‘บิ๊กตู่’ขวาง
ไม่ให้ตัดสิทธิ์แม่น้ำ5สาย
กมธ.ถกเครียด-สั่งแขวน
ปปช.รับชงขอต่ออายุจริง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภา ว่า มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)โดยมี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่1 เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุม ได้เชิญ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ มารายงานการคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญใช้เวลาไปแล้ว 57ครั้ง ซึ่งร่างแรกต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันที่ 17เมษายนนี้ จากนั้นภายในเดือนพฤษภาคม สปช.,คณะรัฐมนตรี (ครม.)และคสช.สามารถขอแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่ง กมธ.ยกร่างฯ จะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อพิจารณาเป็นร่างสุดท้าย แล้วเสนอต่อที่ประชุม สปช.อีกครั้งภายในวันที่ 23 กรกฎาคม เพื่อให้ สปช.ลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบภายในวันที่ 6สิงหาคม
ยึดเจตนารมณ์สำคัญ4ประการ
นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า การร่างรัฐธรรมนูญยึดเจตนารมณ์ 4ประการ คือ 1.สร้างพลเมืองเป็นใหญ่ 2.การเมืองใสสะอาดและสมดุล 3.หนุนสังคมคุณธรรมและ4.นำชาติสู่สันติสุข ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นั้น ไม่ต้องการให้ สว.เป็นกระจกส่อง สส.อีกแล้ว เพราะปี2549 สว.200คน มี 47คน เป็นเครือญาติสส.ซึ่งการเลือกตั้ง สว.ครั้งแรกไม่มีปัญหา เพราะพรรคการเมืองตั้งตัวไม่ได้ แต่พอตั้งตัวได้ก็แบ่งพื้นที่กันเรียบร้อย จึงต้องทำให้ สว.เป็นพหุนิยมของพลเมืองที่หลากหลายอาชีพ ทั้งผู้ใช้แรงงาน ปราชญ์ชาวบ้าน ทุกส่วนของสังคม เพื่อถ่วงดุลกับ สส.เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม ไม่ใช่ลากตั้ง คำว่าลากตั้งเป็นภาษาของสื่อบางฉบับที่ดูถูกการเลือกตั้ง
ได้รบ.ผสมเพื่อความปรองดอง
ในส่วนประเด็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ระบบบัญชีรายชื่อจะแบ่งเป็น 6ภาค ประชาชนจะมีสิทธิเลือกเบอร์ของคนที่ชอบภายในบัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่งจะต้องได้รับเลือกเสมอไป ระบบเลือกตั้งเดิมทำให้พรรคการเมืองใหญ่ได้คะแนนนิยมเกินกว่าที่ประชาชนให้จริง จึงต้องสร้างสมดุลในความนิยม โดยใช้ระบบสัดส่วนผสมกับเขต ซึ่งวัดคะแนนได้จากทั่วประเทศ การเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมทำให้เกิดรัฐบาลผสม ซึ่งเอื้อต่อการปรองดอง ทำให้เกิดการพูดคุยของพรรคการเมือง ไม่คิดว่าข้าใหญ่คนเดียว
‘กมธ.’ถกยกร่างบทเฉพาะกาล
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยมีวาระพิจารณาร่างบทบัญญัติบทเฉพาะกาล ซึ่งมีด้วยกันประมาณ 10มาตรา โดยมาตราที่สำคัญคือ มาตรา305 เป็นการนำบทบัญญัติมาตรา293 ของรัฐธรรมนูญปี2550 มาอ้างอิง คือกำหนดให้ สนช.ตามรัฐธรรมนูญ2557 ทำหน้าที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จนกว่าจะประชุมรัฐสภาครั้งแรก เท่ากับ สนช.ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ประมาณ 7เดือน หรือ 210วัน
ถกเครียดกมธ.ต้องเว้นวรรค
ส่วนมาตรา306 กำหนดให้ สปช.และกมธ.ยกร่างฯตามรัฐธรรมนูญ2557 สิ้นสุดลงก่อนวันเลือกตั้งเป็นการทั่วไปและภายหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ห้าม กมธ.ยกร่างฯดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 2ปีนั้น ที่ประชุมได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ให้ยืดอายุการทำงานของ กมธ.ยกร่างฯ ออกไปเป็น 7เดือนเท่ากับ สนช.เพื่อให้ กมธ.ยกร่างฯ สามารถทำงานควบคู่ไปกับ สนช.ในการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ตกลงกันไม่ได้แขวนทั้งยวง
นอกจากนี้มี กมธ.ยกร่างฯ สายนิติศาสตร์ ได้เสนอความเห็นต่อที่ประชุมถึงหลักการห้ามแม่น้ำทั้ง 5สาย คือ คสช.ครม.สปช.สนช.และกมธ.ยกร่างฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2ปีภายหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้เช่นกัน ปรากฎว่าสมาชิกบางส่วนเห็นว่า หลักการดังกล่าวอาจจะไม่เหมาะสมได้ สุดท้ายแล้วที่ประชุมจึงตัดสินใจให้แขวนมาตราดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อรอรวบรวมภารกิจอำนาจหน้าที่ของ สปช.และกมธ.ยกร่างฯว่า หลังจากดำเนินการยกร่างฯ เสร็จแล้ว มีภารกิจและอำนาจหน้าที่อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะการร่างกฎหมายฉบับต่าง ๆ
‘คำนูณ’รับยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ
ต่อมา เวลา 15.00น.นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯแถลงหลังประชุมว่า ที่ประชุมกำลังพิจารณาบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 10มาตราและจะทำให้รัฐธรรมนูญทั้งเล่มมีประมาณ 315มาตรา โดยมาตรา305 เป็นการรับรองการปฏิบัติหน้าที่ของ สนช.ซึ่งเนื้อหาคล้ายกับมาตรา293 ของรัฐธรรมนูญปี2550 ขณะที่มาตรา306 ที่ให้สปช.และกมธ.ยกร่างฯสิ้นสุดลงก่อนวันเลือกตั้งถัดไปครั้งแรกและห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2ปี นับแต่พ้นตำแหน่งนั้น ที่ประชุมจะพิจารณาในวันที่ 6มีนาคม
รธน.เสร็จต้องลต.ใน180วัน
“เมื่อร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ก็จะเร่งส่งร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ สนช.โดยสนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 60วัน นับจากวันที่รับร่างจากกมธ.ยกร่างฯ จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาภายใน 30วันว่า ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อรัฐธรรมนูญนี้มีผลบังคับใช้แล้ว จะต้องเลือกตั้งส.ส.ให้เสร็จภายใน 90วัน ซึ่งรวมแล้วจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 180วัน จึงจะมีสส.ชุดใหม่ ขณะที่สว.ชุดใหม่จะใช้เวลาประมาณ 240วัน อย่างไรก็ตาม หาก สนช.พิจารณาร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จไม่ทันกำหนดให้ถือเสมือนว่าสนช.ได้ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว” นายคำนูณ กล่าวและว่า
‘ถกลับ’ทุกปมร้อน6มีนาคม
วันที่ 6มีนาคมนี้ กมธ.ยกร่างฯ จะประชุมเป็นการภายใน ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าฟัง โดยจะพิจารณามาตราที่แขวนไว้ อาทิ มาตรา306 กำหนดให้ สปช.และกมธ.ยกร่างฯสิ้นสุดลงก่อนวันเลือกตั้งเป็นการทั่วไปและภายหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ห้าม กมธ.ยกร่างฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 2ปี ส่วนข้อเสนอของ นายเจษฏ์ โทณะวณิก กมธ.ยกร่างฯที่เสนอให้“แม่น้ำ5สาย” เว้นวรรคทางการเมือง 2ปีนั้น ก็จะหารือในที่ประชุมวันที่ 6มีนาคม
เทียนฉายชี้รธน.ห่วย-ตายดีกว่า
ด้าน นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวยืนยันว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่จะออกมาจะเป็นร่างที่ดีเหมาะสมกับประเทศไทยอย่างแน่นอน
‘สปช.คงไม่ปล่อยรัฐธรรมนูญที่มีตำหนิออกไป อย่าคาดหวังว่า เราต้องเห็นชอบเท่านั้น ผมไม่คิดว่า มีธงอยู่ ไม่จำเป็น ถ้าเราปล่อยรัฐธรรมนูญที่มีตำหนิออกไปแล้ว ประเทศมีปัญหา สู้ยอมฆ่าตัวตายดีกว่า’นายเทียนฉาย กล่าว
‘บิ๊กตู่’เมินเว้นวรรคแม่น้ำ5สาย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของ นายเจษฎ์ โทณะวณิก กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างบทเฉพาะกาล ที่จะให้แม่ทั้ง 5สาย (คสช.,ครม.,สปช.,สนช. และกรรมาธิการยกร่างฯ) เว้นวรรคการเมือง 2ปี ว่า ให้ไปดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวว่า เขียนไว้ว่าอย่างไร รัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุเฉพาะ กมธ.ยกร่างฯ ตนก็ยังยึดตามนั้น คนอื่นเอาอย่างไรก็ไปว่ามา เพราะตนเป็นคนผ่านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คนเหล่านี้มีความจำเป็นต้องเข้ามาทำงาน เขาไม่ได้ต้องการอะไร ถ้าให้เว้นวรรคกันหมด ก็ไม่มีใครทำงาน ดังนั้นให้ไปหามาตรการอื่นมา ควรไปดูว่าต่อไปจะทำอย่างไร ในส่วนของ สส.และสว.จะว่ากันอย่างไร ให้ไปดูเรื่องนั้นดีกว่า วันนี้อย่ามานั่งย้อนกลับไปกลับมา ทั้งหมดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทำงาน ดีหรือไม่ดีค่อยไปแก้กันวันข้างหน้า
ให้ยึดรธน.ชั่วคราว-ห้ามแค่กมธ.
เมื่อถามา แสดงว่านายกฯ จะยึดตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ประกาศไว้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ใช่ เราต้องยึดหลักตรงนั้นก่อน “ผมจะยึดเอาตรงนี้ ส่วนอื่นจะว่าอย่างไรก็ไปว่ามา เพราะเดี๋ยวก็จะต้องมีการหารือกันอยู่แล้ว ถ้าถามผมในนามของ คสช.ในนามของ ครม.ซึ่งผมเป็นหัวหน้าทั้งสองคณะ ผมให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนคนอื่นจะว่าอย่างไรก็ว่ามา”
ต่อข้อถามว่า ข้อเสนอนี้เป็นการกำจัดความหวาดระแวงเรื่องการสืบทอดอำนาจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จะมาหวาดระแวงอะไรกับผม ถ้าหวาดระแวงผม ผมไม่คืนอำนาจให้ก็จบแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เสนอต่ออายุตัวเอง 1ปีว่า ต้องนำไปพิจารณาในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เหมาะสมหรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ หากเริ่มมีการสรรหาในตอนนี้จะมีปัญหากับการทำงานหรือไม่ หรือถ้ารอแต่งตั้ง ปปช.เมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่จะได้หรือไม่
‘วิชา’งงข่าว’ปปช.’ขอต่ออายุ
ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการปปช.กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวที่ระบุว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานปปช.และกรรมกา รปปช. ได้แก่ นายวิชัย วิวิตเสวี นายประสาทพงษ์ศิวาภัย นายภักดี โพธิศิริและตน ที่จะพ้นวาระดำรงตำแหน่งในปี2558 ได้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับ คสช.ให้ต่ออายุการทำงาน โดยให้ดำรงตำแหน่งจนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญถาวรฉบับใหม่ว่า ขอยืนยันว่าคณะกรรมการปปช.ไม่เคยปรึกษาหารือ หรือมีมติในเรื่องดังกล่าว โดยกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเป็นการรายงานของสื่อมวลชนเอง ตนจึงสงสัยและอยากถามว่า ผู้ที่รายงานนั้นได้ข้อมูลมาจากที่ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังยืนยันว่าการดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช.จะเป็นไปตามกำหนดการพ้นวาระเดิมนายวิชา กล่าวว่า เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
‘วิชัย’รับชงจริง-หวั่นงานสะดุด
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ปปช.กล่าวยอมรับว่า มีการคุยเรื่องการต่ออายุดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ปปช.จริง เหตุผลที่ต้องต่ออายุเพราะหาก ปปช.ทั้ง 5คน หมดวาระไป จะเหลือกรรมการ 4คน หากจะทำคดีก็ไม่มีความต่อเนื่อง จะเกิดชะงัก ทำงานไม่ได้ เมื่อองค์ประกอบบางส่วนหายไปจะใช้เพียงองค์ประกอบที่มีอยู่หรือให้กรรมการชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ไปชั่วคราวไปก่อนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะกรรมการป.ป.ช.แต่ละคนไม่ได้แต่งตั้งตัวเองเราจึงพูดไม่ได้ ลักษณะมันเป็นเหมือนน้ำท่วมปาก ต้องให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเป็นคนพูด
ต้องใช้อำนาจพิเศษม.44แก้ไข
เมื่อถามว่า อำนาจตัดสินใจอยู่ที่ใคร นายวิชัย กล่าวว่า “อยู่ที่หัวหน้า คสช.และครม. ก็คงต้องใช้อำนาจพิเศษ คงไม่ใช่อำนาจในทางปกติ”เมื่อถามว่า อำนาจพิเศษคือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถใช้ตามมาตรา44 ได้ใช่หรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า”ในรายละเอียดนี้คงต้องไปถามประธานปปช.และนายวิชา มหาคุณ ซึ่งเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้อยู่”
ขณะที่ นายปานเทพ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า “คงต้องขอที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้”
‘วิษณุ’มึนยังหาทางออกไม่เจอ
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวว่า ตามหลักเมื่อพ้นไปต้องสรรหาเข้ามาแทน แต่การสรรหาทำได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ผู้สรรหาขาดองค์ประกอบ รวมทั้งยังไม่รู้หน้าตารัฐธรรมนูญใหม่จะเขียนเกี่ยวกับปปช.อย่างไร จะมีวาระดำรงตำแหน่งกี่ปี หากสรรหาเข้ามาตามกฎหมายต้องอยู่ 9ปี รัฐธรรมนูญใหม่จะให้อยู่ 9 ปีหรือไม่ ส่วนข่าวเรื่องต่อวาระตรงนี้ไม่ทันได้คิดว่าต้องทำอย่างนั้น ถ้าต่อจะต่อได้หรือไม่ ต่ออย่างไร ยังนึกไม่ออก จึงยังไม่มีคำตอบ
เผยต้องพ้นวาระปี58รวม5คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวกรณีคณะกรรมการป.ป.ช.ได้หารือเรื่องต่ออายุการดำรงตำแหน่งกับ คสช.เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากปี2558 กรรมการปปช.จะต้องพ้นวาระถึง 5คน ได้แก่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ปปช.ที่ต้องพ้นวาระเนื่องจากมีอายุครบ 70ปี ในเดือนพฤษภาคม ส่วน นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย วิวิตเสวี นายประสาท พงษ์ศิวาภัยและนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ปปช.ครบวาระดำรงตำแหน่ง 9ปี ในเดือนกันยายน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี