28 มี.ค.58 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค Yingluck Shinawatra หลังถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่า ไม่ได้จัดการปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์
สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่ระบุว่า "รัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยทำ แต่วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ทุกอย่าง" ซึ่งเกรงว่า อาจจะเป็นความเข้าใจผิดอันเนื่องมาจากการที่ท่านมีภารกิจมากจนไม่ได้มีเวลาหรือเจ้าหน้าที่ยังไม่มีโอกาสเรียนชี้แจงให้ท่านทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้างทั้งในระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ และส่วนราชการที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ดิฉันขอเรียนชี้แจงท่าน พร้อมทั้งสื่อไปถึงส่วนราชการ องค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพี่น้องประชาชนไทยทุกท่านค่ะ
การค้ามนุษย์คือการคุกคามสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนซึ่งสังคมการเมืองระหว่างประเทศต่างต่อต้าน และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ทั้งมาตรการความร่วมมือ ตลอดจนมาตรการการกดดันที่ใช้เงื่อนไขทางการค้า ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่ดิฉันเข้ารับตำแหน่ง จึงได้พยายามผลักดันการแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด โดยได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการดำเนินงานให้การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ในปีการประเมินระดับของ พ.ศ. 2556 “ประเทศไทยได้รับการยกเว้นจากการถูกลดระดับเป็นกลุ่มที่ 3 เนื่องจากรัฐบาลได้เสนอแผนเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งหากได้รับการดำเนินการจะถือว่าเป็นการแสดงความพยายามอย่างมีนัยสำคัญที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ และรัฐบาลได้จัดสรรทรัพยากรพอควรในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว”
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในประเทศไทยอยู่ในระดับที่ดีขึ้น รัฐบาลได้มีการประชุมหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ดิฉันเป็นประธานในการประชุมเอง และส่วนที่มอบหมายให้คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น เป็นประธานแทน ตลอดจนตั้งคณะทำงานย่อยๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะด้าน เช่น ปัญหาเรื่องแรงงานประมง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อแนะนำจากรายงานฉบับปี พ.ศ. 2556 ทุกประเด็น
นอกจากนี้ ในการประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับเอกอัครราชทูต Luis CdeBaca ผู้อำนวยการสำนักงานติดตามและต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ หลังจากได้รับฟังผลการดำเนินงานของประเทศไทย เอกอัครราชทูต Luis CdeBaca ได้แสดงความชื่นชมถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้วย
ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง รัฐบาลได้เน้นสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และพยายามที่จะสร้างความเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา โดยมีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งมีข้อสั่งการ และนโยบายเพิ่มเติม โดยสิ่งที่รัฐบาลในช่วงนั้นได้ริเริ่มดำเนินการและพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ เช่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานทั้งด้านการคุ้มครอง ป้องกัน และกระบวนการยุติธรรม ดังที่รัฐบาลได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ทั่วประเทศเพื่อเป็นจุดรับเรื่อง ส่งต่อและแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวง รวมทั้งเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของรัฐบาลชุดก่อน ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะลองพิจารณาศึกษาเพิ่มเติมจากรายงานดังกล่าวได้ค่ะ
อย่างไรก็ดี ปัญหาสำคัญของการค้ามนุษย์นั้น อยู่ที่เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งปัญหาในเชิงกฎหมาย รวมทั้งประสิทธิภาพการบริหารราชการ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถแก้ไขได้เพียงชั่วข้ามคืน หากต้องใช้เวลา และความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งในรายงานฉบับล่าสุดได้มีการยกประเด็นเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นของข้าราชการ โดยเฉพาะความเกี่ยวพันกับกรณีแรงงานประมงชาวโรฮิงญา ซึ่งถือเป็นบทเรียนว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ตลอดจนประเด็นการเรียกร้องของ NGOs และต้องพยายามที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นในแนวทางที่ประชาชน และนานาชาติคาดหวังค่ะ
จุดเริ่มต้นสำคัญของการแก้ปัญหาคือ การยอมรับการมีอยู่ของปัญหา เพื่อที่จะร่วมมือช่วยกันแก้ปัญหาที่ท้าทายระดับนานาชาตินี้ต่อไปค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี