เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกมีเนื้อหาสาระครบถ้วนทั้ง 315 มาตรา แต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะต้องรอให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจถ้อยคำในการอ้างอิงเลขมาตรา ซึ่งจะมีความพร้อมสมบูรณ์วันที่ 17 เมษายน ทั้งนี้ จะมีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกต่อสื่อมวลชนและประชาชนในวันที่ 27 เมษายน
ย้ำรธน.ใหม่คืนอำนาจปชช.
“อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าสิ่งที่ประชาชนจะได้จากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ เจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย สร้างพลเมืองให้เป็นใหญ่ ทำการเมืองให้ใสสะอาดและสมบูรณ์ หนุนสังคมเป็นธรรม นำชาติสู่สันติสุข” นายบวรศักดิ์ และว่า สำหรับระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวลกับวิธีการลงคะแนนเลือกตั้ง เพราะยังเหมือนเดิม ต่างกันตรงที่ประชาชนสามารถเลือกผู้สมัครจากบัญชีรายชื่อได้ด้วยตนเอง ถือเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน ส่วนการคำนวณคะแนนผลการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
ปัดแม่น้ำ5สายอยู่เกินโรดแมพ
นายบวรศักดิ์ยังชี้แจงเหตุผลที่กำหนดให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)และกมธ.ยกร่างฯทำหน้าที่ไปจนถึงวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เพราะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะทำหน้าไปจนถึงวันนั้น เป็นการสืบทอดงานให้ต่อเนื่อง ส่วนที่พูดกันว่าองค์กรตามแม่น้ำ 5 สายจะอยู่เกินโรดแมพที่กำหนดไว้นั้น ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมพ
ยันโอเพ่นลิสต์ดีเพิ่มทางเลือกปชช.
ด้านพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯกล่าวถึงระบบการเลือกตั้งส.ส.ระบบโอเพ่นลิสต์ว่า เป็นรูปแบบที่ดีสร้างสมดุลให้การเมือง สะท้อนคะแนนที่ประชาชนเลือกพรรคการเมืองได้อย่างแท้จริง ส่วนที่นักการเมืองพรรคต่างๆออกมาวิจารณ์การเลือกตั้งในระบบดังกล่าวนั้น เพราะเสียประโยชน์ ต้องแข่งขันกันหนักขึ้น ต้องลงพื้นที่หาเสียงและแข่งขันทำผลงานกันเองภายในพรรคด้วย แต่ประชาชนได้ประโยชน์มากที่นักการเมืองจะแข่งขันพยายามทำผลงานโชว์ ทำให้มีตัวเลือกดีๆมากขึ้น
สนช.จ่อส่งความเห็นรธน.กลางพค.
ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีกมธ.ยกร่างฯเตรีมเสนอรัฐธรรมนูญร่างแรกให้สปช.วันที่ 17 เมษายนว่า เป็นไปตามกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งสปช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 26 เมษายน จากนั้นอีก 30 วัน จะเปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และสนช.ร่วมเสนอความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญไปยังกมธ.ยกร่างฯ ซึ่งในส่วนสนช.มีคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ที่ตนเป็นประธานทำหน้าที่รวบรวมความเห็นจากสมาชิกสนช.และรับฟังความเห็นจากประชาชน ซึ่งจะรวบรวมความเห็นเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญครั้งสุดท้ายเสร็จไม่เกินกลางเดือนพฤษภาคม ก่อนส่งให้กมธ.ยกร่างฯต่อไป
ยังติดใจวิธีการที่มาส.ว.
นายสุรชัยเปิดเผยว่า ในส่วนที่สนช.ไปรวบรวมความเห็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ พบสมาชิกมีความเห็นที่หลากหลาย หลายประเด็นเห็นแตกต่างจากเนื้อหาร่างแรกของกมธ.ยกร่างฯ อาทิ ที่มาส.ว. แม้ร่างล่าสุดจะปรับแก้เนื้อหาให้มีส.ว.เลือกตั้งระดับจังหวัดแล้ว แต่สนช.บางส่วนยังติดใจเรื่องวิธีการได้มาซึ่งส.ว. ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้น ต้องรอดูท่าทีของกมธ.ยกร่างฯ ซึ่งในการเสนอความเห็นครั้งสุดท้ายต่อกมธ.ยกร่างฯ สนช.จะเสนอความเห็นแนบท้ายไปด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินไปตามโรดแมพที่คสช.วางไว้ทุกอย่าง
เตรียมรวบรวมความเห็น
ด้านนายธานี อ่อนละเอียด สนช.ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเปิดเผยความคืบหน้าการรวบรวมความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญว่า อยู่ระหว่างรวบรวมความเห็นของสนช.และจากภายนอก คาดว่าจะส่งให้กมธ.ยกร่างฯได้เร็วๆนี้ ซึ่งเท่าที่รับฟังเสียงสนช.ส่วนใหญ่พบว่า ในเรื่องที่มาส.ว.สมาชิก สนช.ยังเห็นต่างกับวิธีการเลือกส.ว.จังหวัดและส.ว.สรรหาตามที่กมธ.ยกร่างฯเสนอมา
ชงสูตรเลือกตั้ง-สรรหาสว.
ทั้งนี้ ส่วนตัวเสนอให้ประยุกต์รูปแบบส.ว.สรรหาและเลือกตั้งมาผสมกัน โดยให้มีส.ว. 150 คน แบ่งกลุ่มส.ว.เป็น 5 กลุ่มๆละ 30 คนคือ กลุ่มวิชาชีพ วิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอื่นๆให้ผู้สนใจมาสมัครเป็นส.ว.ในแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกตั้ง ใครได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 1-30 ของแต่ละกลุ่มก็ได้เป็นส.ว.เป็นวิธีการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง และยังได้ส.ว.จากทุกกลุ่มอาชีพ ที่สำคัญไม่ได้ยึดโยงกับกลุ่มการเมือง เพราะใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง
หนุนนายกฯคนนอก-ทำประชามติ
ส่วนเรื่องที่มานายกฯนั้น นายธานีเผยว่า สนช.ส่วนใหญ่ไม่ขัดข้องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ในภาวะวิกฤต แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนจริงๆว่า ภาวะใดที่เรียกว่า ภาวะไม่ปกติ เช่นเดียวกับ เรื่องทำประชามติ ที่สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่เห็นควรให้ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อความชอบธรรม
อัดกมธ.ยกร่างฯไม่เชื่อใจผู้แทน-ปชช.
มีความเห็นจากหลายฝ่ายต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของกมธ.ยกร่างฯ โดยนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีตส.ว.อุทัยธานีเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญนี้มีแนวความคิดไม่เชื่อใจนักการเมืองและประชาชน ดูได้จากการออกแบบจะเห็นกลุ่มคนที่มีอำนาจไม่ได้มาจากการเลือกโดยตรงของประชาชน เช่น ส.ว.ที่ไม่มีการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง หรือระบบเลือกตั้งส.ส.ที่พยายามทำให้กระบวนการซับซ้อนมากขึ้น กมธ.ยกร่างฯคิดว่าประเทศชาติต้องการคนดีคนเก่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ใครคือคนดีคนเก่ง จะใช้สิ่งใดวัด แนวคิดนี้ก็เป็นแค่เชิงตรรกะไม่สามารถจับต้องได้ มีแต่จะทำให้บรรดานักการเมืองเอาสิ่งเหล่านี้มาโจมตีได้
“อุเทน”ฟันธงร่างรธน.ไปไม่รอด
ด้านนายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทยกล่าวถึงกรณีกมธ.ยกร่างฯจะส่งร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกให้สปช. และจะอภิปรายแสดงความคิดเห็นระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนว่า หลังติดตามเนื้อหาบางส่วนของร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก เชื่อว่ามีหลายประเด็นไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม หลายส่วนทำให้เกิดความเคลือบแคลงวัตถุประสงค์ของกมธ.ยกร่างฯ โดยเฉพาะประเด็นการเข้าสู่อำนาจ หรือที่มานายกรัฐมนตรีและผู้แทนราษฎร ทั้งในส่วนส.ส.และส.ว. รวมไปถึงการมีคณะกรรมการต่างๆที่ตั้งซ้ำซ้อนขึ้นมาโดยไม่จำเป็น สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า กมธ.ยกร่างฯไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริงของบ้านเมือง และไม่ได้ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อตอบโจทย์ของประเทศ มุ่งร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามหลักคิดหรือทฤษฎีที่ตนเชื่อ โดยไปลอกรัฐธรรมนูญของต่างประเทศมาเท่านั้น
“ผมขอปรามาสรัฐธรรมนูญที่ร่างส่งมานี้ ไม่น่าจะผ่าน และสปช.ชุดนี้จะถูกยุบไปในที่สุด ซึ่งต้องแต่งตั้งสปช.และ กมธ.ยกร่างฯชุดใหม่มาร่างแทน แต่วันนี้ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง ดีกว่าเดินต่อไปจนหาทางกลับไม่เจอ”นายอุเทน กล่าว และว่า ในโอกาสที่การทำหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะครบ 1 ปีเดือนพฤษภาคมนี้ ตนอยากถามไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่า จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ว่าถึงวันนี้ในมุมมองคสช. ความแตกแยกหมดไปแล้วหรือไม่ มีความปรองดองเกิดขึ้นจริงแล้วหรือ
ติงทีมงานหน้าเก่าพาปท.ถอยหลัง
นายอุเทนยังแสดงความเป็นห่วงตัวบุคลากรที่คสช.นำมาช่วยทำงาน อาจสร้างปัญหามากกว่าช่วย เพราะส่วนใหญ่เป็นคนเก่าหน้าเดิม ที่มีส่วนสร้างวิกฤติชาติในอดีต บางคนร่วมร่าง
รัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 ที่หลายภาคส่วนมองว่าเป็นต้นตอปัญหา มาวันนี้คนเหล่านั้นก็กลับมามีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.หรือไม่ก็เป็นที่ปรึกษาเรื่องการปฏิรูป เท่าที่ตนติดตามการทำงานมามั่นใจว่า คนเหล่านี้จะพาประเทศเข้าสู่วังวนเก่าๆ มุ่งสู่ทางตันเหมือนเดิม จึงอยากให้นายกฯใช้ช่วงวันหยุดรับฟังหรือทบทวนสิ่งที่ทำไปทั้งหมด ไม่สายที่จะใช้คนใหม่บ้าง
พท.จี้เปิดร่างก่อนสปช.ถก20-26เม.ย.
ขณะที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สปช. จะอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญที่กมธ.ยกร่างฯร่างเสร็จวันที่ 20-26 เมษายนว่า อยากให้ กมธ.ยกร่างเปิดเผย ร่างรธน.ร่างแรกที่ สปช.จะอภิปรายต่อสาธารณชนให้ได้รับรู้ข้อมูลก่อนว่าเป็นอย่างไรจะได้ทราบถึงเหตุผลในการร่างแต่ละมาตรา จะได้มีส่วนร่วมรับฟังการอภิปรายมากกว่าที่เป็นอยู่ที่ผ่านมา มีเพียงการหยิบยกบางประเด็นออกมาให้สังคมพิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่รู้ว่าร่างทั้งหมดเป็นอย่างไรและการที่ผู้ร่างและผู้อภิปรายไม่ได้มาจากประชาชนทำให้ไม่มีโอกาสชี้แจงเรื่องที่ทำอยู่ต่อประชาชนโดยตรง ส่วนที่ผู้ที่มีอำนาจออกมาพูดว่าอย่างเพิ่งวิจารณ์ร่างรธน. เพราะร่างยังไม่ถึงที่สุด ก็จำเป็นที่จะต้องเอาร่างออกมาให้ประชาชนได้เห็นก่อนการอภิปรายของสปช.และทุกคนที่ออกมาพูดนั้นก็แสดงความคิดเห็นของตัวเองเกี่ยวกับเนื้อหาที่มีการเปิดเผยออกมาว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรไม่ได้ออกมาต่อต้านแต่อย่างใด.
เติ้งแนะทุกฝ่ายนิ่งเชื่อไม่ช้ามีเลือกตั้ง
วันเดียวกัน ที่บึงฉวาก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี มีการจัดงานรดน้ำดำหัวนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งบรรยากาศเป็นแบบอย่างเรียบง่ายมีข้าราชการและนักการเมือง มาร่วมงานเนืองแน่น นายบรรหารกล่าวกับผู้มาร่วมอวยพรว่า ปีนี้เป็นประวัติศาสตร์ทางการเมือง เนื่องจากสภาผู้แทนราษฏรถูกยุบ ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องนิ่งเฉยก่อน แล้วกลับมาสู้กันใหม่ในสนามเลือกตั้ง หากเคลื่อนไหวมากขณะนี้จะถูกคสช.เรียกรายงานตัว ทั้งนี้ ขอให้ข้าราชการช่วยส่งเสริมการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ เชื่อว่าในไม่ช้าจะมีการเลือกตั้งใหม่
หนุนรบ.ใช้อำนาจแก้ปัญหาปท.
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเผยผลสำรวจความคิดเห็นตัวแทนครอบครัวไทยต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องในวันครอบครัวไทย 14 เมษายนเห็นว่า อันดับ 1 มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารประเทศ แก้ปัญหารวดเร็ว อันดับ 2 ดูแลบ้านเมืองให้สงบ อันดับ 3 เน้นปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น และจัดระเบียบสังคม อันดับ 4 เป็นผู้นำตรงไปตรงมา ตั้งใจทำงาน
โดยสิ่งที่ครอบครัวไทยชื่นชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด อันดับ 1 มีกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชน อันดับ 2 การดำเนินการเด็ดขาดกับผู้กระทำผิดทุจริตคอรัปชั่น อันดับ 3 พยายามสร้างความปรองดอง อันดับ 4 การจัดระเบียบสังคม สำหรับสิ่งที่ครอบครัวไทยคาดหวังต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้แก่ พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง มีเสถียรภาพ ประชาชนกินดีอยู่ดี ปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น เร่งสร้างประชาธิปไตยและการเมืองที่ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี