27 เม.ย.58 เมื่อเวลา 08.00 น.ที่โรงแรม Mandarin Oriental ประเทศมาเลเซีย นายเหลิ่ง จัน เย้ง ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 26 โดยภายหลังการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลหารือ ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกับอีกครั้ง หลังจากที่เคยมีโอกาสร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 ในเดือน พ.ย.57 ที่กรุงปักกิ่ง และยินดีที่ทราบว่า ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และครอบครัว นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะที่ภูเก็ต และกระบี่
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย ซึ่งมีเสถียรภาพมากขึ้น และอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศในหลายด้าน โดยรัฐบาลปัจจุบันเน้นการดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียม ได้รับประโยชน์ร่วมกัน และปราศจากคอรัปชั่น ซึ่งฮ่องกงได้แสดงความชื่นชม และมั่นใจต่อการบริหารของนายกรัฐมนตรีที่ตรงไปตรงมา ด้านความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายพอใจกับภาพรวมความสัมพันธ์ไทย-ฮ่องกง โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ควรเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการ ระหว่างภาครัฐให้มากขึ้น ซึ่งไทยได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลของฮ่องกง ในการผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้เป็นรูปธรรม และเห็นพ้องที่จะเป็นประตูซึ่งกันและกัน โดยฮ่องกงเป็นประตูสู่จีน และไทยเป็นประตูสู่อาเซียน ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยไทยหวังว่า ฮ่องกงจะใช้ไทยเป็นฐานการลงทุน และเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่เน้นความเป็นไทย (Thainess) รวมทั้งในลักษณะไทยบวกหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่อาเซียนประเทศอื่นๆ ในขณะที่ฮ่องกงเป็นประตูสำหรับชาวจีนในการเดินทางท่องเที่ยวออกนอกภูมิภาค โดยฝ่ายฮ่องกงได้แสดงความพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทยต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณที่ฮ่องกงเปิดเที่ยวบินให้แก่สายการบินจากไทยมากขึ้น และเสนอให้มีการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างฮ่องกง และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย แบบ direct flight และ charter flight ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งผู้นำฮ่องกงเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรี และจะไปดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
ด้านการค้า ฮ่องกงเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับ 9 และเป็นคู่ลงทุนอันดับ 5 และไทยครองตลาดข้าวในฮ่องกงเป็นอันดับ 1 อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี เห็นว่า สัดส่วนการนำเข้าข้าวจากไทยในปีที่ผ่านมาลดลง จึงขอให้ฮ่องกงพิจารณาการนำเข้าข้าวจากไทยมากขึ้น ข้าวไทยเป็นข้าวคุณภาพดีและมีหลายประเภทให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหอมมะลิพิเศษ และข้าวที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดเบาหวาน ซึ่งฝ่ายฮ่องกงเห็นว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทยยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพียงแต่ความนิยมของชาวฮ่องกงเริ่มเปลี่ยนเป็นการบริโภคผลไม้จากไทยมากขึ้น และฮ่องกงพร้อมที่จะสนับสนุนสินค้าเกษตรจากไทยเช่นกัน
ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อพัฒนาการเชื่อมโยงในภูมิภาค และเชิญชวนให้ฮ่องกงเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวและในบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ซึ่งฮ่องกงมีประสบการณ์ โดยฮ่องกงได้แสดงความสนใจและเห็นว่าปัจจุบันประเทศไทยน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มีความชำนาญในด้านนี้ อย่างฮ่องกงสำหรับการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - ฮ่องกง ไทยแสดงความยินดีที่ได้ทำหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานการเจรจาการค้าเสรีอาเซียน - ฮ่องกง และพร้อมจะผลักดันให้การเจรจาเสร็จในปี 59 ซึ่งฮ่องกงเองก็ยินดีที่ไทยทำหน้าที่นี้ และจะช่วยผลักดันเรื่องนี้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี