พท.-ปชป.ยื่นเงื่อนไขคสช.
ยืดเลือกตั้ง
แลกทำประชามติร่างรธน.
ถกปรองดองคึก-แดงชงแผน3ขั้น
ย้ำนับหนึ่งใหม่ใต้กติกาเป็นธรรม
‘ปู่ชัย’ชี้เลือกตั้งอิสระฉิบหายแน่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 เมษายน ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กทม.ตามที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เชิญกลุ่มการเมือง ตัวแทนพรรคการเมือง นักวิชาการ และสื่อมวลชน มาแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปกำหนดแนวทางแก้ความขัดแย้ง เสริมสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ให้คนในชาติ โดยมี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก เป็นประธานและพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ แม่ทัพภาคที่1 เป็นผู้ดำเนินรายการนั้น
ตบเท้าพรึ่บ-ถกปรองดองทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้เดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างต่อเนื่อง ทางพรรคเพื่อไทย (พท.)ได้แก่ นายอำนวย คลังผา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีต รมว.ศึกษาธิการนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ศึกษาธิการและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการและ นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โดย นายพงศ์เทพ กล่าวว่า การประชุมคงหารือถึงสถานการณ์ทั่วไป และมองว่าสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำคือ ให้เกิดความเป็นธรรม และมีรายละเอียดในหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกันเพื่อนำสู่ความปรองดอง ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวลใดๆ แต่เสียดายที่ไม่ให้สื่อเข้าร่วมรับฟัง
แกนนำนปช.ยินดีไม่มีปัญหา
ขณะที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานน ปช.,นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.,นายวรชัย เหมะ นางธิดา ถาวรเศรษฐและนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายกลุ่ม นปช. โดย นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โดยพร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและขณะนี้เลยเวลาปรับทัศนคติแล้ว ด้าน นางธิดา กล่าวว่า ทราบล่วงหน้า 2วัน ไม่มีปัญหา เขาว่ามาอย่างไรก็อย่างนั้น ให้มาก็มาคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
ปชป.-สื่อ-นักวิชาการร่วมมือ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางมาร่วมประชุมในวันนี้ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายชำนิ ศักดิเศรษฐ ซึ่งไม่ได้มีการพูดคุยกับสื่อมวลชน ก่อนเข้าไปร่วมประชุมแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของนักวิชาการ สื่อมวลชนและคอลัมนิสต์ ที่เป็นผู้นำความคิดมาเข้าร่วมให้ข้อคิดเห็นด้วย อาทิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) ,นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ กรรมการญาติวีรชน35,นายอธึกกิจ แสวงสุข นามปากกาใบตองแห้ง นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเอกชัย ชัยนุวัฒน์ อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในสโมสร ทบ.ผู้ที่ถูกเชิญมาแสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะเข้าตัวอาคารจะต้องผ่านเครื่องสแกนและตรวจสอบอาวุธก่อนเข้าห้องประชุม และห้ามนำโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือติดต่อสื่อสารเข้าห้องประชุมเด็ดขาด นอกจากนี้ คณะผู้ติดตาม รวมถึงสื่อมวลชนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมด้วย ให้รอเฉพาะด้านนอกเท่านั้น
ที่แท้คสช.ห่วงถกรธน.ผ่านสื่อ
ระหว่างการหารือดังกล่าว พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า อยากให้ทุกท่านแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการออกสื่อวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าต้องการเสนอแนะควรผ่านช่องทางที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จัดให้ หรือเสนอตรงไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กมธ.ยกร่างฯ) ทั้งนี้ เราไม่ได้ห้าม ถ้าเป็นไปได้อาจจะจัดเวทีเพื่อให้ทุกคนเสนอความเห็นโดยตรงกับ กมธ.ยกร่างฯ แต่จะต้องหารือกับผู้บังคับบัญชาอีกที
ประดิษฐ์ยันคุยกันบรรยากาศดี
เวลา12.30น.หลังหารือกว่า 3ชั่วโมง นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ อดีตนายกสมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะ สมาชิก สปช.เปิดเผยว่า มีการพูดคุยเรื่องปรองดอง ซึ่งตัวแทนทุกพรรคการเมืองได้รับเชิญ 30-40คน บรรยากาศการเป็นไปด้วยดี มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสร้างความปรองดองและขอความคิดเห็นจากตัวแทนที่มา โดนตนว่า ปี54 เคยทำโครงการส่งมอบประเทศไทยให้ลูกหลาน ซึ่งทุกคนได้เล่าในสิ่งที่ตนเองเคยทำมา ไม่มีการขอร้องหรือเชิญมาปรับทัศนคติ หลายคนขอว่า ช่วงร่าง รธน.ใหม่นี้ ขอให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางออกจากสโมสรทหารบก ตั้งแต่เวลา 12.30น.เนื่องจากมีภารกิจ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่บรรยากาศการประชุมยังดำเนินต่อไป
ทหารพร้อมเปิดเวทีให้แสดงออก
ต่อมา เวลา 13.40 น. นายนัชชชา กองอุดม นักศึกษา ม.กรุงเทพ หนึ่งในผู้ที่ถูกเชิญมาร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ชี้แจงว่า เชิญมาพูดคุยแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันนำไปสู่ความปรองดอง โดยบรรยากาศภายในห้องประชุมเป็นการพูดคุยตามปกติ ไม่มีเรื่องความขัดแย้ง โดยศปป.ยืนยันว่า จะให้หลายฝ่ายได้แสดงออกมาขึ้น โดยจะตั้งเวทีเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้แสดงออกในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น ทั้งนี้ ศปป.ขอร้องไม่ให้นำเรื่องที่พูดคุยกันออกมาพูดกับสื่อ เพราะเกรงว่าจะเกิดประเด็นมากมายและนำไปสู่ความขัดแย้ง
2พรรคยอมลต.ช้าแลกประชามติ
นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า มีการเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย นายอภิสิทธิ์และพรรคเพื่อไทย มีความเห็นทิศทางเดียวกันคือ เรื่องรัฐธรรมนูญที่ต้องมีแนวทางเรื่องความปรองดอง ลดความขัดแย้ง เป็นประชาธิปไตย โดยทั้งสองพรรครับได้หากมีการเลือกตั้งช้า แต่รัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตย ซึ่งควรมีการทำประชามติ แต่หากรัฐธรรมนูญยังเป็นแบบที่ร่างออกมานี้ ไม่มีการแก้ไข เชื่อว่าความขัดแย้งจะไม่สิ้นสุด
“วันนี้ไม่ใช้ความขัดแย้งเฉพาะกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ กปปส. นปช. และเพื่อไทย เท่านั้น แต่เป็นความขัดแย้งของความคิดคนอนุรักษ์นิยมกับคนรักประชาธิปไตย ต้องทำให้ทั้งสองกลุ่มเดินไปด้วยกันได้ ถ้า คสช.ตั้งใจแก้ปัญหาความขัดแย้งจริง ต้องเสนอความเห็นที่ได้พูดคุยไปยัง กมธ.ยกร่างฯหากไม่ทำก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร ยึดอำนาจไม่จบไม่สิ้น” นายวรชัย กล่าว
“พงศ์เทพ”ชี้ต้องเปิดสานเสวนา
ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กล่าวหลังหารือว่า เสียงของนักวิชาการ นักการเมือง และภาคประชาชน เป็นไปทำนองเดียวกัน โดยเน้น 2ปัจจัยหลักคือ เรื่องระบบกฎหมาย กติกาที่เป็นธรรมและการบังคับใช้กติกา ผู้บังคับใช้กติกาที่เป็นธรรม นอกจากนี้ นักวิชาการก็จะพูดถึงกรรมวิธีที่จะสร้างความปรองดองโดยหยิบยกเรื่องการสานเสวนาขึ้นมาเพื่อจะหาจุดร่วมกันได้ ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า จะมีปัญหาขัดแย้งตามมามากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารก็บอกว่า ถ้าอย่างนี้จะจัดให้พูดแสดงความเห็นของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ กมธ.ยกร่างฯโดยตรง แทนที่จะพูดผ่านสื่อ ให้มาเจอหน้ากันพูดกันด้วยเหตุผลน่าจะเป็นแนวทางที่ดี
‘เต้น’ชงบันได3ขั้นสู่ปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า การประชุมวันนี้ตนเสนอความคิดว่า ทั้งหมดที่เชิญมาวันนี้ไม่มีใครเป็นคู่ขัดแย้งที่แท้จริง เพราะคู่ขัดแย้งที่จริงคือกลุ่มความคิดอนุรักษ์นิยม และกลุ่มความคิดเสรีนิยม ซึ่งเกิดมาตลอดนับมาตั้งแต่ 2475 ตนจึงเสนอโรดแมปปรองดองอย่างเป็นรูปธรรมว่า ขั้นที่ 1 ต้องสร้างกระบวนการพูดคุย อย่างเช่นที่เชิญหลายฝ่ายมาพูดคุยวันนี้ ขั้นที่ 2 สร้างกติกาสูงสุดที่เป็นประชาธิปไตย เพื่อบังคับใช้อย่างเป็นธรรม หมายถึงต้องทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่ทุกฝ่ายยอมรับและบังคับใช้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ขั้นตอนที่ 3 จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนองค์กรอิสระก็แสดงความสง่างามโดยการลาออกทุกตำแหน่ง แต่ไม่ปิดกั้นที่จะเข้ากระบวนการสรรหาตามรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้ทุกอย่างเริ่มต้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งหากเป็นแบบนี้ ประเทศก็ยังมีความหวังเรื่องปรองดอง
‘บิ๊กตู่’รับสั่งเรียกทำความเข้าใจ
ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณี ศปป.เชิญตัวแทนพรรคการเมือง นักวิชาการและคอลัมนิสต์ เข้าหารือที่สโทสรทหารบก ว่า เรียกมาเพื่อพูดคุย เพราะตนเคยบอกไปแล้วว่า การออกมาพูดกับสื่อ พูดกับสังคมหรือพูดข้างนอกมันไม่ได้ ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติมากนัก ดังนั้นการที่บางคนทั้งที่มีคดีหรือเรื่องต่างๆที่สังคมยังสงสัยก็ต้องเชิญมาพบกัน
“ความจริงก็เชิญมาพูดคุยกันแล้วหลายครั้ง ซึ่งก็รับปากกัน พูดจากันเรียบร้อย แต่พอกลับไปก็เอาใหม่อีก ผมจึงสั่งการว่า ให้เชิญมาพูดคุยวันเดียวกันนี้ เพื่อจะถามดูว่า ที่ผ่านมาเคยพูด และรับปากไว้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในปี2552 -2553 เรื่องชายชุดดำ เรื่องจำนำข้าว มีอะไรก็ขอให้ว่ามา ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานว่า ทำได้แค่ไหน อย่างไร”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ถามหรือจะให้ลงโทษแรงขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรกับบุคคลที่เรียกมาทำความเข้าใจบ่อยครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “สังคมก็ต้องว่ากันมาและสังคมต้องทำความเข้าใจกันเอง อะไรก็จะให้ผมใช้แต่อำนาจจะต้องให้ผมทำให้ ทำไมไม่รู้จักคิดว่า จะมีหัวใจที่จะปรองดองทำเพื่อประเทศชาติทำไม่ได้เลยหรือ มันต้องขัดแย้งไปทุกเรื่อง จะขอแต่ให้มีกฎหมายที่แรงขึ้นๆ หรือลงโทษแรงขึ้น ถามว่าแล้วจะต้องให้มันแรงขึ้นอีกเท่าไหร่ ถ้าใช้มาตรการรุนแรงก็จะกล่าวหาผมอีกว่า ผมทำรุนแรงเกินไป ผมบอกหลายครั้งแล้วว่า การปรองดองอยู่ที่หัวใจของทุกคนที่เป็นคนไทย ถ้าอยากปรองดองก็ขอให้หยุดกันเสียก่อนทุกเรื่อง หยุดพูด หยุดแสดงความคิดเห็นนั่นแหละคือปรองดอง”
‘บวรศักดิ์’พร้อมแก้ไขร่างรธน.
ด้าน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กมธ.ยกร่างฯ) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ว่า การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญผ่านไป 3วัน เป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีสิ่งไม่ราบรื่นทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิก สปช.บางท่าน ระบุว่า การที่ กมธ.ยกร่างฯ ลุกขึ้นชี้แจงในรายประเด็นแสดงว่า จะไม่แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯ มีเวลาชี้แจง 15ชั่วโมง แต่วันนี้ใช้ไปแค่ 5ชั่วโมงกว่า ถ้าไม่ชี้แจงเลย ชาวบ้านที่ฟังจะไม่เข้าใจ แต่ชี้แจงแล้วไม่ได้แปลว่า จะปรับปรุงไม่ได้ การชี้แจงเพื่อให้เห็นว่า กมธ.ยกร่างฯใช้หลักวิชา ดูความเป็นไปของโลก ดูลักษณะเฉพาะของบ้านเมืองไทย ไม่ได้เอาตัวเองเป็นตัวตั้ง
ซัดสื่อ’มโน’คิดว่าไม่ปรับแก้
เมื่อถามย้ำว่า จากการแถลงของโฆษก กมธ.ยกร่างฯ เหมือนว่า จะไม่แก้ไขในประเด็นที่มานายกฯที่มา สว.และระบบเลือกตั้ง นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ก็ฟังหมด แต่จะแก้หรือไม่ต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนประเด็นที่บอกจะไม่ปรับแก้ไขนั้น สื่อมวลชนคิดเอาเองว่า จะไม่ปรับแก้ไขอีก ใครจะพยากรณ์อนาคตได้ ก็คิดเอาเองทั้งนั้น ยังไม่พิจารณาในช่วง 60วันเลย ฉะนั้นอย่าเพิ่งไปห่วง ว่าจะแก้หรือไม่แก้ อนาคตยังมาไม่ถึง ให้ดูวันนี้ก่อน
ทำโพลล์ถามร่างรธน.77จว.
นางถวิลวดี บุรีกุล โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า ตรียมจัด“เวทีเผยแพร่สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ”12เวทีทั่วประเทศ เพื่อแจกหนังสือ“สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป” ซึ่งจะสรุปเนื้อหาสำคัญให้ประชาชนเข้าใจง่าย พร้อมให้ประชาชนตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ ประเดิมเวทีแรกที่ จ.นครสวรรค์ วันที่ 27เมษายน กมธ.ยกร่างฯยังเตรียมจัดเวทีสัมมนารับฟังความเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญอีก 3เวที ที่จ.ขอนแก่น นครศรีธรรมราชและกทม.พร้อมทำแบบสอบถามความเห็นประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญ 77จังหวัด 77,000ตัวอย่าง โดยจะเสร็จในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ ยังไม่ถึงเวลาพูดถึงทำประชามติ รอให้ ครม.และคสช.ตัดสิน โดยกมธ.ยกร่างฯกว่า80 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า ต้องจัดทำประชามติ
“ปู่ชัย”ขวางเลือกตั้งอิสระ
สำหรับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่ออภิปรายร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก ในวันที่ 4 ยังคงพิจารณาในภาคที่2 ผู้นำการเมืองที่ดีและระบบผู้แทนที่ดี หมวด 3 รัฐสภา โดยเป็นการอภิปรายต่อจากวันที่ 22เมษายนที่ผ่านมา โดย นายชัย ชิดชอบ สปช.ด้านการเมือง อภิปรายถึงประเด็นร่างรัฐธรรมเปิดทางให้กลุ่มการเมืองส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ โดยไม่ต้องสังกัดพรรคว่า ขนาดพรรคการเมืองยังคุมไม่อยู่ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แล้วถ้ามีกลุ่มการเมืองเกิดขึ้นจะตรวจสอบอย่างไร กลุ่มการเมืองใหญ่สองกลุ่มจะสร้างความวุ่นวายให้ประเทศในอนาคต ร่างรัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้รับรองประเทศล่มสลายล่มจมแน่นอน
ลั่นไม่แก้บ้านเมืองฉิบหายแน่
“ชาติจะล่มจมเพราะกลุ่มเหล่านี้ ผมห่วงทหารของผม เดี๋ยวจะต้องออกมายืดเส้นยืดสายอีก เราได้ศึกษารายละเอียดจากข้อเท็จจริงมา 10ปีที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาเกิดจากกลุ่มการเมือง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมือง เอาแค่พรรคการเมืองก็พอแล้วคุมให้อยู่ บ้านเมืองจะอยู่รอดก็อยู่ที่พวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ ถ้ากฎหมายมันออกไปดี บ้านเมืองก็อยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ถ้ากฎหมายมันออกมาเป็นแบบนี้ไม่สุขแน่ ฉิบหายแน่บ้านเมือง “นายชัยกล่าว
กมธ.ยกร่างฯมั่นใจควบคุมได้
จากนั้น พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯลุกขึ้นชี้แจงคำอภิปรายของ นายชัยว่า ตนติดใจคำว่า ชาติจะล่มจมเพราะกลุ่มการเมือง จึงขอชี้แจงว่า สถานการณ์บ้านเมืองที่มีกลุ่มต่างๆจัดตั้งขึ้น หลายกลุ่มมีความสนใจที่แตกต่างกัน อาทิ ด้านพลังงาน ด้านการเมือง เป็นต้น ขอยืนยันว่า กลุ่มการเมืองแตกต่างจากพรรคการเมือง โดยมีข้อบังคับน้อยกว่าพรรคการเมือง แต่หากจะลงสมัคร สส.ต้องทำตาม พรบ.พรรคการเมืองเช่นเดียวกันและมั่นใจว่ากลุ่มการเมืองจะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายตามที่ท่านประธานฯชัย ระบุไว้” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี