20 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญที่ทางคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ส่งมอบมายังสภาปฏิรูปแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ในวันแรก (20 เม.ย.) นั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีสมาชิกจำนวนเกือบ 50 คน อภิปรายในบททั่วไปและภาค 1 พระมหากษัตริย์และประชาชน อาทิ นายอลงกรณ์ พลบุตร สปช.ด้านพลังงาน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล สปช.ด้านพลังงาน นายสยุมพร ลิ่มไทย สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่น นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ สปช.ด้านสื่อสารมวลชน นายนิมิต สิทธิไตรย์ สปช.อุบลราชธานี และนายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ สมาชิก สปช.
ทั้งนี้เนื้อหาการอภิปรายสรุปได้ว่า สมาชิก สปช.ได้เรียกร้องให้ กมธ.ยกร่างพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับมาตรา 64 ว่าด้วยการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยบุคคลซึ่งมิได้มีส่วนได้เสีย (EIA,HIA) ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจและโครงการใหญ่ และควรมีการกำหนดให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้จัดการทำอีไอเอสและเอชไอเอ นอกจากนี้ยังเห็นว่าในประเด็นสิทธิพลเมืองหลายข้อ ไม่สามารถนำไปบังคับให้เกิดผลทางปฏิบัติได้ จึงฝากให้ กมธ.เขียนรัฐธรรมนูญที่ต้องมีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง
ส่วนประเด็นที่กำหนดให้สมัชชาพลเมืองมีหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรบริหารท้องถิ่น สมาชิก สปช.เห็นว่า เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันกับสภาตรวจสอบภาคพลเมืองระดับจังหวัด และอาจเป็นศูนย์รวมของบรรดานักการเมืองที่สอบตก เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายที่ชนะการเลือกตั้ง จึงเสนอให้มีสภาพลเมืองเพียงสภาเดียวในการตรวจสอบระดับจังหวัด นอกจากนี้ สมาชิก สปช. ยังมีความเป็นกังวลถึงการบัญญัติหน้าที่และเงื่อนไขในการใช้อำนาจในรัฐธรรมนูญของสมัชชาพลเมือง ซึ่งอาจไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง จึงเสนอให้บัญญัติว่ามีอำนาจตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมี สปช. บางส่วนมีความเห็นว่าบางมาตราของรัฐธรรมนูญยังไม่สะท้อนสังคม และยังมีการใช้คำฟุ่มเฟือยแต่ความหมายไม่ครอบคลุม และสิทธิประโยชน์ก็ยังไม่ครอบคลุม จึงเสนอให้ กมธ.ยกร่างฯ นำ มาตรา 46 วรรคสาม , มาตรา 59 และ มาตรา 61 มาเขียนไว้ใน มาตรา 59 ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิพลเมือง ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนอีแอบย้อนยุค เพราะในมาตรา 46 เป็นเรื่องครอบครัว แต่กลับเอาเรื่องคนพิการ ที่ในรัฐธรรมนูญปี 40 อยู่ในมาตรา 55 และปี 50 อยู่ในมาตรา 54 มาเขียนย้อนยุค ใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้
นอกจากนี้ยังมี สมาชิก สปช.เสนอให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องทำประชามติ เพื่อให้เกิดการยอมรับและได้รับการปกป้องจากประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 น. จนถึงช่วงหัวค่ำ มีสมาชิก สปช.ลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวาง และเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มี สมาชิก สปช.คนใด ยกมือประท้วง หรืออภิปรายเสียดสี โดยส่วนใหญ่จะอภิปรายสนับสนุนเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ มีเพียงการเสริมเพิ่มบางประเด็น อาทิ เรื่อง สิทธิ และเสรีภาพสื่อมวลชน ที่นอกจากการตรวจสอบกันเองของสื่อมวลชนแล้ว ยังต้องการให้ภาคประชาชน มีส่วนร่วมตรวจสอบด้วย , เรื่องสิทธิพลเมือง ในการตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ ทั้งกลไกจากสมัชชาคุณธรรมในระดับชาติ และสภาพลเมืองในระดับท้องถิ่น ส่วนเรื่อง การเข้าถึงบริการสาธารณะ อยากให้มีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ หลังจากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ไปแล้ว 1 ปี
ต่อมา นายเทียนฉาย เกียรนันท์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีคำสั่งปิดการประชุมในเวลาประมาณ 21.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี