6 มี.ค.58 ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในส่วนของบทเฉพาะกาลและเรื่องที่ยังค้างพิจารณาว่า ทางคณะ กมธ.ยกร่างฯ ได้มีการบัญญัติให้มี "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปแห่งชาติ" โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศจะมีที่มาจาก สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตามรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 จำนวน 60 คน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 จำนวน 30 คน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการปฏิรูปด้านต่างๆ จำนวน 30 คน
ส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ ประกอบด้วย กรรมการซึ่งปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา และมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการปฏิรูปด้านต่างๆ ไม่เกิน 15 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามมติสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ ส่วนอำนาจหน้าที่อื่นที่จำเป็นให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
นายคำนูณ แถลงต่อว่า ทั้ง 2 องค์กรดังกล่าว มีอำนาจตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญคือ 1.ขับเคลื่อนการปฏิรูปโดยการเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปฏิรูปต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในด้านต่างๆ ส่วนการปฏิรูปด้านอื่นที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในหมวดนี้ให้กระทำได้ตามข้อเสนอของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
2.นำแผนและขั้นตอนการออกกฎหมายและการปฏิบัติเพื่อให้เกิดการปฏิรูปของ สปช.และแผนงานและยุทธศาสตร์การปฏิรูปของทุกภาคส่วน มาบูรณาการเพื่อให้ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมได้อย่างแท้จริงและต่อเนื่อง 3.ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปฏิรูป 4.เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของประชาชนเพื่อความเป็นพลเมืองที่ดี รวมทั้งสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางสังคมด้วยกระบวนการสมัชชาเพื่อการปฏิรูป 5.ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิรูปที่สอดคล้อง และเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และ 6.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ หากคณะรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการตามข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อรัฐสภา และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อทราบ ในกรณีที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเห็นว่าการปฏิรูปที่คณะรัฐมนตรี ไม่ดำเนินการนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ให้มีการออกเสียงประชามติว่า จะต้องดำเนินการตามเรื่องนั้นหรือไม่ ผลการออกเสียงประชามติว่าดังกล่าวให้มีผลผูกพันคณะรัฐมนตรี และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้ต้องปฏิบัติตาม
สำหรับการตรากฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ จัดทำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสนอต่อรัฐสภา โดยเสนอต่อวุฒิสภาก่อน หากไม่ผ่านความเป็นชอบให้ร่างดังกล่าวตกไป แต่ถ้าเห็นชอบให้เสนอร่างไปยังสภาผู้แทนราษฎร หากสภาไม่เห็นชอบให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กลับมายังวุฒิสภาเพื่อยืนยันด้วยคะแนนเสียงเกินกว่าสองในสามของสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของวุฒิสภา ในกรณีที่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินจะเสนอได้ก็ต่อเมื่อมีคำรับรองจากนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน หากเกินกำหนดเวลาดังกล่าวให้ถือว่านายกรัฐมนตรีให้คำรับรองแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการจัดให้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็น ให้ สปช.และคณะ กมธ.ยกร่างฯ สิ้นสุดลงในวันเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก หลังจากใช้รัฐธรรมนูญนี้ และเพื่อประโยชน์แห่งการขจัดได้เสีย ห้ามไม่ให้ กมธ.ยกร่างฯ ดำรงตำแหน่ง ส.ส. , ส.ว. , ข้าราชการการเมือง , ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น , เจ้าหน้าที่หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกำหนดที่มาของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศซึ่งส่วนใหญ่จะมาจาก สปช.และ สนช.นั้น จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะขณะนี้ทั้งบุคลากรในส่วนนี้ก็ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม กรณีตั้งเครือญาติมาทำงาน จะทำให้ไม่ได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน จนการทำงานไม่ราบรื่นหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า หลักการที่กำหนดให้ สปช.กับ สนช.เป็นสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพราะต้องการให้มีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะ สปช.ซึ่งเป็นผู้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูป จะมีความเข้าใจเป็นอย่างดี จึงไม่ถือว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ให้การปฏิรูปประเทศประสบความสำเร็จมากกว่า ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นศรัทธาเป็นความรู้สึกของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่ย่อมต้องคำนึงถึงคุณธรรมและจริยธรรมอยู่แล้ว แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นผู้คัดเลือกก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี