27 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่ตลาดฉัตรไชย หรือตลาด 7 โค้ง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่เทศบาล และ อ.หัวหิน รวมทั้งทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 เคลียร์พื้นที่และจัดระเบียบร้านค้าและเคลียร์ถนนหัวหิน 72 หรือซอยโต้รุ่งของตลาดหัวหิน โดยมีการนำแผงเหล็กมาตั้งเพื่อไม่ให้รถผ่านเข้าออก รวมทั้งขอความร่วมมือให้ร้านค้าที่เป็นรถเข็นขายอย่าเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว และเป็นไปได้ก็ให้หยุดค้าขาย 1 วัน ซึ่งบางร้านที่เป็นอาคาร เช่น ร้านขายยาก็ถือโอกาสปิดร้าน 1 วัน ซึ่งโดยปกติจะคราคร่ำไปด้วยยวดยานพาหนะของผู้ค้าและผู้มาจับจ่ายสินค้า จนทำให้บรรดาผู้ค้าขายบริเวณตลาด กล่าวหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า "ผักชีเต็มตลาดแล้ว และปกติจะขายสินค้าได้มากกว่านี้ น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ"
นอกจากนี้ ผู้ที่มาซื้อสินค้าบางราย ถึงกับออกปากบ่นว่า "น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะได้เห็นสภาพที่แท้จริง ไม่ใช่มาจัดฉากแบบนี้ แล้วจะเห็นของจริงได้อย่างไร"
ทั้งนี้ มีการเปิดเพลงกระจายเสียงให้ได้ยินไปทั่วบริเวณ เช่น เพลงคืนความสุขให้คนในชาติ , สามัคคีชุมนุม , เราสู้
ด้านการรักษาความปลอดภัย มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและแน่นหนา โดยมีการวางกำลังทหารและตำรวจตรวจตราบุคคลเข้าออก มีการใช้เครื่องตรวจหาโลหะสุ่มตรวจคนเข้าออก มีการห้ามจอดรถยนต์บริเวณโดยรอบตลาดและมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทุกทางเข้าออกของตลาด มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียงในการดูแลความปลอดภัยให้แก่นายกรัฐมนตรี และ ครม.จำนวนกว่า 2,000 นาย นอกจากนี้ ยังมีการระดมเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยต่างๆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเฝ้าระวังดูแลรักษาความปลอดภัยประมาณ 1,000 นาย นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ยืนประจำยังจุดสูงข่มบริเวณโดยรอบ รวมทั้งบางจุดมีการกั้นรั้วเหล็กไม่ให้รถผ่านเข้าออกได้ ขณะที่บรรยากาศการค้าขาย ส่วนใหญ่ยังเปิดร้านจำหน่ายตามปกติ ขณะที่บางร้านตัดสินใจปิดร้าน 1 วัน
จนเวลา 10.40 น.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางมาถึงตลาดฉัตรไชย โดยมีประชาชนที่ให้การสนับสนุนและผู้ค้ามาคอยต้อนรับและให้กำลังใจจำนวนมาก โดยมอบดอกไม้และตะโกนให้อยู่นานๆ บางร้านชูป้ายที่เขียนเองว่า "ลุงตู่อยู่ต่ออีก 10 ปี" โดยระหว่างการเดินตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีได้รับกำลังใจจากการมอบดอกไม้และถ่ายรูป ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้สนใจสอบถามราคาสินค้าชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ พืชผัก อาหารทะเล ไข่ไก่ โดยในช่วงหนึ่งของการตรวจเยี่ยมราคาสินค้า นายกรัฐมนตรีถามผู้ค้าผักว่า ช่วงนี้ราคาผักเป็นอย่างไร ราคาปรับสูงขึ้นหรือเปล่า และได้รับคำตอบว่า ราคาเป็นปกติ ไม่ได้ขยับสูงขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงขอร้องให้ช่วยๆ กันคงราคาไว้ ประชาชนจะได้ซื้อของไม่แพง รวมถึงราคาหมู ขอให้อยู่แค่ตรงนี้ อย่าปรับขึ้น ผู้ค้าก็ได้รับปาก นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่า สัญญาแล้วนะ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีจึงเชิญชวนให้ทุกคนซื้อผัก และได้เป็นผู้ไปยืนขายผักบุ้งเอง กำละ 5 บาท และมีประชาชนเข้ามาซื้อผักด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินตรวจแผงค้าต่างๆ และแม่ค้าขายข้าวเหนียวมะม่วงก็ได้ป้อนข้าวเหนียวมะม่วงให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า "ขนมที่นี่หวานนะ" จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แวะสอบถามราคาไข่ ที่แผงของ นางสาคร สินส่ง วัย 82 ปี แล้วได้สอบถามราคาว่าช่วงนี้ราคาไข่แพงหรือไม่ ซึ่งนางสาครได้ระบุว่า ไม่แพง ยังอยู่ในราคาปกติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ค้าช่วยกัน เพราะถ้าขายแพงคนซื้อก็จะซื้อน้อยลง จากนั้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบริเวณนั้นก็ได้ร้องเพลงคืนความสุข เพื่อเป็นกำลังให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ร้องตาม และนางสาครก็ได้ร้องเพลง "อยู่นานๆ ได้ไหม" นายกรัฐมนตรีก็ได้ยิ้มปลื้ม พร้อมกล่าวขอบคุณ ก่อนจะยกมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมบอกว่า ช่วยบอกนักข่าวหน่อย เพราะเขาถามทุกวันให้ผมไปเร็วๆ พร้อมหันมาบอกกับสื่อว่า "อย่าด่าผมนัก" จากนั้นก็ตรวจเยี่ยมแผงอาหารทะเล และทักทายผู้ค้า
อย่างไรก็ตาม ในการเยี่ยมชมตลาดครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า หากร้านค้าใดมอบสินค้าให้เป็นที่ระลึก หรือนายกรัฐมนตรีได้ชิมสินค้าต่างๆ ก็จะให้ผู้ติดตามยื่นซองเงินให้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "5 บาท 10 บาทก็กำไร ผมไม่กินของใครฟรี รับไปเถอะ" ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซองที่นายกรัฐมนตรีมอบให้นั้นมีจำนวนเงิน ซองละ 1,000 บาท
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมตลาด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ตลาดในครั้งนี้รู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าจะถามว่ามีความสุขหรือไม่ ก็มีคนมาแสดงความจริงใจให้กับตน แต่ความทุกข์ของตนก็มีคือ สัญญาที่ว่าไว้ที่จะทำให้แต่เวลามีจำกัด จะทำสำเร็จหรือไม่ แต่วันนี้ประชาชนก็มาให้กำลังใจกัน และต้องฝากไปยังพื้นที่อื่นด้วยว่า ไม่ได้ทำเฉพาะที่นีแต่จะทำทุกพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนการลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นแรงใจให้ตนในอนาคต และแรงตนยังมีมากไม่ต้องกลัว พร้อมจะสู้ต่อ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า ได้มีประชาชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆ หลายกลุ่ม อาทิ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ปัญหาหนี้สินนอกระบบ เตรียมเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยเจรจา และรับเรื่องราวร้องทุกข์ในเบื้องต้น เพื่อความเป็นระเบียบ โดยให้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมบริเวณชายหาด รวมถึงได้ขอความร่วมมือไม่ให้มีการแสดงออกสัญลักษณ์การต่อต้าน พล.ประยุทธ์ เช่น การชู 3 นิ้ว โดยหากจะชูสัญลักษณ์ขอให้ชูสัญลักษณ์ไอเลิฟยูแทน เนื่องจากถือเป็นการประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรก จึงอยากให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้แก่จังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี