4 พ.ค.58 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ได้เปิดเผยว่าเตรียมหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ในการเรียกเก็บภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มขึ้น รวมทั้งพิจารณาจัดเก็บภาษีนำเข้าอุปกรณ์ตัวถังแอลพีจีที่จะดัดแปลงนำมาติดตั้งใช้ในรถยนต์เพิ่มขึ้น ว่า ตนได้ออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายที่นายวิฑูรย์ ออกมาเสนอมาตรการเก็บภาษีทั้งระบบของแอลพีจีภาคขนส่งให้เทียบเคียงกับน้ำมันดีเซล คือ ลิตรละ 4 - 5 บาท ขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สและภาษีรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สแอลพีจี เพราะเป็นแนวทางที่ไร้ธรรมาภิบาลไม่อาจยอมรับได้ เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนต้องดิ้นรนเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้วยการใช้แอลพีจีเป็นที่พึ่งของคนมีรายได้น้อย การประกาศเช่นนี้ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นแนวทางจ้องทำร้ายประชาชนอย่างไม่น่าให้อภัย
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการแก๊สแอลพีจีเป็นประชาชนที่เสียภาษีถูกต้องมิใช่มิจฉาชีพ มีภาระเลี้ยงครอบครัว การที่อธิบดีออกมาเสนอเช่นนี้จะเป็นการฆ่าผู้ประกอบการ ส่งผลให้ต้องปิดกิจการอย่างแน่นอน ดังนั้น ในฐานะผู้ประกอบการและผู้ใช้แก๊สแอลพีจี ขอประกาศจุดยืนคัดค้านกรณีดังกล่าวถึงที่สุด ถ้ายังดึงดันผู้ประกอบการและผู้ใช้แก๊สแอลพีจีจะรวบรวมรายชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และร้องต่อศาลยุติธรรมต่อไป
"การขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตก๊าซแอลพีเพื่อให้เท่ากับเชื้อเพลิงชนิดอื่น ขึ้นภาษีอุปกรณ์ติดตั้ง ขึ้นภาษีรถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจี ควบคุมการตั้งปั๊มใหม่ เป็นนโยบายที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการกับประชาชน ทั้งที่ปริมาณการใช้สูงที่สุด คือ ปิโตรเคมี ทำให้ก๊าซไม่เพียงพอจนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงอยากให้รัฐฟังเสียงประชาชนโดยยุติการขึ้นภาษีสรรพสามิตดังกล่าว ที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนและกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม" นายวัชระ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี