‘บิ๊กตู่’ตอกนักการเมือง
อย่าต่อรอง
ย้อนถามมีอำนาจอะไร
ให้ยืดเลือกตั้งแลกประชามติ
ลั่นขอฟังแต่ประชาชนเท่านั้น
ปิดฉากซักฟอกรธน.คาดฉลุย
เมื่อวันที่ 26เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองระบุว่าพร้อมให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป
แลกกับการทำประชามติเพื่อให้การร่างรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยว่า ใครพูด นักการเมืองมีอำนาจอะไร จะให้ตนอยู่หรือไม่อยู่ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าอย่างไร เรื่องนี้ต้องเป็นประชาชนที่จะว่าอย่างไร
“บิ๊กตู่”อ้างรธน.ไม่ทำประชามติ
“ใครจะมาพูดอะไรก็แล้วแต่ให้ผมอยู่หรือไม่อยู่ มันอะไรกันนักหนา อะไรก็ผม ไปคิดกันมั่งสิ เขียนให้หมดแล้ว รัฐธรรมนูญก็เขียนแล้ว ต้องทำประชามติก็ไม่ได้เขียนไว้ อยากจะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของคุณ เขียนทางเลือกไว้อยู่แล้ว ส่วนโรดแม็พผมก็มีอย่างนี้ ตอนนี้มี 60วัน 90 วัน ก็ต้องเป็นอย่างวันนั้นถ้ามันไปได้ ถ้าไปไม่ได้ก็ไปหาทางมาสิ ผมจะไปแก้อะไรอีกเล่า”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โวยลั่นอย่าโยนมาให้ทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินว่าแนวโน้มสถานการณ์ไปได้หรือไม่ อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เป็นเรื่องของทุกคนทั้งประเทศจะเอาอย่างไร จะมาโยนให้ตนคนเดียวได้อย่างไร จะให้ประเทศชาติเป็นแบบเดิมก็เชิญเลือกตั้งตามสบาย แล้วตนก็ไป แต่ถ้าจะให้อยู่ อยู่อย่างไรไปหาทางมา ถ้าอย่างนั้นต้องช่วยตน
เมื่อถามว่า ฝ่ายไหนจะเป็นคนหาทางออก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้อย่ามาโยนให้ตน เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศ ทีอย่างนี้มาบอกว่าจะเอาฝ่ายไหน สื่อต้องไปบอกประชาชน แต่ไม่ต้องมาว่าว่าตนใช้สื่อ เพราะไม่เคยใช้ แต่สื่อต้องไปสร้างความเข้าใจกับคน ซึ่งเขาจะรู้เองว่าคิดอะไรทำอะไร ทำไมต้องบอกทุกเรื่อง
อัดสื่อเก่งแต่ปาก-ทำอะไรบ้าง
“เป็นปลาทองกันหรือไง ต้องให้เอายามาหยอด ปลาทองที่เขาบอกว่าความจำสั้น เจออะไรไม่ถึงวินาทีมันก็ลืม ผมพูดไปเดี๋ยวก็จำกันไม่ได้แล้ว สื่อก็เอาไปเขียนให้ดีแล้วกัน ผมจะคอยดูที่เขียน ฟังน่ะรู้ พูดกันเข้าใจ แต่เวลาไปเขียนเป็นอีกแบบหนึ่ง ผมวงหนังสือพิมพ์ตอนอยู่ในรถเต็มไปหมด เก่งกันทั้งนั้น แนะให้แก้อย่างนั้นอย่างนี้ มันเคยเป็นอะไรกันมาบ้าง ผมถามหน่อย พวกวิจารณ์เคยทำอะไรกันสำเร็จบ้างมั้ย หรือทำหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เด็กยันแก่ วิจารณ์รัฐบาลโครมๆ นี่รัฐบาลควบคุมอำนาจ อย่ามาวิจารณ์ผมเหมือนไอ้รัฐบาลทั่วไป ไม่ได้ เราทำให้ทุกอย่าง แก้ทุกอย่าง มันยังว่าอีก มันเป็นอะไรของมัน หรือว่าผมใจดีเกินไปก็ไม่รู้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อารมย์บูดถูกถามเรื่องโรดแมป
เมื่อถามว่า สรุปว่าทุกวันนี้ยังเป็นไปตามโรดแม็พใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบเสียงดังว่า เดี๋ยววันหน้าคุณจะเอาคำพูดของตนมาว่า เห็นมั้ยไม่ทำตามโรดแม็พ มันก็เป็นอย่างนี้ทุกทีใช่หรือไม่ วันนี้บอกว่าต้องทำตามโรดแม็พอย่างนั้นอย่างนี้ พอถึงวันหน้าอะไรก็เกิดขึ้นก็ไม่รู้ แล้วมาว่าตนว่าเบี้ยวอีกแล้ว มันเป็นอย่างนี้กันทุกคน เชื่อตนสิ
สปช.ซักฟอกรธน.วันสุดท้าย
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น.มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่ออภิปรายร่างแรกรัฐธรรมนูญเป็นวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายตามที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาภาค 4 การปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง หมวด 2 การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม ส่วนที่ 2 การปฏิรูปด้านต่างๆบทสุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบทเฉพาะกาล
ย้ำหัวใจรธน.ฉบับนี้คือปฏิรูป
นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ สปช. ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อภิปรายเปรียบเปรยการเขียนรัฐธรรมนูญว่า หากพุ่งเป้าผิดจุด อาจหลงทางหรือไม่สามารถแก้ปัญหาในความเป็นจริงได้
เพราะที่ผ่านมาสมาชิกต่างเน้นความสำคัญด้านการเมือง แต่แท้จริงแล้วหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญนี้คือการปฏิรูปที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงประเทศ และตรงกับความต้องการของประชาชน
แนะตั้งองค์กรคนเก่งแห่งชาติ
พล.อ.อ.ขวัญชัย เอี่ยมรักษา สมาชิก สปช. กล่าว่า จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านเวทีปฏิรูป พบว่าประชาชนต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญมีข้อบัญญัติเกี่ยวกับการสร้างธรรมาภิบาลในเรื่องการวางกำลังคนของชาติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันกับประเทศต่างๆ จึงควรมีการจัดตั้งองค์กรการบริหารการวางคนของชาติ โดยเก็บข้อมูลของบุคลากรในชาติที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ เพื่อให้รัฐได้เลือกบุคคลที่มีความสามารถให้เหมาะสมกับงาน
หวั่นล็อกสเปคสภาฯขับเคลื่อน
ขณะที่นายทิวา การกระสัง สมาชิกสปช. อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เนื่องจากไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งนี้ตนเห็นด้วยในมาตรา 279เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ แต่ควรมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของการกำหนดอัตราส่วนของคณะกรรมการที่มาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และสปช.ตลอดจนผู้ส่งคุณวุฒิเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจมีการล็อกสเป็คเกิดขึ้น
หนุนตั้งสภาฯแต่ยังมีจุดอ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันสมาชิก สปช.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นด้วยให้ปฏิรูปทุกด้าน และสนับสนุนให้มีสภาขับเคลื่อนและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ แต่สมาชิกสปช.ได้อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า 2องค์กรดังกล่าวยังมีจุดอ่อน ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องบทบาทอำนาจหน้าที่ โดยเสนอให้กำหนดเรื่องนี้ไว้ในแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
กมธ.พร้อมนำข้อคิดไปปรับปรุง
ด้าน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ในประเด็นที่มาของ ส.ว.และคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาตินั้น กรรมาธิการเองก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเมื่อมีเสียงจากสมาชิกปฏิรูปแห่งชาติไม่เห็นด้วย ก็จะนำข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อไป
เสนอลงโทษนักการเมืองโกหก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในช่วงบ่าย การอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีหลายประเด็นที่สปช.เสนอให้เขียนบทบัญญัติเพิ่มเติมไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เช่นกำหนดบทบัญญัติว่า ผู้นำทางการเมืองต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองโกหก การปฏิรูประบบราชการแผ่นดิน ลดกำลังในระบบราชการให้เหลือครึ่งหนึ่งภายใน 10 ปี นอกจากนี้ยังเสนอให้ปรับลดจำนวนสัดส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
“วันชัย”แจงภาพรวมศึกซักฟอก
ในขณะที่นายวันชัย สอนศิริ โฆษกกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงถึงภาพรวมการอภิปรายร่างแรกรัฐธรรมนูญ 7 วันที่ผ่านมาว่า สมาชิก สปช.นำเอาประสบการณ์การทำงาน ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของแต่ละคน ตลอดจนเสียงของประชาชนที่ได้รับฟังจากเวทีต่างๆ ผ่านช่องทางต่างๆในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ในประเด็นและมุมมองต่างๆ อย่างสร้างสรรค์
รวบรวมความเห็นเสนอ”บวรศักดิ์”
นายวันชัย กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อไป สปช.จะรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆ พร้อมทั้งจะดำเนินการส่งคำขอแก้ไขเพิ่มเติมของสปช. ต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ ภายใน 30 วัน เพื่อให้คณะกมธ.ยกร่างฯจะได้นำคำขอฯดังกล่าว ไปประกอบการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนจะได้ส่งกลับมาให้ สปช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
มั่นใจร่างรธน.ผ่านสปช.ฉลุย
พร้อมกันนั้นสปช.จะเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดของวาระปฏิรูป 36 วาระ และวาระการพัฒนา 7 วาระ ให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว เพื่อทำให้แนวคิดการปฏิรูปพัฒนาประเทศต่างๆ ที่ได้บรรจุในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสปช. และคงมีการแก้ไขทบทวนเนื้อหาของร่างให้สมบูรณ์ต่อไป
ซัดนักการเมืองโกงกลัวรธน.
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นักการเมืองออกมาโจมตีว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ และวางแนวทางให้ผู้มีอำนาจสืบต่อ นายวันชัย กล่าวชี้แจงว่า กมธ.ยกร่างฯ และสปช. ร่วมกันทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ร่างขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจ เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสกัดกั้นนักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“สำหรับนักการเมือง นักบริหารที่ฉ้อฉล โกงกิน ก็จะเกรงกลัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีมาตรการที่จะขจัดนักการเมืองที่ฉ้อฉล ให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบ จึงทำให้นักการเมืองหวั่นไหว ถ้าใครเป็นนักการเมืองที่ดีก็ไม่ต้องเกรงกลัวรัฐธรรมนูญนี้”นายวันชัยระบุ
27เมษาฯประชุมแปรญัตติ
เมื่อถาม ภายหลังการอภิปรายของสปช.กระบวนการแปรญัตติจะเป็นอย่างไร นายวันชัย กล่าวว่า ในวันที่ 27 เมษายน ทราบว่าจะมีการประชุมของคณะกรรมาธิการสปช.หลายคณะ เพื่อกำหนดประเด็นในการแปรญัตติร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการประสานกันในแต่ละคณะเพื่อไม่ให้ประเด็นในการแปรญัตติมีความซ้ำซ้อน และในวันที่ 29 เมษายนนี้ คาดว่าวิปสปช.จะมีการหารือเรื่องนี้อีกครั้ง
"ประสาร"เชื่อลงมติ6สค.ฉลุย
สำหรับนายประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ 7 วันนี้ว่า เป็นการอภิปรายที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์ ใช้ไมตรีจิตต่อกันแทนที่จะเอาชนะคานกัน นับเป็นมาตรฐานใหม่ของการอภิปรายในสภาฝ่ายกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเองก็น้อมใจที่จะรับฟังอย่างเต็มที่ ไม่มีท่าทีแข็งขืน ฝ่าย สปช.ก็ทำการบ้านมาอย่างดีและแสดงออกอย่างมีวุฒิภาวะ
“เมื่อถึงวันที่ลงมติ ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ด้วยบรรยากาศถ้อยทีถ้อยมีไมตรีต่อกันเช่นนี้ จะทำให้ สปช. ส่วนใหญ่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญในที่สุด”นายประสาร กล่าว
ญาติวีรชนฯให้กำลังใจบวรศักดิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนหน้านั้นได้มีเครือข่ายญาติวีรชน เหตุการณ์พฤษภา 2535 ได้มาให้กำลังใจ และมอบดอกไม้ต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ โดยมีกมธ.ยกร่างฯ ประกอบด้วย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ และนายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
นักวิชาการชี้รธน.อยู่ได้ไม่นาน
ทางด้านนายสมชาย ภคภาสวิวัฒน์ นักวิชการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ให้ความเห็นถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ถือเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่พยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆมีการลงรายละเอียดและมีเนื้อหาครอบคลุมมากมาย ซึ่งรายละเอียดที่มากเกินไปจะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติได้ยาก เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เสมือนเลโก้คือเป็นการต่อที่ไม่ถาวรและเป็นรัฐธรรมนูญประเภทภาพเสมือนจริง จะอยู่ได้ไม่นานจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาอีก
เชื่อการเมืองถอยหลังกลับวุ่นอีก
นอกจากนี้นายสมชาย ยังมองว่า การที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไปลอกระบบการเลือกตั้งแบบผสมหรือแบบเยอรมันมาใช้นั้น ตนเชื่อว่าจะทำให้ในอนาคตจะมีรัฐบาลผสมหลายพรรคแย่งชิงผลประโยชน์เท่ากับว่าเป็นระบบการเมืองที่กลับไปสู่ยุคก่อนปี 2540 เพราะนักการเมืองและระบบพรรคการเมืองบ้านเราไม่ได้มีอุดมการณ์เข้มแข็งเหมือนเยอรมัน และยังจะทำให้เผด็จการเสียงข้างมากใช้เวลาฝักตัวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี