'วิชา'ซัด'จีทูจี'ใชัอุบายเลี่ยงตรวจ แฉส่งออกข้าวไม่ครบตามสัญญา
วันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 14.18 น.
Tag :
7 พ.ค. 58 การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วนในการแถลงปิดคดีกระบวนการถอดถอน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์, นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบมาตรา 56 (1) และมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 จากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี
นายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. เริ่มต้นแถลงปิดสำนวนว่า นายมนัส ร่วมกับ นายภูมิ และนายบุญทรง ร่วมกันทำสัญญาระบายข้าวกับบริษัท กวางตุ้งสเตชั่นนารีแอนด์สปอร์ตติ้งกูด อิมพอร์ตแอนด์เอกซ์พอร์ต (จีเอสเอสจี ) และไห่หนานเกรนแอนด์ออยล์อินดัสเตรียล (ไห่หนาน) ซึ่งระบุว่าได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนให้มาทำสัญญาค้าข้าว ทั้งที่ผู้เข้ามาเจรจายังเดินทางมาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวผิดปกติวิสัย ขณะที่คนที่ได้รับอำนาจให้เจรจาคือพนักงานส่งเอกสารให้สยามอินดิก้า และคนขับรถของเจ้าของบริษัทค้าข้าว
นายวิชา กล่าวว่า นอกจากนี้ ในประเด็นเรื่องเงินชำระค่าข้าวที่มีการพูดถึงว่าชำระราคาครบถ้วนนั้น ในข้อเท็จจริงเป็นการพูดความจริงไม่ครบหรือบิดเบือนความจริง เพราะจากการตรวจสอบไม่พบว่าเงินดังกล่าวได้รับจากจีเอสเอสจี หรือไห่หนาน แต่รับชำระเงินจากผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศหลายๆ บริษัท อีกทั้งการเจรจาซื้อขายข้าวที่อ้างแบบรัฐต่อรัฐระหว่างราชอาณาจักรไทยและรัฐวิสาหกิจจีนไห่หนาน เป็นกลอุบายของผู้ถูกกล่าวหา ที่สร้างขึ้นมาสมคบคิด อุปโลกน์ ข้ามาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
“ในห้วงที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่าการระบายข้าวแบบจีทูจี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เป็นกระบวนการอาศัยกลอุบาย หรือเล่ห์กระเท่ห์ ที่ต้องการทำให้ดูเหมือนเป็นจีทูจี แต่ไม่ใช่เลย เป็นกระบวนการตกลงกับบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งไม่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน ถือว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ เป็นกระบวนการเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เป็นการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เปลี่ยนแปลงการชำระเงินจากแบบแอลซี หรือเล็ตเตอร์ออฟเครดิต ตรวจสอบได้ง่ายว่าเงินที่ชำระมาจากแหล่งใด ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือไม่” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการส่งออกข้าวไปต่างประเทศตามสัญญารวม 4.9 ล้านตัน เพราะช่วงเวลาดังกล่าวรวมข้าวส่งที่ส่งออกไปยังประเทศจีนมีเพียงแค่ 3.75 แสนตันเท่านั้น อีกทั้งการไต่สวนของ ป.ป.ช. ไม่ได้ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ที่ถูกกล่าวหาว่ามีอคติ แต่มีการไต่สวนรับฟังความทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรม คำกล่าวอ้างเป็นเพียงการทำลายความน่าเชื่อถือ และ ป.ป.ช. ได้ประสานผ่านอัยการสูงสุดให้สองบริษัทเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแต่ก็ไม่ได้ติดต่อมา
“การทำสัญญาจีทูจีที่อ้างถึงจึงเป็นสัญญาลวงโลก ลวงรัฐ และหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ ทั้ง นายมนัส สร้อยพลอย นายภูมิ สาระผล นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้ร่วมกันอุปโลกน์ให้สองบริษัทเข้ามาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อไม่ต้องแข่งขันด้านราคา และนำข้าวออกไปเวียนเทียน ตอกย้ำ ซ้ำเติมความเสียหายแก่งบประมาณ แผ่นดิน เงินภาษีอากรที่เก็บจากประชาชนเท่าทวีคูณ” นายวิชา กล่าว