บอร์ดสลากฯเคาะ
ชงนายกฯใช้ม.44
แก้ปัญหาหวยแพง
คาดเริ่มงวดมิย.นี้
เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายสมชัย สัจจพงษ์อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล(บอร์ดสลากฯ) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการสลากฯว่า ที่ประชุมจะเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ปรับเงื่อนไขเพิ่มส่วนต่างกำไรจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ผู้ค้าสลากจากเดิม 5.60 บาทต่อฉบับเป็น 10 บาทต่อฉบับ เพื่อให้ผู้ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น และแก้ปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท โดยจะปรับลดการนำรายได้ส่งเข้ารัฐจากเดิม 28% เหลือ 20% ซึ่งการปรับเงื่อนไขดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนค่าบริหารจัดการเพิ่มจาก 12% เป็น 5% และจะนำเงินสมทบเป็นกองทุนบริหารจัดการสลาก 5% เพื่อรับซื้อเลขไม่สวย
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยก็สามารถเริ่มได้งวดเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่โควต้าสลาก 48 ล้านฉบับหมดสัญญาลง และจะทำสัญญาใหม่จัดสรรให้ผู้ค้ารายย่อยรายเดิม ส่วนจะให้ขยับส่วนต่างกำไรขึ้นถึง 15 บาทตามแนวคิดนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้นคงไม่สามารถทำได้ เพราะจะกระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงอีก
ประธานบอร์ดสลากฯยังยืนยันว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะเสนอใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการออกสลากออนไลน์ 2 ตัว 3 ตัว เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการกฤษฎีกา จะแก้ไขเพื่อให้สามารถจำหน่ายสลากผ่านเครื่องออนไลน์ได้อยู่แล้ว ถ้ากฎหมายผ่านความเห็นชอบ สามารถเริ่มได้ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ แต่ถ้านายกฯจะใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขกฎหมายส่วนนี้ ก็สามารถนำมาใช้ออกสลากออนไลน์เพื่อให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจใช้กฎหมายจะพิจารณา
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้กองสลากฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎหมายห้ามผู้ค้าสลากรวมชุด เป็นไปตามกฎหมายและสัญญาที่ระบุให้ผู้ค้าสลากต้องจำหน่ายสลากปลีกเท่านั้น หากตรวจพบว่ามีการรวมชุด จะยึดโควต้าสลากคืนทันที
ขณะเดียวกัน นายสมชัยยังเปิดเผยด้วยว่า กรมศุลกากรจะเสนอนายกฯใช้อำนาจมาตรา 44 ให้กรมศุลกากรสามารถขายไม้ของกลาง 3.18 แสนท่อน ในจำนวนนี้เป็นไม้พะยูง 1.27 แสนท่อน คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 4,000 ล้านบาทได้ เนื่องจากไม้ของกลางทั้งหมดมีจำนวนมาก ไม่มีที่เก็บของกลาง และต้องใช้เวลานานในการดำเนินคดี ซึ่งการขายไม้ของกลางจะขายในหน่วยราชการเป็นอันดับแรก หากขายไม่หมดก็จะให้เอกชนเข้ามาซื้อได้ ถ้ายังไม่หมดก็จะขายไปต่างประเทศ
วันเดียวกัน ที่จ.เลย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานประชุมฟังความเห็นระหว่างตัวแทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำโดย นายวรวัธ วัฒนสิงห์ หัวหน้าสำนักการตลาด สำนักงานสลากฯกับตัวแทนกลุ่มผู้เร่ขายสลากรายย่อยจ.เลย นำโดย นายปรีชา การมงคล ประธานกลุ่ม
นายปรีชาให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพวกตนไม่มีโควตาจัดสรรสลากต้องรับซื้อจากผู้ค้ารายใหญ่ในราคาต้นทุนที่เกินกว่าฉบับละ 100 บาท จึงต้องนำมาขายปลีกราคา 100-120 บาท จึงจะคุ้มการลงทุน แต่ถ้ากองสลากฯจัดสรรโควตาให้ผู้ค้ารายย่อยโดยตรงรายละ 5-10 เล่มในราคาใบละ 65 บาท พวกตนสามารถขายปลีกได้ราคาที่กำหนด 80 บาท แต่ถ้ากองสลากฯจะคิดราคาต้นทุนเท่ากับปัจจุบันคือใบละ 74.40 บาท ก็ขอให้กำหนดปรับราคาขายปลีกเป็นใบละ 90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดยอมรับได้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ และถ้ากลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่นำสลากที่ได้โควตา
จากกองสลากไปขายเกินราคาอีก จะยอมให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ส่วนกรณีที่บอร์ดกองสลากฯมีมติเพิ่มส่วนต่างกำไรให้ผู้ค้ารายย่อยเป็นฉบับละ 10 บาทนั้น นายปรีชากล่าวว่า การให้มีส่วนต่างที่ 10 บาท คงไม่พอกับค่าใช้จ่าย เพราะผู้ค้าต้องการส่วนต่างราคาอยู่ที่ 15 บาท ถ้ามีส่วนต่างราคาที่ 15 บาทแต่ละงวดจะมีรายได้อยู่ที่ 7,500 บาทหักค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000-3,500 บาท จะเหลือ 4,000-4,500 บาทก็พออยู่ได้ แต่ถ้ามีส่วนต่างที่ 10 บาทก็คงไม่พอค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้ากองสลากฯยืนยันส่วนต่างที่ 10 บาท อยากให้เพิ่มจำนวนเล่มเป็น 10 เล่มก็จะได้กำไรแต่ละงวด 10,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วยังพอเหลือส่งให้ลูกเรียนหนังสือได้
ด้านนายวรวัธ ตัวแทนสำนักงานสลากฯ รับข้อเสนอตัวแทนกลุ่มผู้ค้ารายย่อยไปเสนอต่อผอ.กองสลากผ่านไปยังบอร์ดสลากฯ ซึ่งอยู่ระหว่างทำแผนบริหารจัดการแก้ปัญหาสลากฯตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)สั่งให้ดำเนินการให้เป็นผลภายในเดือนมิถุนายน
ขณะที่นายวิโรจน์เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลสั่งให้จังหวัดเปิดลงทะเบียนผู้ประสงค์ขอรับจัดสรรโควต้าสลากฯ ปรากฎมีผู้แจ้งความประสงค์ไว้ทั้งสิ้น 14,745 ราย ซึ่งจังหวัดรวบรวมเสนอไปยังกองสลากฯแล้ว ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับการจัดสรรโควต้าให้ผู้ค้ารายย่อย ทั่วประเทศ โดยอาจใช้จ.เลย เป็นจังหวัดนำร่องแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา นอกจากจะควบคุมราคาขายไม่เกิน 80 บาทแล้ว ยังสนับสนุนให้ชาวบ้านประกอบอาชีพสุจริต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี