแล้วบอกว่าดีเป็นธรรม แต่อะไรที่ตัดสินว่าผิดหรือแก้คดีก็หาว่าไม่เป็นธรรมไล่ล่า อย่างนี้ไม่ถูกต้อง สื่อมวลชนก็อย่าไปขยายความ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ผิดคือผิด อย่าลากมาพันกันทั้งหมด จะเดือดร้อนทั้งประเทศ แล้วใครจะรับผิดชอบ
คนทำปท.เสียหายรับผิดชอบ
“ขอประกาศไว้เลยว่าใครที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายเดือดร้อนจากนี้ไป ต้องรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยรับผิดชอบกันอยู่แล้ว ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมาย ตามระเบียบวินัย ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนทุกพวกทุกพรรค เจตนาดีหรือไม่ไปพิสูจน์กันในศาล ผมตัดสินให้ไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
คุยแม้ว-ปรองดองคนละเรื่อง
ขณะที่ท่าทีของภาคส่วนต่างๆต่อข้อเสนอของสปช.เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมปฎิเสธว่าไม่ทราบรายละเอียดที่พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมพูดคุย ซึ่งเป็นไปตามที่นายกฯระบุ พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับเข้ากระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มองว่าถ้าไม่คุยแล้วปรองดองกันไม่ได้นั้น นายกฯพูดแล้วว่าเรื่องคุยกับเรื่องปรองดองเป็นคนละเรื่อง ต้องแยกออกจากกันจะนำมารวมกันได้อย่างไร ซึ่งเราอยากให้ปรองดอง และต้องทำทุกอย่างให้เกิดความปรองดองในชาติ
ผบ.ทบ.เรียกแม้วกลับมาสู้คดี
ส่วนพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)กล่าวว่า นายกฯชี้แจงไปแล้วโดยย้ำให้ประชาชนและสื่อทราบว่า ทุกอย่างมีขั้นตอน กฏหมายก็มี ข้อคิดเห็นเสนอได้ แต่มีบางอย่างต้องเข้ากระบวนการก่อน จึงจะพูดคุยได้ ไม่เช่นนั้นจะพูดคุยกันอย่างไร
บอกกลุ่มต้านเข้าร่วมถกสปช.
พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า การดำเนินงานของรัฐบาลและ คสช.เป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้คือ ตั้งสปช.ขึ้นมา เพื่อปรับสิ่งที่ไม่เหมาะสมในสังคม ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น ใครต้องการแสดงความเห็นอะไร เสนอไปที่สปช.ได้พร้อมรับฟัง อย่าทำนอกกรอบ เพราะจะกลายเป็นการต่อต้าน ขอให้เดินตามกระบวนการ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ
“บิ๊กป็อก”ชี้รัฐบาลไม่มีคู่กรณี
เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยที่ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นคู่กรณีกับใคร รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อหยุดสถานการณ์ขัดแย้งให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ในส่วนความขัดแย้ง รัฐบาลก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ ขณะที่การบริหารราชการแผ่นดินก็เป็นไปตามแนวทางโรดแม็ปและการปฏิรูป
“ชายจืด”หนุนกก.ปรองดอง
สำหรับความเห็นต่อการสร้างความปรองดอง การนิรโทษกรรม รวมถึงกรณีนายกฯปฎิเสธ เจรจาพ.ต.ท.ทักษิณจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำคนเสื้อแดงนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการปรองดองมาแก้ปัญหาขัดแย้ง ส่วนจะใช้วิธีหรือรูปแบบใด คนมีอำนาจต้องช่วยกันคิด โดยยึดประโยชน์คนส่วนใหญ่ มีความจริงใจและตั้งใจปรองดองอย่างแท้จริง ด้วยการพูดคุยกับทุกฝ่าย ไม่จำเป็นต้องให้พล.อ.ประยุทธ์เริ่มคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ตนมองว่าถ้าเริ่มต้นพูดกันเพียงฝ่ายเดียว จะไม่สะเด็ดน้ำ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องอยู่ตรงกลาง ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมให้ตกผลึก ส่วนข้อเสนอเรื่องการนิรโทษกรรมนั้น เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้เกิดการปรองดอง ซึ่งทุกฝ่ายต้องทำใจและยอมรับเรื่องนี้ด้วย
จี้สนช.แก้กม.สร้างปรองดอง
นายอำนวย คลังผา อดีตส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เป็นเรื่องถูกต้อง สำหรับคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่สามารถพูดคุยกับคนมีคดีได้ เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ที่จะพิจารณาว่าจะออกกฎหมาย จะอภัยโทษ จะนิรโทษหรือปรองดองอย่างไร ตนพูดมาตลอดว่าไม่ควรไปยุ่งกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้ก็เหมือนติดคุกหลายปี เพราะต้องออกไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งที่ไม่มีเหตุผล
แนะปฎิรูปกระบวนการยธ.
นายอำนวยกล่าวว่า ในเมื่อเรากำลังร่างรัฐธรรมนูญ ต้องสร้างปรองดองควบคู่กันไป ทุกคนมีคดีอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถ้ายึดประเทศเป็นหลัก ก็ต้องคุยกันและยอมรับว่ากระบวนการยุติธรรมทำให้สังคมเบี่ยงเบนแตกแยก โดยเฉพาะองค์กรอิสระ ที่ทำคดีบางฝ่ายล่าช้า อีกฝ่ายเร่งรีบรวบรัด ขณะนี้ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้ทบทวนตัวเอง การปรองดองก็จะเกิดขึ้น
เหน็บใช้กม.เป็นธรรมปรองดองเกิด
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการเสนอตั้งคณะกรรมการปรองดองเป็นการยึดติดรูปแบบ ที่ผ่านมาตั้งมาหลายคณะในหลากหลายชื่อ แต่ไม่สำเร็จ วันนี้คิดว่าเขาไม่ได้ต้องการแก้ไขปัญหาประเทศด้วยวิธีการปรองดอง เห็นได้จากการดำเนินคดีกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและคดีต่างๆ ทำให้คิดได้ว่า ไม่ใช้วิธีปรองดองแก้ปัญหา แต่ใช้วิธีกดให้อยู่ใช้อำนาจให้อีกฝ่ายสงบ ถ้าจะปรองดองจริงๆไม่ต้องตั้งกรรมการ แค่ทำให้คนทั้งประเทศรู้สึกว่าใช้กฎหมายเป็นธรรม ความปรองดองก็เกิดขึ้นเอง ส่วนข้อเสนอให้นายกฯคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณถือว่าเจตนาดี แต่คุยหรือไม่ก็ได้ ขอให้ดำเนินการเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างก็จะสงบ
แม้วไม่รู้เรื่องข้อเสนอปรองดอง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมพูดคุยและมีการยื่นข้อเสนอปรองดองว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับบุคคลใกล้ชิดพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย และไม่รู้ว่ามีข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังใช้ชีวิตเงียบๆเรียบง่าย อย่างคนปกติทั่วไป
“วันชัย”ย้ำจุดยืนชงบิ๊กตู่คุยแม้ว
ทางด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้เสนอแนวทางปรองดองที่แนะให้นายกฯพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นความปรองดอง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงแนวทางปรองดองที่เสนอว่า ตนมีจุดยืนและแนวทางการทำงานเหมือนเดิม ไม่ได้ผิดคิวหรือกินยาผิดซอง แต่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจเห็นว่าการปรองดอง ไม่ได้แค่หยุดทะเลาะกัน การจะยุติความขัดแย้ง แตกแยกสร้างความปรองดองได้ ต้องเริ่มด้วยการพูดคุยเจรจา ทำความเข้าใจกับกลุ่มคู่ขัดแย้งตัวหลักตัวสำคัญ ที่มีพลังที่สุดในการเจรจาคือ ผู้ที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้ใหญ่ขณะนี้คือพล.อ.ประยุทธ์ เพราะพูดแล้วตัดสินใจได้ รวมถึงเจรจรกับแกนนำที่เป็นคู่ขัดแย้งทั้งหมดในประเทศ ทุกพรรคการเมือง ผู้นำทางการเมือง กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนจะคุยแบบไหนเป็นเรื่องของผู้นำ เป็นศิลปะที่จะพูดคุย
ฉะนั้น อย่าเพียงหยิบคำพูดบางวรรคตอนบางส่วนมาปะติดปะต่อหรือตัดแปะแล้วใส่สีตีไข่ ใส่ร้ายป้ายสีกัน ตนยืนยันยังเป็นวันชัยคนเดิม จุดยืนเหมือนเดิม
ให้ประกันมือแถลงการ์ปลอม
วันเดียวกัน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มเสื้อแดง ได้เดินทางไปยังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาท ขอประกันตัวชั่วคราว นายกฤษณา บุดดีจีน ผู้ต้องหาคดีเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม โดย นายวิญญัติ เปิดเผยว่า ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายกฤษณา ได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่อยู่ที่ศาลและไม่สามารถติดต่อพนักงานสอบสวนได้ นอกจากนี้พนักงานสอบสวนเคยแถลงไม่คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา จึงอนุญาตให้ประกันตัว
ตร.อ้อมแอ้มบึ้มพารากอนไม่คืบ
ส่วนความคืบหน้าการติดตามหาตัวมือวางระเบิดบริเวณห้างสรรพสินค้าพารากอน ซึ่งมีการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาตามภาพวงจรปิดไปนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าคนร้ายทั้ง 2 เป็นใคร และยังไม่ได้เบาะแสใดๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้นำลายนิ้วมือแฝงจากที่เกิดเหตุของคนร้ายไปเทียบเคียงกับแฟ้มประวัติอาชญากรรม ก็ยังไม่พบว่าตรงกับผู้ใด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก
พท.เย้ยทหารกลัวแอบอัดเสียง
ด้าน นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาเปิดเผยถึงกรณีถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติที่กองทัพภาคที่ 1 ว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีการข่มขู่ โดยฝ่ายทหารเน้นย้ำการเข้ามาทำหน้าที่ตามโรดแม็ป พร้อมขอความร่วมมือไม่ให้แสดงความเห็นเชิงปลุกปั่น อย่างไรก็ตามระหว่างพูดคุยค่อนข้างมีความเข้มงวด เพราะมีการตรวจค้นหลายครั้งไม่ให้นำเครื่องมือสื่อสารเข้าไป ไม่รู้ว่าเพราะกลัวถูกแอบบันทึกเสียงหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี