28 เม.ย.58 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้าให้ถ้อยคำต่อ องค์คณะไต่สวน ป.ป.ช.ในฐานะพยานของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีถูกกล่าวหาสั่งการสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 โดยใช้เวลาชี้แจงกว่า 3 ชั่วโมง
โดย นายถวิล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า ตนได้ชี้แจงต่อ ป.ป.ช.โดยย้ำถึงขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ โดยคำนึงถึงกฎหมายเป็นหลัก โดยเฉพาะในคำพิพากษาของศาลที่ได้ออกมาหลายครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ลุแก่อำนาจ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ถึงแม้เจ้าหน้าที่เองจะถูกกระทำ ทั้งเหตุการณ์ที่ถนนราชดำเนิน และที่ไทยคมลาดหลุมแก้ว ซึ่งในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตไป 5 ราย บาดเจ็บ 300 ราย
อย่างไรก็ตาม ทาง ป.ป.ช.ได้สอบถามถึงกรณีที่มีชายชุดดำอยู่ในการชุมนุมด้วย ซึ่งตนได้ยืนยันไปว่า มีการใช้กำลังของกลุ่มชายชุดดำ ใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธที่ร้ายแรง กระทำต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน ศอฉ.จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธ โดยใช้ตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนด ตามหลักปฏิบัติ 7 ขั้นตอน ของการเผชิญหน้า ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรทำ แล้วเอาปืนไปไล่ยิงผู้ชุมนุม
นายถวิล กล่าวอีกว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีการสลายการชุมนุม มีแต่การขอคืนพื้นที่ในวันที่ 10 เม.ย.53 และกระชับพื้นที่ในวันที่ 19 พ.ค.53 ทั้งนี้ ก็เพื่อคุ้มครองเจ้าหน้าที่และประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้ถ้อยคำและเอกสารหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนต่อ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าคงไม่ต้องมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมอีก เพราะตนก็ไม่อยากมา ป.ป.ช.บ่อยๆ
"ผมยังได้ให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ป.ในประเด็นผู้เสียชีวิตด้วยว่า ตามที่ นปช.บอกว่ามีคนตาย 99 คนนั้น ความจริงแล้วทาง ศอฉ.นับดูแล้วได้ 91 คน แล้วต้องหักออก 3 คน เพราะ 2 คนเสียชีวิตที่ จ.ขอนแก่น โดยเป็นการบุกบ้าน อดีต ส.ส.ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ซึ่งเป็นเหตุอาชญากรรมปกติ เพราะเขาต้องป้องกันตัวเขา ก็มีเสียชีวิต 2 คน อีก 1 คน คือผู้ชุมนุมที่เป็นลมตาย หักออก 3 คน ก็เหลือ 88 คน และหักเจ้าหน้าที่ออก 11 คน ก็เหลือ 77 และหักผู้เสียชีวิตที่เป็นแม่ค้าตรงบีทีเอสสีลมออกอีก 1 คน เหลือ 76 คน และจาก 76 คน ก็ปรากฏว่าผู้ชุมนุมที่เป็นประชาชนเสียชีวิต ในวันที่ 10 เม.ย.อีก 21 คน ฉะนั้น ก็จะเหลือ 55 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลังวันที่ 10 เม.ย. - 19 พ.ค.ไม่ใช่เรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ไปใช้กำลังกดดันแล้วทำให้เกิดการเสียชีวิตเกือบร้อย มันไม่ใช่อย่างนั้น
แล้วก็เรียนว่า เหตุที่เสียชีวิตนั้นคือมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปวางกำลังรอบพื้นที่การชุมนุม แล้วเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งว่าห้ามเคลื่อนย้ายเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม แต่พอตกกลางคืนก็มีผู้มากระทำต่อเจ้าหน้าที่ จนมีเหตุตอบโต้ แล้วก็เสียชีวิตกัน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ที่ผมเล่าให้ ป.ป.ช.ฟัง ก็เพราะอยากให้เห็นว่า ที่บอกว่าเสียชีวิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นจากเหตุครั้งเดียว วันเดียว เวลาเดียว" นายถวิล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี