3 เม.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและการประกาศวาระแห่งชาติ เรื่อง “การป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์” ว่า วันนี้ประเทศชาติมีอันตรายหลายอย่างทั้งจากภายในประเทศและนอกประเทศ ขอให้มองในมิติทางด้านอื่นๆด้วย ไม่ใช่มองในแง่ของการควบคุมอำนาจอย่างเดียว ถ้ามันดีอยู่แล้วก็คงไม่ต้องทำ วันนี้ต้องสร้างความเข้าใจทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้ ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาผลการปฏิบัติอาจมีประสิทธิ์ภาพไม่เท่าที่ควร ไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ อาจส่งผลเสียกับประเทศในอนาคต ที่ตนเข้ามาวันนี้ก็เพื่อจะทำให้ดีกว่าเดิม โดยตนยอมรับความผิดพลาดทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ตนรับผิดชอบผู้เดียว และทุกคนต้องช่วยตนทำงานให้สมกับตนเสี่ยงอันตรายวันนี้ด้วย
นายกฯ กล่าวต่อว่า เราไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจ เราไม่สามารถจะกำหนดกติกาของตัวเองในขณะนี้ได้มากนัก เรื่องเกียรติภูมิ เรื่องภายในประเทศก็เป็นเรื่องของเรา แต่เรื่องของต่างชาติเราก็จำเป็นต้องยอมรับพันธะสัญญาต่างๆที่มีไว้ในทุกๆด้าน เราจำเป็นต้องยอมรับในความผิดพลาดที่ผ่านมา ถ้าใครยังไม่ยอมรับตนถือว่าไม่เข้าใจ เพราะถ้าดีอยู่แล้วคงไม่มีเรื่อง และทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น อย่างที่ทุกคนกล่าวอ้างว่ารัฐบาลเข้ามาเกือบปีหนึ่งแล้วแต่แก้ไม่ได้ ตนถามว่าปัญหาอยู่ที่ไหน เกิดเมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่แก้ ให้ไปถามตัวเองด้วย ไม่ใช่ข้อบกพร่องของตน หรือของใคร เป็นเรื่องของทุกรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญ
นายกฯ กล่าวว่า การประกาศวาระแห่งชาตินี้ ทุกคนต้องทำหน้าที่อย่างจริงจัง แก้ปัญหาให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย ใครที่ติดการเอารัดเอาเปรียบ ผลประโยชน์โดยมิชอบไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ภาครัฐมีส่วนเข้าไปพัวพันในขบวนการค้ามนุษย์หรือเพิกเฉย ไม่ทำหน้าที่ วันนี้ต้องทำพร้อมๆกันเพื่อไปสู่เป้าหมายตามที่เรากำหนด ต้องทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี ถ้าใครยังขัดขืน ไม่ปฏิบัติ ตนถือว่าท่านจะไม่มีที่ยืนบนสังคมอีกต่อไป ส่วนคนที่จับเด็กมาตัดแขนตัดขาเป็นขอทานนั้น ถือว่าไม่ใช่มนุษย์และไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ ต้องจับกุมมาดำเนินการให้ได้
“จากที่ผมดูการทำงานย้อนหลังเรื่องเหล่านี้ ทำไม่เพียงพอจริงๆ ฉะนั้นใครอย่ามาพูดอะไรที่ผมไม่อยากจะฟัง ว่าแก้แล้วดีแล้ว รัฐบาลนี้มาสร้างปัญหา แก้ปัญหาไม่ได้ อย่ามาพูดอย่างนี้กับผม เรายังไม่ทำเป็นระบบ ยังไม่มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ภาครัฐหลายคน เราต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการทำผิดกฎหมายเหล่านี้ทั้งสิ้น ผมถามว่าถ้าผมเป็นโจร หรือใครก็แล้วแต่ หากเจ้าหน้าที่ไม่ร่วมมือ มันเกิดไม่ได้หรอกทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ใช่โทษตำรวจอย่างเดียว ข้าราชการทุกหน่วยงานจะต้องรับผิดชอบ ประชาชนก็ต้องช่วยรับผิดชอบในการเฝ้าระวังตลอดเส้นทางทั้งหมดด้วย ไม่ใช่แสวงหาประโยชน์ร่วมกัน มันก็มีปัญหาตลอด การลงโทษประเด็นแรกที่เราห่วงใยคือ ลงโทษเจ้าหน้าที่เฉพาะทางวินัยเท่านั้น ไม่เพียงพอ ต้องมีการลงโทษตามกฎหมายคดีอาญาด้วย ไล่ออก ปลดออก ต้องมี ที่ผ่านมาไม่มี มีน้อย หรือมีแค่ระดับล่างๆ จะต้องหาหลักฐานให้เพียงพอมาดำเนินคดีอาญาให้ได้ หากทุกคนปล่อยให้ข้าราชกาผู้ปฏิบัติในพื้นที่ปล่อยปละละเลยใช้อำนาจในทางที่ผิด ทุจริต เอื้อประโยชน์ ประโยชน์ทับซ้อน และปัญหาผู้มีอิทธิพลในแวดวงต่างๆ ทำให้เกิดการเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยังเกิดขึ้นอยู่ ไม่มีทางหมดสิ้นไป รอเวลาเป็นไฟสุมขอน วันหน้าก็เกิดอีกถ้าไม่แก้วันนี้ จึงต้องใช้วิกฤตที่มีอยู่นี้ให้เป็นโอกาส มันมีความจำเป็น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีวิกฤติร่วมกัน แต่เวลาตนไปต่างประเทศเขาพูดถึงสิ่งที่ดีงามของเมืองไทยที่น่าอยู่น่าเที่ยว แต่ฟังแล้วอึดอัดเพราะรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว วันนี้เรายังมีเวลาขอให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่มาบ้านเราแล้วเขาถูกเอาเปรียบ เราต้องแก้ที่จุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด เช่น สถานบริการที่เปิดเกินเวลา จากนี้ไปต้องปิดตี2 ตนเชื่อมั่นในตำรวจ แต่ถ้ามีปัญหาก็ให้ปิดตั้งแต่เช้า และจะมาอ้างการท่องเที่ยวไม่ได้ รวมถึงต้องจัดระเบียบใหม่จะปล่อยให้ออกมาเรียกลูกค้าหน้าร้านไม่ได้ ซึ่งในต่างประเทศก็มีการจัดระเบียบกัน รวมถึงต้องกวดขันสื่อลามกด้วย นอกจากนี้ยังเห็นว่าวิธีการทำคดีความเกี่ยวกับค้ามนุษย์นั้นจะต้องทำให้รวดเร็วขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างชาติ รวมถึงการดูแลแรงงานไทยในต่างแดน แม้แต่ล่ามแปลก็อย่าปล่อยไปตามยถากรรม ซึ่งตนแม้พูดไม่เก่งแต่ก็พอฟังรู้เรื่องและสื่อสารกันได้ ยังดีกว่าบางคนไปประชุมกับต่างประเทศอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่รู้เรื่อง รัฐมนตรีนั่นแหละที่ฟังไม่รู้เรื่อง พอเขาถามก็ตอบไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าถามอะไร และล่ามก็หวังดีอาสาแปลให้โดยให้รัฐมนตรีท่านนั้นพูดไทยไปเรื่อยเปื่อย แล้วนำมาแปลตามสิ่งที่ควรจะเป็น พร้อมทั้งถามย้ำไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศว่าใช่หรือไม่
คาดโทษละเลยค้าประเวณีตลาดไท
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้น่าเป็นห่วงที่หลายคนคิดว่าการค้าประเวณีเป็นเรื่องธรรมชาติ ต้องไปดูปัญหาความเหลื่อมล้ำความยากจนที่เกิด เพราะบางคนเหลือแต่ตัวและชีวิต แล้วเราจะไปสูบเลือดสูบเนื้อเขาได้อย่างไร ขอฝากให้ดูปัญหาเหล่านี้ด้วย หลายคนบอกว่าส่วนใหญ่ที่ทำเป็นคนต่างจังหวัด ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาหาเงินแล้วกลับ เจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย แม้กระทั่งแถวตลาดไทและเขตปทุมธานีทั้งหมด ตนคาดโทษไปแล้ว ห้ามมีโสเภณี มีขอทาน ให้เวลาไม่เกินเดือนนี้ เพราะเป็นเรื่องเสียหาย ที่ตนพูดอย่างนี้ สั่งอย่างนี้ตนไปละเมิดสิทธิ์มนุษยชนใครที่ไหน ไปหามา นี่แหละการใช้อำนาจในทางที่ถูกต้องสร้างสรรค์
"บิ๊กตู่" ยัน รัฐบาลไม่มีเรียกผลประโยชน์-ขัดคอกันเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีผลประโยชน์ และตนเชื่อมั่นในรัฐมนตรีทุกคน พวกท่านไม่ต้องการอะไร และยืนยันว่าภายในรัฐบาลไม่การทะเลาะเบาะแว้งกัน จะทะเลาะได้อย่างไร พี่เขาเลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก วันนี้ปล่อยให้ตนพูด แต่ก่อนตนพูดได้ไหม และตอนนี้ทำงานไม่มีการแบ่งรุ่นเพราะมองแต่ผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการอ้างตามกระทรวงต่างๆว่าบริษัทนั้นเป็นของนายกฯ ยืนยันว่าตนไม่รู้จักใครสักคนจะไปอ้างแบบนี้ไม่ได้ และวันนี้สิ่งที่เราทำคือต้องหารายได้ให้ประเทศก่อน วันนี้มีคนกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ไม่มีเงินแล้วจึงต้องมาเก็บภาษีรีดเลือดกับปู แต่รัฐบาลนี้ไม่มีปู จะปูไหนก็ไม่รู้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี