เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการสลาก ในวันที่ 24 เมษายนนี้ จะเสนอให้พิจารณาถึงแนวทางการใช้อำนาจมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาสลาก ขายเกินราคา เพราะถ้าจะไปรอการแก้ไข พ.ร.บ.สลาก พ.ศ.2517 อยู่ระหว่างการตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ต้องใช้เวลานานอาจทำให้ไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ช่วยเร่งรัดขั้นตอนการแก้ไขปัญหาสลาก ขายเกินราคาได้รวดเร็ว ซึ่งจะสอดคล้องกับการต่ออายุสลาก ให้กับผู้ค้าสลาก รายเดิมกว่า 48 ล้านฉบับ ที่จะช่วยให้สำนักงานสลาก สามารถกำหนดให้ผู้ค้าขายสลาก ได้ในราคา 80 บาท ตั้บแต่เดือนมิ.ย.ไปต้น
มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ประเด็นที่จะนำมาใช้แก้ไขปัญหาสลากแพงก่อนแก้ไขพรบ.สลากแล้วเสร็จ ได้แก่ การประกาศขึ้นทะเบียนผู้ค้ารายเดิม ที่ได้ต่อสัญญาเป็นผู้แทนจำหน่ายกว่า 48 ล้านฉบับ ที่กำหนดให้ผู้ค้าสลาก รายย่อย คนพิการ สมาคม มูลนิธิ ต้องเป็นผู้จำหน่ายสลาก ด้วยตนเอง และต้องมีบัตรประจำตัวของผู้ค้า รวมถึงการทำสัญญาสัญญา จะเพิ่มเติมถึงข้อห้ามต่าง ๆ โดยเฉพาะการห้ามไม่ให้ผู้ค้าสลาก ที่ได้รับโควตาไป นำสลากไปรวมชุดโดยเด็ดขาด หากกระทำผิดเงื่อนไข จะถูกตัดสิทธิ์ในการรับสลากฯ ไปจำหน่ายทันที
ขณะเดียวกัน จะมีการปรับสัดส่วนการจัดสรรที่ได้รับจากการจำหน่ายสลาก ที่ลดเงินนำส่งรายได้เข้าแผ่นดินเป็น 20% จากเดิม 28% และนำมาเพิ่มสัดส่วนในค่าใช้จ่ายและบริหารงานเป็น 15% จากเดิม 12% ซึ่งที่จะช่วยให้ผู้ค้าสลาก รายย่อย คนพิการ สมาคม มูลนิธิ ที่ได้รับโควตาไปจำหน่ายได้รับส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น และเงินสมทบเป็นกองทุนบริหารจัดการสลากฯ 5% จะช่วยให้ผู้ค้าสลาก ไม่ต้องแบกรับต้นทุนจากเลขสลาก ที่ไม่สวยอีกด้วย
วันเดียวกัน ที่โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ ในเวทีเสวนา “การพัฒนากฎหมายการพนันที่รับผิดชอบต่อสังคม” จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า 3 อันดับการพนันที่คนเล่นเป็นครั้งแรกและเป็นการพนันที่มีคนเล่นมากที่สุดในปี 2556 ได้แก่ หวยใต้ดิน สลาก และไพ่
ทั้งมองว่า พรบ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ในระหว่างการแก้ไขนี้ไม่ได้พูดเรื่องการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา แต่เป็นการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับให้สำนักงานสลากมีอำนาจในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้อำนาจบอร์ดมากเกินไป
“การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา การขายด้วยวิธีออนไลน์ สำนักงานสลากสามารถทำได้โดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย แต่ต้องปรับเปลี่ยนระบบจัดสรรโควตาที่มีผลให้เกิดการผูกขาดในตลาด” รศ.ดร.นวลน้อยระบุ
ด้านนายรณวิทย์ สิมะเสถียร นักกฎหมายอิสระ กล่าวว่า เกือบทุกประเทศจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการพนัน เนื่องจากรัฐไม่สามารถห้ามไม่ให้เกิดการพนันอย่างเด็ดขาดได้ เพราะจะนำไปสู่การเล่นพนันใต้ดินและกลุ่มมาเฟียตามมารัฐจึงยอมให้มีการเล่นพนันแบบมีเงื่อนไขคือ 1.ต้องไม่ไปกระตุ้นให้เกิดการติดพนัน 2.รางวัลต้องไม่ล่อใจมากเกินไป และ3.การจ่ายผลตอบแทนต้องยุติธรรม และมีการจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งตั้งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาวิจัย การบำบัดรักษา และการป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะที่เป็นเด็กและเยาวชน เขาจะทำทุกทางไม่ให้เด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเข้ามาติดพนัน
“ขณะที่ไทยมีล๊อตเตอรี่มากว่า100 ปีแล้ว และการพนันอื่นๆ แต่ยังไม่มีการคุ้มครองคนในประเทศอย่างจริงจัง ยังไม่มีองค์กรใดไปศึกษาดูแล จึงถึงเวลาแล้วที่จะมีกองทุนเพื่อการศึกษาและดูแลปัญหาจากการพนันเกิดขึ้น การที่รัฐบาลกำลังหาทางแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้จึงควรคิดถึงความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อสังคมด้วย” นายรณวิทย์ กล่าว
ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะอเนก นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน เสนอแนะว่าการป้องกันปัญหาจากการพนันต้องเริ่มป้องกันตั้งแต่ที่โรงเรียน มีชุดการเรียนรู้เรื่องการพนันสำหรับเด็กในวัยเรียน และทำควบคู่กับในครอบครัวและในสังคมไปพร้อมๆกัน ซึ่งต่างประเทศที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ เช่น แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เด็กของเขามีความเข้มแข็ง มีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาการพนัน การได้เปรียบของเจ้ามือ การคิดวิเคราะห์โอกาสที่จะชนะการพนัน รวมถึงบริการบำบัดสำหรับคนติดพนัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี