24 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5" เปิดโปงถึงขบวนการรุกล้ำและครอบครองพื้นที่ป่าของกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล โดยมีจุดเริ่มต้นคืออาศัยช่องว่างเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 ในการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินที่ตัวเองต้องการ ด้วยวิธีการ "บิด-บิน-บวม"
ระบุเนื้อหาดังนี้
ขบวนการฟอกป่า โกงชาติ เขมือบเกาะ episode 1 "จุดเริ่มต้นของความชั่ว"
ครบรอบ 1 ปี คสช.ขอพูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติดีกว่า ผลกระทบมีถึงคนไทย เพราะเป็น "สมบัติของทุกคน" จุดเริ่มต้นของความชั่ว เมื่อ "นายทุน" เกิดความโลภ ต้องการที่ดินศักยภาพสูงไม่ว่า เขาใหญ่ เกาะสมุย เกาะภูเก็ต เกาะช้าง และสถานที่ท่องเที่ยว ป่าเขาลำเนาไพร ชายหาดอีกมาก
ส.ค.1 คือใบเบิกทาง ถือเป็นเอกสารสิทธิ์ ของผู้ที่ครอบครองที่ดินเอาไว้ก่อนที่จะมีประมวลกฎหมายที่ดินปี 2497 พอรัฐบาลออกกฎหมายที่ดินมา ก็บอกให้ชาวบ้านแจ้งสิทธิ์ครอบครองที่ดิน แต่ในสมัยก่อนร่อนชะไร ไม่มีใครต้องการที่ดินในป่า ในเขา บนเกาะ จึงไม่มีชาวบ้านคนไหนอยากแจ้งว่ามีที่ดินมาก เพราะต้องเสียภาษีที่ดินมากไปด้วย
กาลเวลาผ่านไป มีความต้องการที่ดินเพิ่มมากขึ้น จนถึงสมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน ที่ดินเกิดบูม ราคาพุ่งสูง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว มีการก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ จึงออกกฎกระทรวงว่า "ที่ดินในเขตป่าจะออกเป็นโฉนดได้ต้องมี ส.ค.1 เท่านั้น"
นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ นำไปสู่ "ขบวนการเขมือบป่าโกงชาติ" เมื่อ ส.ค.1 ไม่มี ก็ต้องทำให้มันมี เมื่อมี ส.ค.1 น้อยก็ต้องทำให้มันมีมาก เมื่อมี ส.ค.1 อยู่ในที่ดินที่ไม่มีใครต้องการ ก็ต้องย้ายให้ไปอยู่ในที่ดินที่มีความต้องการสูง กระบวนการแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม ส.ค.1 จึงแบ่งออกเป็นประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1 "ส.ค. บิด” คือการบิดจากความเป็นจริง จากเดิมที่ไม่เคยมี ส.ค.1 มาก่อน ก็ทำให้มันมีขึ้นมา (ที่ดินอยู่บนเกาะ ไม่เคยมี ส.ค.1 ก็ใช้กำลังเงินเสกมันขึ้นมา)
ประเภทที่ 2 "ส.ค. บิน" คือการโยก ส.ค.1 จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ที่มีความต้องการมากกว่า เช่น ย้าย ส.ค.1 ในหมู่ 4 บินไปอยู่ ในหมู่ 3 (เพราะที่สวยกว่า ทำเลดีกว่า)
ประเภทที่ 3 “ส.ค. บวม” คือการขยายที่ดินใน ส.ค.1 เดิม ให้เพิ่มมากขึ้นจากที่ระบุไว้ (เดิมมีระบุไว้สิบไร่ ก็ขยายเพิ่มเป็นร้อยไร่)
การครอบครอง เกาะช้าง ของนายทุนข้ามชาติ และ เกาะสมุย ของคนดีห่มเหลือง มือถือสากปากถือศีล ล้วนแล้วแต่ใช้กรณี ส.ค. บิด และ ส.ค. บวม
จากที่ไม่เคยมี ส.ค.1 อยู่จริง ก็เสกมันขึ้น จากที่มี ส.ค.1 อยู่สิบไร่ก็เพิ่มเป็นร้อยไร่ จากที่มี ส.ค.1 อยู่ร้อยไร่ก็เพิ่มเป็นพันไร่ อย่างนี้ง่ายต่อการโกง และยากต่อการตรวจสอบ เพราะมักอ้างถึงการเดินสำรวจในอดีตที่ผิดพลาด เอกสารเก่าสูญหาย และมักใช้คนในพื้นที่ (ที่จ้างมา) ให้ช่วยกันยืนยัน
การเล่นแร่แปรธาตุ จาก ส.ค.1 “บิด บิน บวม” จนไปถึงขั้นตอนการออกโฉนด หากเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางทำได้ เพราะมีขั้นตอนกระบวนการอีกมากมาย
แต่ที่นี่คือ “ประเทศไทย” ไม่มีอะไรยากสำหรับ “คนโกง”
“เจ้าหน้าที่รัฐ” คือบุคคลสำคัญ ที่มักใช้ช่องว่างตีความกฎหมายตามดุลพินิจของตัวเอง เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่จ่ายเงินฟาดหัว และปกป้องตัวเองโดยแสร้งทำเป็นออกหนังสือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (พวกเดียวกัน) เพื่อให้อีกฝั่งตอบรับแบบกำกวม เอาไว้ใช้เป็นหลักฐานเวลาโดนร้องเรียน
อภินิหารจาก “ส.ค.1” ไปเป็น “โฉนด” กระบวนการนี้ยังไม่จบ ต้องลากไส้กันอีกยาว ให้มันพังกันไปข้างนึง
โปรดติดตาม episode 2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี