เคาะเลือกสว.ทางอ้อม
ให้อำนาจตรวจโผครม.
ถูกถอดถอนหมดสิทธิลงสส.
นายกฯแพ้ซักฟอกต้องยุบสภา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา จ.ชลบุรี มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นวันที่สาม มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯเป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาต่อเนื่องในหมวด 3 รัฐสภา ในส่วนที่ว่าด้วยที่มาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงว่า มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่นอกเขตเลือกตั้งหรือนอกราชอาณาจักร จะมีสิทธิก็ต่อเมื่อลงทะเบียนแสดงความจำนงว่า จะออกเสียงเลือกตั้ง ส่วนมาตรา 112 มีการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง มีการเพิ่มเติม คือ ต้องแสดงสำเนาแบบรายการภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี ให้ กกต. เว้นแต่เป็นผู้ไม่มีรายได้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชนว่ามีการจ่ายภาษี
ล็อกเป้าถูกสอยหมดสิทธิ์ลงสส.
ส่วนมาตรา113 ว่าด้วย บุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนใหญ่คงเดิมตามกฎหมายที่ผ่านมา มีเพิ่มเติมในข้อ 8 คือ เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำการทุจริตหรือทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตาม มาตรา 35 (4) ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2557 ส่วนข้อ 15 กำหนดว่า เคยถูกถอดถอนจากตำแหน่งถูกติดสิทธิทางการเมืองตามมาตรา 256 หรือมาตรา 257 ส่วนมาตรา 115 ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ จะได้รับเลือกเป็นส.ส. ต่อเมื่อได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่น้อยกว่าเสียงโหวตโน
นายกฯแพ้ซักฟอกต้อง”ยุบสภา”
สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นั้น ให้มีอำนาจกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อยุบสภา ภายใน 45 - 60 วันนับแต่ยุบสภา และมีอำนาจเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้หากมีเหตุใดๆทำให้การลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยใดไม่สามารถทำได้ในวันเดียวกัน ขณะที่มาตรา 118 วางแนวทางใหม่ในข้อ 6 ว่าด้วยการสิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. ที่กำหนดว่าหากนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีถูกลงมติไม่ไว้วางใจแล้ว สภาผู้แทนฯจะถูกยุบตามไปด้วยทั้งนี้เพื่อปกป้องฝ่ายบริหารที่คาดว่าจะเป็นรัฐบาลผสมโดยหวังจะให้ส.ส. ตรวจสอบนายกฯและฝ่ายบริหารด้วยการถอดถอนในแนวทางอื่นแทน
“ยิ่งลักษณ์”ต้องลุ้นแบนชั่วชีวิต
เมื่อถามว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกสนช. ถอดถอน จะเข้าตามมาตรา113 หรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า มาตรานี้ประยุกต์มาจากมาตรา102 (14)ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ระบุว่า หากเคยถูกวุฒิสภาถอดอถนจากตำแหน่งตาม มาตรา 274 ห้ามสมัครรับเลือกตั้งที่แม้จะเขียนไว้ให้ถูกตัดสิทธิ 5 ปีแต่พอพ้นโทษแล้วก็ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้อยู่ดี
“ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่า การถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรี ส.ส. และส.ว.ในระหว่างนี้จะเข้าข่ายตามมาตราดังกล่าวและสามารถเทียบเคียงกับรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระหว่างที่ไม่มีมีรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้ว ซึ่งในขณะนั้นก็ไม่มี ส.ว. แต่ สนช. ก็ถือว่าทำหน้าที่แทนส.ว. ด้วย จึงยังไม่แน่ใจ คาดว่า กมธ.ยกร่างฯ จะหาข้อยุติได้ในเร็ววันนี้” นายคำนูณ กล่าว
บ้านเลขที่111-109รอดกฏเหล็ก
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 ตนเข้าใจว่าไม่ใช่เป็นการต้องคำพิพากษาว่าทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตยุติธรรม เพียงแต่ต้องรับผลจากการถูกตัดสิทธิ 5 ปี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพบว่า นักการเมืองบ้านเลขที่111 และ 109 ไม่ได้เป็นตัวการกระทำการ ดังนั้นจึงไม่น่าเข้าข่ายตามมาตรานี้ แต่คนที่ไม่สามารถเล่นการเมืองได้คือคนที่ถูก”ใบแดง”จนเป็นเหตุให้เกิดการยุบพรรค
เคาะสว.มาจากเลือกตั้งทางอ้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นที่ประชุมกมธ. เริ่มพิจารณาในส่วนของส.ว. ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายบวรศักดิ์ ประธาน กมธ.ยกร่างฯแจ้งให้สมาชิก กมธ.ยกร่างฯ รับทราบว่าจำเป็นต้องพิจารณาหมวดส.ว.ให้จบทุกมาตราหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จจะไม่เลิกประชุม
กระทั่งเวลา 16.00 น.พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และนายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ที่ประชุมกมธ.วางหลักให้
วุฒิสภาเป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมเพราะการเลือกตั้งส.ว.ที่ผ่านมา มักจะได้สมาชิกฯ ที่มาจากฐานการเมืองเดียวกับ ส.ส. ดังนั้น ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงได้บัญญัติให้สว.ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนไม่เกิน 200 คน
อดีตนายกฯ-ปธ.รัฐสภา-ศาลฏีกา
สำหรับที่มาสว.จากการเลือกตั้งโดยทางอ้อมมาจากบุคคล 5 กลุ่มคือ 1) กลุ่มที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ซึ่งเลือกกันเองให้ได้ไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้สมัครแต่ละประเภทเลือกกันเองได้ไม่เกิน 3 คนและในส่วนที่ยังไม่ครบ 10 คนให้ผู้สมัครที่เหลือเลือกกันเองในแต่ละประเภทจนครบจำนวน 10 คน
เปิดโควต้าให้ปลัด-ผบ.เหล่าทัพ
2) กลุ่มผู้ซึ่งเคยเป็นข้าราชการฝ่ายพลเรือนซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าซึ่งเป็นตำแหน่ง บริหาร ข้าราชการฝ่ายทหารซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้บัญชาการ เหล่าทัพ พนักงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ซึ่ง ดำรงตำแหน่งหัวหน้าองค์กรดังกล่าว ซึ่งเลือกกันเองในแต่ละประเภท ประเภทละไม่เกิน 10 คน ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งรวมแล้วในกลุ่มนี้จะมีสมาชิกจำนวน 30 คน
กลุ่มวิชาชีพต่างๆเลือกกันเอง
3) ผู้แทนองค์กรวิชาชีพหรืออาชีพที่มีกฎหมายจัดตั้งซึ่งเลือกกันเอง จำนวนไม่เกิน 10 คน
4) กลุ่มผู้ซึ่งมาจากการเลือกกันเองขององค์กรด้านเกษตรกรรม ด้านแรงงาน ด้านวิชาการ ด้านชุมชน ด้านท้องถิ่น และองค์กรด้านต่าง ๆ จำนวนไม่เกิน 50 คน และ 5) กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ และคุณธรรมด้านการเมือง ความมั่นคง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การปกครองท้องถิ่น การศึกษา การเศรษฐกิจ การสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ผังเมือง ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคม ชาติพันธุ์ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม คุ้มครองผู้บริโภค ด้านเด็ก เยาวชน สตรี ด้านผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ และด้านอื่น ๆจำนวนไม่เกิน 100 คนโดยให้มีคณะกรรมการสรรหาบุคคลด้านต่าง ๆ ทำหน้าที่สรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกตั้ง ด้านต่าง ๆ เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนที่กำหนด เพื่อให้สมัชชาพลเมือง ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิก สภาท้องถิ่นทุกประเภทเลือกให้เหลือเท่าจำนวนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะมีการกำหนดต่อไป
ห้ามเป็นรมต.-รับตำแหน่งการเมือง
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้ มีการเพิ่มเติมคุณลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว.คือ ห้ามไม่ให้ ส.ว. เป็นรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น หรือผู้ดำรงตำแหน่ง ต่าง ๆ ในองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ในขณะเดียวกัน มิได้ อีกทั้งจะดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐภายในระยะเวลา 2 ปีก่อนวันที่เข้าดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา และภายหลังจากสมาชิกภาพของ ส.ว. สิ้นสุดลงมาแล้วยังไม่เกิน 2 ปีจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวมิได้
ตรวจโผครม.ก่อนทูลเกล้าฯแต่งตั้ง
นอกจากนั้นยังเพิ่มบทบัญญัติให้ในกรณีที่วุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้ความเห็นในการที่นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลให้ทรงแต่งตั้งรัฐมนตรีทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคลนั้น ให้วุฒิสภาดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลดังกล่าว โดยจะมีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในการเสนอนั้นมิได้แล้วแจ้ง
ให้นายกรัฐมนตรีทราบ และประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับรายชื่อจากนายกรัฐมนตรี
แต่งตั้งโยกย้ายปลัด-รสก.โดนด้วย
และให้ใช้บังคับกับการเสนอให้แต่งตั้งปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการที่ เทียบเท่าปลัดกระทรวง อธิบดี หรือผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของรัฐวิสาหกิจอีกด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ให้เป็นไปตามวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับในการประชุมวุฒิสภา
ตัดสื่อมวลชนให้ปลอดการเมือง
ด้านนายมานิจ แถลงว่า ตนเสนอให้ตัดคำว่า ‘สื่อมวลชน’ ออก เพราะต้องการให้สื่อมวลชนปลอดจากการเมือง เพราะการเข้าไปเป็น ส.ว.นั้น ทำให้สื่อมวลชนกลายเป็นคนมีฝักฝ่าย ไม่มีความเป็นอิสระในการแสดงความคิดเห็นและการทำหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี